1

สปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ช่างยากเหลือเกิน จะแก้ไขอย่างไร?

สปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ช่างยากเหลือเกิน จะแก้ไขอย่างไร

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

ผมเพิ่งจะเริ่มทำธุรกิจเครือข่าย ทำมา 4 เดือนแล้ว เดือนนี้เข้าเดือนที่ 5 พยายามสปอนเซอร์ ก็สปอนเซอร์ได้ 1 คน ก็ซื้อกิน ซื้อใช้ได้แค่ 2 เดือนเท่านั้น ผู้มุ่งหวังคนนี้ก็หายไป จะสปอนเซอร์หาคนใหม่ก็ยากเหลือเกิน ขอคำแนะนำด้วยครับ 

More...

วีดีโอ
"สปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ช่างยากเหลือเกิน จะแก้ไขอย่างไร?"

หนังสือเสียง 

"สปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ช่างยากเหลือเกิน จะแก้ไขอย่างไร?"

เชษฐวิทย์ สิงขร:

สวัสดีครับ ก็มาพบกับช่วงจ่ายยา กับเราสองคนนะครับ วันนี้มีคนไข้ ก็คือนักธุรกิจ ออนไลน์ กำลัง มีปัญหา เขียนคำถามมา

สวัสดีครับอาจารย์กมลเวช ผมชื่อสุทัศน์ เพิ่งจะเริ่มทำธุรกิจเครือข่าย ทำมา 4 เดือนแล้ว เดือนนี้เข้าเดือนที่ 5 พยายามสปอนเซอร์ ก็สปอนเซอร์ได้ 1 คน ก็ซื้อกินซื้อใช้ได้แค่ 2 เดือนเท่านั้น ผู้มุ่งหวังคนนี้ก็หายไป จะสปอนเซอร์หาคนใหม่ก็ยากเหลือเกิน ขอคำแนะนำด้วยขอบคุณครับ

กมลเวช เมืองศรี:

ขอบคุณคุณสุทัศน์นะครับ ที่ได้ถามปัญหามา ซึ่งผมบอกเลยว่าปัญหาที่กำลังเจออยู่นี้ นักธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นใหม่เจอกันหมดทุกคน แม้กระทั่งเราสองคน

ถ้าท่านไม่ใช่ คนที่มี อิทธิพล ต่อคนมากๆ เป็นหัวหน้าคน เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ ที่มีคนรู้จักพูดอะไรคนก็เอาด้วยหมด รับรองว่าจะต้องเจอปัญหา จากธุรกิจเครือข่ายแน่ๆ

คือชวนแล้วเขาไม่เห็นภาพ ชวนแล้วเขาไม่สมัครทำธุรกิจด้วย หรือสมัครแล้วก็ไปต่อไม่ได้ เพราะเราก็ไม่รู้จะสอนอะไร นี่คือปัญหาโลกแตกของธุรกิจเครือข่าย

เพราะฉะนั้นคลิปนี้นะครับ ผมเชื่อว่าถ้าท่านเป็นนักธุรกิจเครือข่ายและต้องการรู้ว่า ทางออกของปัญหานี้ ต้องทานยาอะไร เพื่อที่ท่านจะได้หายจากปัญหานี้ เพราะเราสองคนก็เคยป่วยแบบนี้มาก่อน และเราก็กินยาก่อน พอกินยาก็หาย ตอนนี้เราไม่ต้องกินยาอีกเลย

แล้วเราก็มาแบ่งปันยานี้ให้กับทุกท่าน เรามาเริ่มต้นแบบนี้ดีกว่า ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ แตกต่างจากแทบธุรกิจบนโลกนี้ คน 99.99% ที่ทำธุรกิจเครือข่ายไม่เข้าใจมัน

เชษฐวิทย์ สิงขร:

คือถ้าคุณเข้าใจธุรกิจเครือข่าย คุณจะทำทันทีเลยครับ แต่ถ้าคนไม่เข้าใจ เขาก็จะไม่ทำ

กมลเวช เมืองศรี:

ใช่ ไม่ทำแล้วยังไปห้ามคนอื่นไม่ให้ทำด้วย หรือเข้ามาทำแล้ว ก็เลิกทำ เป็นคำพูดที่ถูกต้องมาก

ถ้าคนบนโลกนี้เข้าใจธุรกิจเครือข่าย เหมือนอย่างที่เราเข้าใจ ถ้าเขาเจอโอกาสดีเขาจะรีบทำทันที ทำทันทีและทำให้สำเร็จ

เพราะมันเป็นธุรกิจที่ลงทุนต่ำความเสี่ยงน้อย ผลกำไรสูง สามารถสร้าง Passive Income หรือรายได้ที่ไม่ต้องทำก็ยังได้เงิน ไปตลอดชีวิตได้

แต่มันจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ

ผมจะแบ่งปันครับว่าท่านจะต้องทานยาอะไรบ้าง ออกเป็น 3 ขนาน ถ้าท่านทานยานี้เข้าไปแล้วรับรองว่า ธุรกิจท่านจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

1.ปรับทัศนคติ

ท่านจะต้องทานยาปรับทัศนคติของตัวเอง การทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จนั้น เป็นเรื่องของความเข้าใจ และเรื่องของทัศนคติ ของผู้ที่ทำธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก

การที่ท่านได้เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย โดยส่วนมาก จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์มาก่อน และโดยส่วนมาก จะทำงานประจำอยู่ หรือเคยทำงานประจำมาก่อน กลุ่มคนกลุ่มนี้ที่ทำงานประจำ หรือไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจอะไร ให้ประสบความสำเร็จมาก่อนเลย จะมีทัศนคติอยู่ อย่างหนึ่ง 

ผมต้องออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้ว่างานประจำไม่ดีนะครับ ผมก็ทำงานประจำมาก่อน โค้ชแนม ทำงานประจำมาก่อน พ่อแม่เราก็ทำงานประจำเลี้ยงดูเราจนเติบโตมาก่อน ผมไม่มีปัญหาอะไรกับงานประจำ

เพียงแต่ว่า ทัศนคติของคนทำงานประจำ มันจะมีทัศนคตินึงที่ถูกปลูกฝังอยู่ในหัว แทบทุกคน

แล้วทัศนคตินี้ส่วนมากแล้วทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อเขาก้าวเข้ามาทำธุรกิจ ทัศนคตินี้เรียกว่าทัศนคติของคนทำงานประจำ

คนทำงานประจำนั้น โดยเบื้องลึกของจิตใจแล้ว การที่ทำให้เขาลุกขึ้นแต่เช้า เช่นทำงานเริ่ม 05:00 นต้องลุกขึ้น 4:00 น 3:00 น แรงผลักดันของคนที่ทำงานประจำ เขาต้องตื่นแต่เช้าไปทุกวัน แล้วไม่กล้าขาดไม่กล้าสายไม่กล้าลา เพราะกลัวตกงาน

เราเคยเป็นกันหมดเจ้านายสั่งอะไรเรา ครับๆ ยินดีทำได้ครับนาย สบายทุกอย่าง เป็นเพราะว่าแรงผลักดัน กลัวการสูญเสีย ความมั่นคงในงานประจำ กลัวโดนไล่ออก แล้วจะไม่มีรายได้

เราไม่มีทักษะที่จะไปสร้างรายได้ในช่องทางอื่น ธุรกิจเราก็ยังทำไม่เป็น ดังนั้นคนทำงานประจำจะถูกแรงผลักดัน ที่เรียกว่า Fear of loss แปลว่าการกลัวการสูญเสีย 

เขาจะไม่กล้าขยับทำอะไรเลย กลัวความสูญเสีย กลัวความมั่นคง และความมั่นคงจะเป็นแบบนี้คือ

สัญญาก่อนสิว่าฉันทำแล้วฉันจะได้เงิน ถ้าเธอสัญญาว่าฉันทำแล้วจะได้เงินแน่ๆ ทุกสิ้นเดือนฉันจะไปทำงานประจำ สัญญาใช่ไหมครับว่าสิ้นเดือนจะได้เงิน นี่คือคำสัญญาของงานประจำ

เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้เขาจะยึดติดกับทัศนคติที่ว่า สัญญาก่อนนะ ทำให้เห็นก่อนนะว่าทำแล้วได้แน่ แล้วฉันจะทำ คราวนี้ถามโค้ชแนมในฐานะของผู้ที่ เคยทำงานประจำ แล้วก็เข้ามา สร้างธุรกิจจากที่บ้าน ในธุรกิจมันสัญญาได้ไหม ว่าทำแล้วจะได้เงินทันที ในเดือนถัดไป

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ธุรกิจไม่ได้สัญญานะครับว่า เราทำแล้วจะได้ธุรกิจเลย ไม่มีการสัญญานะครับ

กมลเวช เมืองศรี:

อย่างนี้ถ้าฉันไปทำก็มีความเสี่ยงนะสิ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เอาดีกว่ามีความเสี่ยง ใช่ไหมครับทุกท่าน

คนทั่วไปจะคิดอย่างนี้ บางคนก็กล้าเสี่ยง แล้วก็ลองเข้ามาทำสัก 1 อาทิตย์ 1 เดือน 2 เดือนหรือ 3 เดือน แล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์ เหมือนกับที่คุณสุทัศน์ถามมาที่ทำได้แล้ว 5 เดือน สปอนเซอร์คนได้ 1 คน เสร็จแล้วคนนั้นก็ไม่ทำต่อ

ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าคุณสุทัศน์เคยทำงานประจำมาก่อนหรือเปล่า แต่ถ้าตอนนี้กำลังรู้สึกเคว้งคว้างไปต่อไม่ได้ ผมแนะนำว่าจากนี้ไป ถ้าเราต้องการที่จะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

อย่าใช้ชีวิตด้วยแรงผลักดันของการ กลัวการสูญเสีย ของความมั่นคง

เพราะในธุรกิจ มันจะมั่นคงได้เราต้องมั่นคงก่อน มั่นคงในทัศนคติและความคิดว่า มันจะมี Learning Curve คือ เวลาของการเรียนรู้ เราจะต้องให้เวลา ในการเรียนรู้อย่างน้อย 6 เดือน

เพราะมีสูตรอยู่สูตรนึง เป็นสูตรแห่งความสำเร็จถ่ายทอดโดย ดอน เฟียล่า ผู้เขียนหนังสือโด่งดัง การนำเสนอ 45 วินาที ดอน เฟียล่าเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จมีองค์กรธุรกิจเครือข่ายมากกว่า 8 แสนคน คงไม่ต้องนึกว่ารายได้ต่อเดือนเขาจะกี่ล้าน

อ่านบทความเกี่ยวกับวิธีการนำเสนอ 45 วินาที

ดอน เฟียล่า แบ่งปันไว้อย่างนี้ครับว่า เราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ในการเรียนรู้ เพื่อจะสร้างธุรกิจเครือข่ายให้เกิดผลลัพธ์และประสบความสำเร็จ และเพื่อที่จะสร้างรายได้ 6 หลัก

นั่นหมายความว่าใครก็ตาม ที่ทำตามสูตรความสำเร็จนี้ในธุรกิจเครือข่ายได้ ใน 6 เดือน เขาจะต้องมีรายได้แบบ Passive Income 6 หลัก โค้ชแนม ว่าเร็วไหม การทำหกเดือนแล้วมี Passive Income 6 หลัก

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ผมว่าเร็วๆนะครับ เมื่อเทียบกับธุรกิจทั่วไป

กมลเวช เมืองศรี:

และเมื่อเราเรียนวิชานี้แล้วเราจะสามารถทำได้จริงนะครับ เพราะฉะนั้นท่านที่ทำธุรกิจเครือข่ายอยู่ ซึ่งหลายคนทำมา 10-20 ปีแล้วยังไม่ไปไหนเลย เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง เพราะฉะนั้นเอาใหม่ กลับมาตั้งลำใหม่

ในข้อที่ 1 คือวิธีคิด คือการทำให้มากพอจนเกิดเป็นทักษะ ฝึกวิชา ท่านจะต้องสร้างผลลัพธ์ได้อย่างแน่นอน ผมแบ่งปันวิธีคิดจากเศรษฐีท่านหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย

เศรษฐีท่านนี้ทำธุรกิจมา เมื่อ 10 ปีก่อนเขาเล่าให้ผมฟัง เขาทำธุรกิจเครือข่ายในอุตสาหกรรมลดน้ำหนัก ดูแลผิว ซึ่งเขาไม่เคยทำธุรกิจเครือข่ายประสบความสำเร็จมาก่อน เป็นคนธรรมดา

เขาได้รับการสอนจากผู้แนะนำของเขา คนที่จะช่วย สอนเขาให้ประสบความสำเร็จ ผู้แนะนำเขาบอกว่า ธุรกิจเครือข่ายนั้นง่ายมากๆ ถ้าคุณทำแบบที่ผมบอกได้ คุณต้องทำสำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านแน่นอน

วิธีนั้นง่ายนิดเดียวคือคุยกับคนวันละ 10 คน ถ้าคุณสัญญากับตัวเองแล้ว คุณสัญญากับผมได้ ว่าคุณจะคุยกับคนวันละ 10 คน ผมการันตี ว่าไม่เกิน 1 ปี คุณจะต้องรวยเป็นเศรษฐีเงินล้านแน่นอน

ผลปรากฏว่า สุภาพบุรุษท่านนี้ เขาก็บอกโอเค จากนี้ไปผมสัญญากับคุณและกับตัวผม ว่าผมจะคุยกับผู้คน ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก ในเรื่องโอกาสทางธุรกิจที่ผมกำลังทำอยู่นี้ วันละ 10 คน โดยไม่คาดหวังผลลัพธ์

ดังนั้นทุกเช้าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วแต่งตัว ออกไปพบปะผู้คนออกไปคุยกับคนอื่น แบบตัวต่อตัว สมัยก่อน facebook ,YouTube ยังไม่มี อินเทอร์เน็ตยังไม่ ได้ใช้กันเลย

เขาก็เดินคุยกับคนอื่น ทำความรู้จัก เจอกันที่ไหนก็คุยแบ่งปัน ถึงเรื่องโอกาสทางธุรกิจ โดยการถามว่า

ถ้าฉันมีช่องทาง ในการทำให้คุณมีรายได้เพิ่ม เดือนละ 5,000 ถึง 20,000 คุณอยากจะดูไหมอยากจะฟังไหม

เขา มีเทคนิคก็คือ ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ก่อนออกจากบ้านก็จะเอาเหรียญใส่กระเป๋า ข้างซ้าย จำนวน 10 เหรียญแล้วก็ออกไปทำงานใช้ชีวิต ออกไปสปอนเซอร์ออกไปคุย

เมื่อคุยโอกาสกับ 1 คนก็ย้ายเหรียญจากกระเป๋าซ้ายมาอยู่ด้านขวา เมื่อคุยครบ 10 คนถึงจะกลับบ้านได้ ถ้าคุยไม่ครบ ก็จะไม่กลับบ้าน

เขาทำอย่างนี้ติดต่อกันประมาณ 4-5 ปี รายได้ล่าสุด จากการที่ทำแค่นี้ เขามีรายได้ 4.5 ล้านบาทต่อเดือน

ทุกท่านพร้อมจะทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อความสำเร็จหรือเปล่า เพราะสิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จ ธุรกิจเครือข่ายมันไม่มีหน้าร้าน เราจะต้องทำการตลาดด้วยตัวเราเองให้เป็น

วิธีการทำการตลาดตัวเราง่ายที่สุดก็คือออกไปคุยออกไปลุย สุภาพบุรุษท่านนี้เขา พัฒนาทัศนคติเพื่อความสำเร็จ

ผมอยากจะบอกกับทุกท่านว่ามันมีงานต้องทำนะครับ ถ้าท่านทำงานประจำมา 10 ถึง 30 ปีแล้วยังไม่รวย แต่ถ้าท่านมาฝึกวิชาแล้วทำอย่างที่ สุภาพบุรุษในตัวอย่างนี้ทำ เขาฝึกว่าจะต้องพูดอย่างไร พาคนเข้าระบบอย่างไรสปอนเซอร์คนอย่างไร ทำติดต่อกัน 6 เดือน

นั่นหมายความว่าถ้า 10 วัน ก็จะคุยกับ 100 คน หนึ่งเดือนก็คุยได้ 300 คน ถ้า 6 เดือนก็จะคุยได้ 1,800 คน

ถ้าท่านคุยกับคน 1,800 คน หรือถ้าเป็นยุคนี้ใช้วิธีออนไลน์สื่อสารกับผู้คน มันยิ่งง่ายมากเลยแต่ยังไม่พูดตอนนี้นะครับ

ผมบอกเลยว่ายุคนี้เป็นยุคที่ทำธุรกิจออนไลน์ขายตรงเครือข่าย ได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ายุคก่อนเป็น 10 เท่า ไม่มียุคไหนที่จะง่ายกว่ายุคนี้อีกแล้ว แต่ท่านจะต้องเรียน

ท่านพร้อมที่จะพัฒนาทัศนคติหรือเปล่า ถ้าพร้อม comment ลงไปนะครับ แสดงความคิดเห็นให้ผมทราบด้วย ว่าท่านพร้อมจะพัฒนาทัศนคติอะไร ไม่จำเป็นต้องเหมือนสุภาพบุรุษแค่นี้ก็ได้

คือคุยกับคนวันละ 10 คน ท่านอาจจะพร้อมคุยกับคนละ 2 คน 5 คน ขอให้ตัดสินใจและมีวินัย และรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง วิธีการอีกวิธีหนึ่งที่ดีนั้นก็คือ หาบัดดี้ และบัดดี้ที่ดีที่สุดก็คืออัพไลน์ของท่านนั่นแหละ

สมมุติว่าโค้ชแนมเป็นอัพไลน์ผม ผมก็จะบอกเลยว่า ผมขอให้สัจจะวาจา ว่าผมจะคุยกับคุณวันละ 10 คน ถ้าผมไม่คุยกับคนวันละ 10 คนผมจะไม่นอน

ผมจะเล่าต่อว่าสุภาพบุรุษ ท่านนี้ หลังจากมีรายได้ 4.5 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว เขามีบ้านใหญ่เป็นคฤหาสน์ อยู่ในหมู่บ้านที่แต่ละบ้านนั้น ต้องเดินกันเหนื่อยกว่าจะเจอกัน เพราะว่ารวยมากแต่ก็ยังไม่หยุดทำ

มีอยู่วันหนึ่งเขาออกไปทำเหมือนเดิม พกเหรียญ 10 เหรียญไปในกระเป๋าเหมือนเดิม แล้วก็ทำงานทั้งวัน พอกลับบ้าน ถอดเสื้อผ้ากำลังจะอาบน้ำ ล้วงลงไปในกระเป๋า เจอเหรียญ อยู่ 1 เหรียญ แสดงว่ายังไม่ได้คุยกับคน อีก 1 คน

แล้ววันนั้นฝนตกหนัก ตอนที่กลับบ้านนั้นประมาณ 23:30 น ฝนตกหนัก ถ้าเป็นคนทั่วไป เขาจะให้อภัยตัวเองไหมครับ ทำมา 4 ปีตอนนี้รายได้ 5 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว น่าจะเข้านอนหลับสบายได้แล้ว

แต่สุภาพบุรุษท่านนี้รักษาสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้ เขาก็เลยยังไม่นอน เขาก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี มองออกไปข้างนอก ฝนก็ตกทำอย่างไรดี แล้วแต่ละบ้าน ก็นอนหลับหมดแล้ว แล้วจะโทรไปหาใคร 23:30 นแล้ว

เขาก็มองไปหน้าบ้านเจอรถขยะ เขาดีใจมากวิ่งคว้าร่ม รีบวิ่งไปหารถขยะ แล้วขอคุยกับคนเก็บขยะ ขอถามหน่อยได้ไหมครับ ถ้าผมมีช่องทางที่ทำให้คุณมีรายได้ เพิ่มอย่างน้อย 5,000 ถึง 20,000 บาท ต่อเดือน แต่ถ้าคุณทำดีๆ อาจจะมีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือน ได้เลยนะครับภายใน 1-3 ปีนี้ คุณอยากฟังข้อมูลไหม อยากรู้ไหมว่าทำอย่างไร

ทายสิครับว่าคนเก็บขยะตอบว่าอย่างไร คนเก็บขยะตอบว่าไม่อยากดู ผมไม่เชื่อคุณหรอก ฉันมีความสุขกับอาชีพเก็บขยะของฉัน ทุกท่านคิดว่าสุภาพบุรุษท่านนี้จะเสียใจหรือไม่ ไม่เสียใจแน่นอนเพราะไม่ต้องการผลลัพธ์

และเขาขอบคุณ คนเก็บขยะ เพราะผมจะได้นอนแล้ว แล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้านกลับไปนอน วัตถุประสงค์คือวินัย แล้วก็โฟกัสที่จะทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อประสบความสำเร็จ

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ไม่แปลกใจเลยนะครับที่เขาประสบความสำเร็จ เพราะเขาทำต่อเนื่องและมีวินัย

กมลเวช เมืองศรี:

ทุกท่านครับนี่คือ ทัศนคติของผู้ที่ ประสบความสำเร็จ มีโฟกัสและมีวินัยที่จะทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อความสำเร็จ ตั้งเป้าไว้ทุกวันก็คือทุกวัน สิ่งที่เขาทำก็คือ

Marketing direct Talk การตลาดของเขาคือพูดปากต่อปาก

เขาก็พูดอย่างนี้ จนเขาชินเขาสามารถพูดได้กับทุกคน เพราะเขาขอแค่คำปฏิเสธวันละ 10 คน ก็คือทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วเขาก็ถ่ายทอดปรัชญานี้ให้กับทีมงาน ของเขา นั่นคือสาเหตุ ที่ทำให้ทีมงานของเขาโต เขาจึงมีรายได้แบบ Passive Income เดือนละ 4.5 ล้าน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมากกว่า 10 ปีที่แล้ว ท่านว่าตอนนี้เขาจะรวยเท่าไหร่ น่าจะหลายสิบเท่าเลยครับ

จงใช้ชีวิตของการเรียนรู้ พร้อมที่จะเสี่ยง และอย่าหาความมั่นคงก่อนการทำธุรกิจ 

เมื่อเราปรับทัศนคติของการไม่กลัวความสูญเสีย ฉันรู้ว่าทำธุรกิจช่วงแรกไม่ได้ผลลัพธ์แต่ฉันต้องการทักษะคนทั่วไปมักคาดหวังผิด

ส่วนใหญ่ต้องการผลลัพธ์ทันที ขอถามหน่อยนะครับ เข้าใจธุรกิจหมดหรือยัง สินค้าอธิบายได้หมดหรือไม่ แผนการตลาดรู้หมดหรือยัง เจอคำถามเวลาเขาโต้เถียงมาตอบได้หรือไม่

นักธุรกิจเครือข่ายสักคนนึง กว่าจะรู้เรื่องราวทั้งหมด คิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ที่แนะนำก็คือ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย จะให้เก่งเทพจริงๆ ต้องเป็นปีครับ

ธุรกิจเครือข่ายนั้นปีแรกเป็นปีแห่งการตั้งไข่ แล้วถ้าท่านทำธุรกิจเครือข่าย มาก่อน แล้วเห็นว่ามันเป็นไปได้ ถ้าท่านเลิกไปก่อน ผมขอแนะนำว่าให้เข้ามาใหม่อีกครั้ง แล้วเข้ามาแบบรู้จริงๆ แล้วพร้อมจะพัฒนาทักษะจริงๆ ฉันจะมีรายได้แบบเศรษฐี ที่ผมเล่าให้ฟัง หลังจากที่เราพัฒนาวิธีคิดแล้ว รู้ว่าเราไม่ได้รวยทันที ภายใน 1 เดือนแรกอย่างแน่นอน

2.พัฒนาวิธีการสื่อสารกับผู้คน

อย่างที่ 2 ท่านต้องพัฒนาวิธีการสื่อสารกับผู้คน ซึ่งวิธีคิดนั้นสำคัญ 80% วิธีสื่อสารสำคัญ 15%

การที่เศรษฐีท่านนั้นไปคุยกับคนเก็บขยะ นี่คือการสื่อสาร ดังนั้นในธุรกิจเครือข่าย ต่อให้ท่านไม่มีเครื่องมือออนไลน์อะไรเลย ถ้าท่านรู้จักวิธีการสื่อสาร คุยกับคนให้เป็น คนส่วนมากสื่อสารไม่เป็น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจเครือข่าย คิดว่าการสื่อสารคือต้องพูดให้มากที่สุด มาถึงก็พูดอย่างเดียวสินค้าสาธิต แผนการจ่ายผลตอบแทน ยิ่งพูดมาก ยิ่งไม่ได้ ยิ่งล้มเหลว

เพราะว่าสูตรแห่งความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย มีอยู่สูตรนึง ว่าไว้แล้วผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ คือพูดให้น้อยที่สุด แล้วต้องสอนทีมงานด้วยว่าอย่าพูดให้มาก ยิ่งพูดมากคนจะยิ่งคิดว่าเขาทำไม่ได้

เพราะคนส่วนมากที่ท่านไปหานั้น เขาอาจจะไม่เคยทำธุรกิจเครือข่าย มาก่อน เขาก็จะนั่งฟังท่านพูด หลายชั่วโมงแล้ว พูดคล่องจังเลย ท่านพยายามโชว์ความเก่ง แต่ในใจเขาคิดว่าอะไร ท่านเคยถามเขาไหมว่า เขาคิดอะไรอยู่

แล้วที่ท่านคุย 2 ชั่วโมง ท่านเคยถามก่อนไหม ว่าเขาอยากฟัง หรือไม่ ถ้าท่านไม่เคยแสดงว่าท่านยังสื่อสารไม่เป็น

ดังนั้นการที่จะทำให้ใครก็ตาม เปิดใจ ถามเขาก่อนสักนิดว่า ถ้าฉันมีช่องทางที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้ เราจะมีรายได้ หลักหมื่นถึงแสนภายใน 6 เดือนนี้ เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง โดยทำแบบ Part Time แต่ในต้องใช้เวลาฟังข้อมูล ซัก 1 ชั่วโมง พอจะจัดเวลาฟังข้อมูล 1 ชั่วโมงนี้ได้หรือไม่

ต้องถามก่อน ถามให้เป็น สื่อสารให้เป็น ผมจะเริ่มต้นด้วยการไม่ยัดเยียดทุกสิ่งทุกอย่าง ให้กับผู้มุ่งหวังก่อน ผมจะถามก่อนว่า ถ้ามันต้องแลกกับข้อมูลคือชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์

สมมุติว่าผมทำออนไลน์ ผมทำ presentation ในหน้าถัดไป แต่ผมจะล็อคไว้ก่อน ถ้าคนอยากดูเขาจะต้องแลกชื่อ อีเมลเบอร์โทรศัพท์ ถ้าเขาไม่ให้ผมก็ไม่ให้ดู ถ้าเขาพร้อมแลกมาผมก็จะให้ดู presentation เกี่ยวกับบริษัทของเรา ยกตัวอย่างนะครับ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เรานั้นเปิดใจผู้มุ่งหวังได้

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เวลาที่เราฟังข้อมูลโดยไม่เต็มใจนั้น ขณะที่ฟังก็กำลังคิดว่า จะปฏิเสธอย่างไรดี

กมลเวช เมืองศรี:

ถ้าเราไม่ถาม เขาจะไม่เต็มใจฟังถูกไหมครับ แต่ถ้าเราถามแล้วเขาตอบรับ แสดงว่าเขาเต็มใจ ดังนั้นถ้าท่านอยากให้คนทำอะไร ในสิ่งที่ท่านอยากให้เขาทำ ท่าน ต้องทำให้เขาเต็มใจทำ ด้วยความเต็มใจของเขาเอง 100%

มีคำถามอีกคำถาม ที่ถามว่า พอเขาเข้ามา เขาอยู่แค่ประมาณ 2 เดือน ก็เลิก ผมจะผ่า ปัญหานี้ให้ฟังว่าทำไมเขาจึงเลิก

  • ข้อที่ 1 เขาไม่รู้ว่าจะไปยังไงต่อ เขาไปชวนคน ถ้าไม่ได้สอนเขา และท่านก็ไม่รู้ว่าจะสอนเขาอย่างไร ท่านก็ปล่อยให้เขาไปชวนคน และเขาโดนปฏิเสธมา เขาเจ็บ เขาไม่ได้เงิน เขารู้สึกท้อแท้ รู้สึก ว่าไม่รู้จะไปยังไงต่อ เขาก็เลยเลิก
  • กับอีกข้อหนึ่ง ท่านไม่ได้สอนวิธีการสื่อสารให้กับเขา ไม่ได้สอนวิธีการสปอนเซอร์ให้กับเขา และเขาก็ไปต่อไม่ได้ ส่วนมากนี่คือปัญหาที่ทำให้คนเลิก

3.พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการสร้างธุรกิจเครือข่าย

เพราะฉะนั้นถ้าท่านอยากทำให้ ท่านประสบความสำเร็จในการสร้างองค์กรธุรกิจ เครือข่าย ท่านต้องเรียนทักษะดังนี้

3.1 Prospecting - การสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง

วิธีการ Prospecting หรือการสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง การเข้าหาผู้คน การตั้งคำถามคน ท่านมีญาติพี่น้อง และลิสรายชื่อมา จะ 5 หรือ 10 รายชื่อหรือ 100 รายชื่อ ก็ตาม

แทนที่ท่านจะไปนำเสนอทุกอย่าง ให้กับผู้มุ่งหวัง ท่านจะต้องถามแต่ละรายชื่อว่า ถ้าฉันมีช่องทางที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ทำให้คุณมีรายได้เพิ่ม อยากดูข้อมูลมั้ย อยากฟังหรือไม่ ถามแบบนี้ไม่เกิน 1 นาที ถ้า 100 รายชื่อก็ 100 นาที

นั่นหมายความว่า ถ้าท่านทำการตลาดเป็น มีการสร้างรายชื่อเป็น และถามเป็น โค้ชแนม ถ้าผมถามแบบเมื่อสักครู่นี้ ถามแบบให้เกียรติ ไม่ยัดเยียด ว่ามีช่องทางทำเงินได้ คิดว่า มี คนบนโลกนี้ใครไม่อยากมี รายได้เพิ่ม

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ผมว่าไม่มีครับ ทุกคนอยากได้รายได้เพิ่ม นอกจากคนที่รวยแล้ว เขาไม่อยากได้แค่ 5,000 บาทหรือ 20,000 บาท 50,000 เล็กสำหรับเขา

กมลเวช เมืองศรี:

แต่ถ้าท่าน ตั้งคำถามเป็น และเปิดโอกาสให้เขาได้ตอบเอง ผมว่าทุกคนสนใจที่อยากจะฟังอยากจะดูข้อมูลเห็นด้วยไหมครับ

ดังนั้นจะต้องถาม ถามให้เป็นฝึกให้เป็น ซึ่งเรามีคลิปที่สอนเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะแยะมากมายเลย ทั้งใน YouTube Channel ของเรา ในเว็บไซต์ MLMOnlineSchool.com ดูได้ที่ลิงค์นี้

วิชาแรกคือ ต้อง prospecting คนให้เป็น สร้างรายชื่อผู้มุ่งหวังเป็น โทรถามให้เป็น
ฉันจะต้องเรียนรู้วิธีใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างรายชื่อ เพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของนักธุรกิจเครือข่ายก็คือ

ขาดรายชื่อ เพราะขาดรายชื่อ ก็เลยขาดรายได้ นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของนักธุรกิจเครือข่าย ไม่มีรายชื่อไม่มีคนคุย

อย่างเช่นที่บอกว่าให้คุยกับคนละ 10 คนก็ไม่รู้จะคุยกับใครแล้ว ไม่รู้จะไปหาใครอีกแล้ว ผมแนะนำว่าให้เรียนวิธีการ ว่าจะใช้อินเทอร์เน็ต อย่างไร ในการสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง

อย่างผมกับโค้ชแนมในช่วงแรกเราก็ตัน ไม่รู้จะชวนใครไปต่อไม่ได้ แต่หลังจากที่เราได้เรียนวิชาว่าทำอย่างไร ถึงจะทำให้ผู้คนอยากเข้าร่วมธุรกิจกับเรา อยากซื้อสินค้า เอ่ยปาก ขอทำธุรกิจกับเราเอง

วิชานี้เรียกว่า attraction Marketing ซึ่งเราทำเป็นคอร์สที่ชื่อว่า MLM attraction blueprint คลิกดูได้ที่ลิงค์นี้ ท่านสามารถเข้าไปดูได้ว่าเราเรียนอะไรมา หลังจากที่เราเรียนวิชานี้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้างโค้ชแนม

3 สุดยอดเคล็ดลับและสคริปต์ในการเชิญคนมาดูโอกาสทางธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ประกันชีวิต ให้ได้ผล

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ผลลัพธ์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แทนที่เราจะออกไปเดินไล่ล่าผู้คนกลายเป็นว่าผู้คนเนี่ยวิ่งเข้ามาหาเรา โดยไม่ต้องออกจากบ้านเลย

กมลเวช เมืองศรี:

ผมถามอย่างนี้ดีกว่าเมื่อเรียนวิชานี้แล้วมีคนโทรมาขอทำธุรกิจกับเราโดยที่ไม่รู้จักเรามาก่อนบางทีไม่เคยคุยกันมาก่อนเลย แต่พอคุยก็พร้อมโอนเงินจริงไหมครับ

เชษฐวิทย์ สิงขร:

จริงครับ เป็นมาแล้ว ที่โอนมาก็หลักหมื่นนะครับ หลักแสนก็สามารถทำได้สบายเพราะเรารู้หลักการทำ

กมลเวช เมืองศรี:

ท่านเห็นไหมครับว่าถ้าท่านไม่รู้อะไรบางอย่างที่คนอื่นเขาทำได้ แสดงว่าท่านยังไม่รู้ในสิ่งที่เขารู้ วิธีการที่ง่ายที่สุดคือเรียนรู้ ซึ่งเราถ่ายทอดอย่างละเอียดในคอร์ส MLM Attraction blueprint วางกลยุทธ์อย่างไรวางตัวอย่างไรสื่อสารอย่างไรสร้างเป็นระบบอย่างไร

แต่ถ้าอยากจะลงมือทำ สร้างระบบเว็บไซต์อย่างไร ออกไปสปอนเซอร์คนอย่างไร ใช้เครื่องมืออย่างไรให้คนนั้นแห่เข้ามาอยากทำธุรกิจกับเรา ต้องเรียนคอร์สที่ชื่อว่า Top Sponsor Formula

3.2 Presenting - การนำเสนอที่ทรงพลัง

หลังจากที่เราเรียนวิชา การสร้างรายชื่อเรียบร้อยแล้วนั่นหมายความว่าเราไม่ขาดรายชื่อ แล้วเราก็จะมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากที่เรามีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว

เราจะต้องมีการ presenting การนำเสนอที่ทรงพลัง เพราะเวลาที่ท่านเชิญคนมาดูโอกาส หมายความว่าต้องมีโอกาสให้เขาดู

ถ้าท่านเป็นคนใหม่ แนะนำว่าให้ใช้ระบบช่วย สำหรับคนใหม่เพราะเรายังพูดอะไรไม่เป็น แต่คนส่วนมากเข้ามาปุ๊บอยากรู้ทุกอย่างเพื่อที่จะไปพูดได้ เป็นความเข้าใจที่ยังไม่ถูก

กว่าจะอธิบายแผนการตลาด กว่าจะอธิบายสินค้า กว่าจะตอบได้ทุกคำถาม ภายใน 3 วัน ยังไม่มีทางรู้ได้หมด

และถ้าท่านคิดว่าจะออกไป Present เองออกไปตอบคำถามเอง ออกไปลุยเอง เท่ากับท่านออกรบโดยไม่ใส่เกราะไม่มีอาวุธเลย แต่คนที่ท่านไปคุยด้วย มีอาวุธครบ ท่านจะตายกลับมาเลย

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้นักธุรกิจเครือข่าย ในตอนเริ่มต้นไม่ได้รับการสอนที่ถูกต้อง และไม่เข้าใจว่าต้องใช้ระบบขององค์กร จะตายเรียบ

นั่นคือสาเหตุที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนี้ คนนั้นจะเลิกทำภายใน 3 เดือน และคนที่เลิกทำไม่สามารถทำเงินได้เลยแม้แต่บาทเดียว

แล้วถ้าท่านไม่อยากเป็นคนกลุ่ม 90-91 เปอร์เซ็นต์นั้น ท่านต้องทำอย่างที่เราแนะนำคือ

  1. ทำความเข้าใจก่อนว่าธุรกิจเครือข่ายทำอย่างไรให้สำเร็จ
  2. พัฒนาทักษะในการ prospecting คน 
  3. ใช้ระบบในการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจขององค์กร

ท่านจะต้องถามองค์กรของท่านครับว่า เขามีระบบในการไปสปอนเซอร์ตัวต่อตัวอย่างไร อัพไลน์ ไปด้วยหรือไม่ แล้วถ้าท่านต้องการเชิญคนไปดูโอกาส ในงานงานเปิดโอกาสทางธุรกิจนั้น มีวันไหน มีเมื่อไหร่ จัดที่ไหน เอาคนเข้าต้องทำอย่างไร

ท่านจะต้องรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนเพราะช่วงแรกเราก็พูดไม่เป็น เราพาคนไปที่งานเพราะที่งาน มีผู้เชี่ยวชาญพูด อาจจะเป็นบุคคลที่ทำเงินล้านได้มาแล้วมันเป็นวิธีการที่ฉลาดเพราะเราไม่ต้องพูดเอง หน้าที่เราคือ เชิญคนให้ได้และให้คนมาปรากฏตัวให้ได้

และให้คนอื่นทำงานแทนเราท่านจะไม่พูดเองเลยก็ได้ตลอดอายุการทำธุรกิจเครือข่าย เพราะคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายเป็นจริงๆ เขาจะไม่พยายามทำให้ตัวเองนั้นโดดเด่น พูดก็เก่งเก่งที่สุด ขายเก่งขั้นเทพเพราะคนที่ฟังอยู่เขาจะเกิดความคิดว่าฉันเป็นแบบคนนี้ไม่ได้ ฉันไปไม่ได้ กลับบ้านเลยดีกว่า ยิ่งท่านเก่งมากต่อหน้าทีมงานท่านมากเท่าไหร่ทีมงานท่านจะยิ่งท้อแท้มาก

ท่านลองนึกภาพวาด ถ้าผมไม่ได้นำเสนอตัวเองว่าเก่งมาก ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป ดูแล้วไม่น่าสนใจ แต่พอมีคนแนะนำว่า คนนี้นะมีรายได้ 5 ล้านบาทต่อเดือน คนที่ฟังอยู่ จะร้องว่าโอ้โห ถ้าคนนี้พูดแบบนี้ พูดยังไม่ถูกเลยทำได้ 5 ล้านต่อเดือนแล้วเขาบอกว่า เขาใช้ระบบ เขาใช้ระบบเก่ง เราอยากจะเรียนรู้ระบบเขาไหม

คนที่ฉลาดจริงๆนะอัพไลน์ที่เก่งจริงๆเขาจะไม่แสดงตัวว่าเทพ เขาจะแสดงตัวว่าเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่จริงๆแล้วเขาขั้นเทพ เพราะมีรายได้ขนาดนั้นจะต้องขั้นเทพ เขาจะบอกว่าผมก็เหมือนคนทั่วไปแหละ ดูสิผมก็พูดไม่เก่งต่อหน้าคน นำเสนอก็พูดแค่ทั่วๆไป ถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้แค่มาเรียนรู้ระบบท่านคงเคยเจอผู้นำแบบนี้บ้าง

ผมแนะนำว่าให้ท่านใช้ระบบในการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจก่อน อย่าไปลุยเดี่ยว รับรองตายแน่

เพราะผู้มุ่งหวังเขาจะนั่งฟังท่าน เห็นท่านพูดตะกุกตะกัก พยายามจะอธิบาย แค่นั้นก็ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้

การที่คนจะควักเงิน 5,000 บาท 30,000 เข้าร่วมธุรกิจกับท่าน ท่านว่าเขาเชื่อถือคนชวนมาก ใช่ไหม

มันสำคัญมากเลยนะครับ เพราะ มีคำถามสำคัญ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำธุรกิจ เขาจะถาม

คนที่มาชวนที่กำลัง Present จะช่วยให้ฉันประสบความสำเร็จ ได้หรือไม่? เพราะฉันไม่เคยมีประสบการณ์ เขาจะถามอยู่ในใจแต่ไม่พูดออกมา เขาจะพยักหน้า แต่ไม่ฟัง

คิดว่าเมื่อไหร่จะจบสักที แต่คิดอยู่ในใจว่า ท่านจะสามารถช่วยให้เขาประสบความสำเร็จได้หรือไม่ วิธีแก้ปัญหาคือ ท่านต้อง ใช้ความสำเร็จจากอัพไลน์ ให้อัพไลน์ของท่านพูด ไม่ว่าจะไปเจอกันแบบสองต่อสอง มีอัพไลน์ไปด้วย หรือว่าพูดในห้อง

ตัวท่านต้องนั่งเงียบและให้คนอื่นพูดแทน ให้ผู้มุ่งหวังได้คิดว่าคนนี้รู้จริงถ้าฉันเข้าร่วมกับเพื่อนฉัน ฉันจะได้เรียนกับคนนี้ใช่ไหมครับ ใช้อิทธิพลของคนสำเร็จแทน

เพราะฉะนั้นจงใช้ระบบในการ Present และเดี๋ยวเก่งแล้วอยากจะใช้ออฟไลน์ ฉัน Present เองแทนทีมงาน หรือจะใช้ระบบออนไลน์ Present เหมือนอย่างที่เราทำผ่าน webinar ท่านก็สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ท่านต้องเรียนรู้ระบบก่อน

3.3 Promoting - การขับเคลื่อนองค์กร

ทักษะที่ 3 คือการโปรโมทหรือการขับเคลื่อนองค์กร โปรโมทคือการสนับสนุน การสนับสนุนทีมงานใหม่ ที่ท่านถามมาว่าทีมงานใหม่เข้ามา 2 เดือนก็เลิก

รู้หรือไม่ปัญหามาจากใคร มาจากตัวคุณเองนั่นแหละ สปอนเซอร์ทีมงานใหม่เข้ามาได้ แล้วทีมงานใหม่เลิก ก่อนที่จะได้เรียนรู้ ก่อนที่จะได้พัฒนาทักษะปัญหาอยู่ที่ตัวท่าน เพราะอัพไลน์ไม่ชัดเจนกับเขาตั้งแต่วันแรก

ว่าจะต้องใช้เวลา 6 เดือนใช้เวลาในการเรียนรู้ทักษะ แล้วคุณจะเรียนรู้ไปกับผม และผมจะประกบอยู่ข้างคุณตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเสนอ การพรีเซนต์ ผมจะสอนและทำงานคู่กับคุณอย่างน้อย 6 เดือน

อัพไลน์ที่ดีจะต้องเป็นเหมือนพ่อกับแม่ คอยสนับสนุนคอยสอนและคอยปกป้องไม่ให้เขาโดนคนที่บ้าน ชวนให้เลิกเขาต้องฉีดวัคซีน

เชษฐวิทย์ สิงขร:

การฉีดวัคซีนนั้นจะต้องถามเขาว่า วันนี้คุณมาฟังธุรกิจแล้ว คุณเข้าใจแล้วและถ้ากลับไปที่บ้าน คุณไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง และคนที่บ้านบอกว่าไม่ให้คุณทำ ไม่เห็นด้วย คุณจะทำอย่างไร เขาก็จะตอบว่าผมก็ยังทำอยู่จะไม่เลิก ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่เขาให้ไว้กับเรา

กมลเวช เมืองศรี:

นี่คือสิ่งที่คนส่วนมากไม่ได้ทำไว้ตั้งแต่วันแรก จำไว้เลยนะครับถ้าท่านมีทีมงานแล้วเขามาวันแรก ก่อนเขากลับบ้านต้องฉีดวัคซีน

สมมุติว่าโค้ชแนมเป็นทีมงานผม ผมจะบอกว่าถ้ากลับบ้านไป ถ้าคนที่บ้านไม่เห็นด้วย คุณจะยังทำต่อไหม คุณจะเลิกหรือไม่ รอฟังคำตอบ ถ้าเขาบอกไม่เลิกนั่นหมายความว่ากลับบ้านได้

เพราะเราทำให้เขา มีความคาดหวังที่ถูกต้อง ว่ากลับไปอาจจะโดนต่อต้าน แล้วเขาจะกลับมาบอกว่าใช่เหมือนที่อาจารย์แบ่งปัน ให้ฟังเลย ว่ากลับไปเนี่ยภรรยาจะไม่เห็นด้วย แต่ผมก็ไม่เลิกเพราะถูกเตือนมาแล้ว

แต่ถ้าท่านไม่ฉีดวัคซีน กลับไปภรรยาจัดชุดใหญ่สามีจัดชุดใหญ่รับรองเลิกแน่นอน นั่นคือสาเหตุที่คนพอมีทีมงานใหม่เข้ามาแล้วพออีกวันโทรไปก็ไม่รับสายแล้ว เมื่อวานยังตื่นเต้นอยู่เลย พร้อมลุย แต่ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าหายไปไหน ตอนนี้เข้าใจหรือยังครับว่าหายไปไหน

เพราะเขาโดนคนที่มีอิทธิพลในชีวิตของเขาห้ามนั่นเองและท่านว่าเขาจะเชื่อคุณ เหลือเชื่อคนที่เขารักส่วนมากเขาก็จะยอมให้คนมาขโมยความฝันเพราะฉะนั้นต้องฉีดวัคซีน

เห็นไหมครับว่านอกจากเราสื่อสารกับผู้มุ่งหวังเป็นแล้ว ต้องสื่อสารกับทีมงานเป็นด้วย ต้องรู้ว่าแต่ละขั้นตอน คนใหม่ต้องสื่อสารอย่างไร ต้องเรียนอย่างไร ต้องทำให้เขามีค่า มีความคาดหวังที่ถูกต้อง

ไม่ใช่มาถึงขอลองสัก 3 วัน ถ้าไม่ได้ฉันจะเลิก คุณรู้ไหมว่าทีมงานใหม่ของเราส่วนมากมีความคาดหวังกันแบบนี้ ขอลองชวนคนดูก่อนถ้าไม่ไหวจะเลิก

โค้ชแนมเห็นด้วยไหมว่าคนที่เข้ามาธุรกิจเครือข่ายไม่เคยคุยกับคนเกิน 10 คน พอโดนปฏิเสธแค่ 2-3 คนก็เลิก แล้วจะสำเร็จได้อย่างไร แล้วก็บอกว่าธุรกิจเครือข่ายไม่ดีทำไม่เป็น

ไม่ใช่ครับปัญหามันอยู่ที่ท่าน ท่านไม่เข้าใจธุรกิจ เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้เข้าใจก่อนชวนคนให้เป็นก่อน นำเสนอคนให้เป็นก่อนและโปรโมททีมให้เป็นก่อน

การขับเคลื่อนองค์กร ในแบบที่ 1 จะเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดใครๆก็ทำได้ ตั้งแต่วันแรกก็ทำได้เลย

สมมุติผมทำธุรกิจเครือข่ายวันนี้เป็นวันแรก แล้วผมพาเพื่อนมาด้วย สมัครเรียบร้อยแล้ว แล้วเราอยากจะขับเคลื่อนองค์กรวิธีที่ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องมีความรู้อะไรเลยคือ

พาทีมงานของเราเข้างานเข้าระบบ เข้างานประชุม ที่แสดงถึงความสำเร็จของนักธุรกิจคนอื่น เราต้องรู้ว่า งานครั้งต่อไป จะมีเมื่อไหร่ ส่วนมากบริษัทต่างๆ จะจัดทุก 3 เดือนเราจะต้องขับเคลื่อนไม่ว่างานใหญ่ งานเล็ก งาน Training งานพบผู้นำ งานมอบรางวัล

ต้องพาคนเข้าระบบซึ่งไม่ต้องใช้ความรู้อะไรเลย ใช้ตัวเราต้องเข้าระบบก่อน

มีอยู่ 3 Stage ในธุรกิจเครือข่าย 3 สถานะที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ 

  1. เราต้องเข้าระบบ ทีมของเรามีระบบอะไรเราต้องทำตามและเข้าระบบ เมื่อเราทำจนเกิดผลลัพธ์มีทีมงานเข้ามา
  2. ต้องพาทีมงานเข้าระบบ มันจะเริ่มสนุก เพราะเรามีทีม
  3. เมื่อเราสร้างองค์กรจนประสบความสำเร็จขึ้นมาแล้วเราสามารถออกจากระบบโดยที่ทีมงานเขาจะพาคนของเขาเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง เราจะออกจากระบบเมื่อเรามี Passive Income แล้วซึ่งจะทำให้ท่าน มีอิสรภาพทางด้านการเงินและเวลาจริงๆ แต่ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองเข้าระบบก่อน

มันคือเหตุผลที่อัพไลน์ พยายามชวนเราเข้าระบบเพื่อศึกษาเรียนรู้ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจ และไม่ปรับทัศนคติให้ถูกต้อง เราก็จะไม่เข้าระบบ แต่ให้มีความคิดว่าเราจะเข้าไปดู ศึกษาว่าคนที่มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือนเขาทำได้อย่างไร

อยากฟังเรื่องราวของเขาซึ่งจะต้องฟัง จะต้องนั่งหน้าและจด บันทึกเทป เพื่อเอามาฟังต่อในรถ นี่คือสิ่งที่คนมีรายได้ 300 ล้านสอนผมมานะครับ

เพราะสมองมนุษย์เมื่อเรียนอะไรมาก็ตาม จะจำไม่ค่อยได้ ท่านต้องบันทึกวีดีโอ อัดเสียง ทุกท่านดูเราสองคน ไม่ว่าจะถามอะไรมาแล้วตอบได้หมดเพราะเราทำทุกอย่างมาก่อน ทำตามระบบทุกอย่างและทำมันมากพอเราเจอปัญหามามากพอไม่มีอะไรที่เราตอบไม่ได้ในธุรกิจเครือข่ายและธุรกิจออนไลน์

เพราะฉะนั้นการเคลื่อนคนเข้าระบบเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดท่านแค่ต้องปลูกฝังทัศนคติให้ทีมงานเข้าใจว่า เข้าระบบและจะประสบความสำเร็จได้ท่านต้องทำเป็นตัวอย่างด้วย

นี่คือ 3 ขั้นตอนที่ท่านจะต้องพัฒนาตัวเอง คือเรียนรู้วิธีเชิญคนวิธีสร้างรายชื่อวิธีการนำเสนอเคลื่อนคนเข้าระบบ บริษัทมีโปรโมชั่นอะไรมา เอามาบอกให้หมด

สมมุติว่าบริษัทมีโปรโมชั่นเราจะต้องสร้างโปรโมชั่นเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อให้ทีมงานเกิดความตื่นเต้น จากเดิมสปอนเซอร์ได้ 3 คนได้ 3,000 แต่บริษัทเพิ่มให้อีก 1,000 อัพไลน์เพิ่มให้อีก 1,000 บาท จึงทำให้มีแรงสปอนเซอร์

เพราะจริงๆแล้วในงานทำธุรกิจเครือข่ายมันก็ต้องสปอนเซอร์อยู่แล้ว แต่เวลามีโปรโมชั่น คนจะยิ่งตื่นเต้น เช่นไปล่องเรือไปท่องเที่ยวไปกินอาหาร เพราะเวลาบริษัทออกโปรโมชั่นเขาจะคิดมาอย่างดีแล้ว ท่านก็จะได้ทั้ง 2 ทางเพราะถ้าทีมงานท่านขยายเติบโตท่านก็จะได้ด้วย

เชษฐวิทย์ สิงขร:

วิธีการเหล่านี้มันเป็นวิธีการที่พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จเพราะเราทำมันมาแล้ว วิธีการที่อาจารย์กมลเวชแบ่งปันทุกท่านสามารถนำไปใช้กับตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้เลย

กมลเวช เมืองศรี:

หลายท่านที่ฟังอยู่อาจจะรู้สึกว่า ก็ทำกันมานานแล้วนี่ ก็เก่งแล้ว ก็พูดได้ แล้วถ้าผมต้องเริ่มจาก 0 จะเริ่มจากตรงไหนได้บ้าง คอร์สของเราที่เราเป็นเจ้าของ เว็บไซต์ MLM Online School.com 

เว็บไซต์นี้จะสอนวิธีวิธีการทำธุรกิจเครือข่ายเป็น step by step ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์ก็ถ่ายทอดอย่างละเอียด และท่านสามารถสอบถามได้โดยการพิมพ์ข้อความคำถามไว้ที่ด้านล่าง เช่น อยากจะทำออฟไลน์ให้เก่งจะต้องเรียนแบบไหนดี อยากจะเรียนออนไลน์ให้เก่งต้องเริ่มต้นอย่างไร เราสองคนและทีมโค้ชของเราก็จะหาคำตอบมาให้ท่าน

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ขอให้ทุกท่าน นำการแบ่งปันของเราสองคนเอาไปปรับใช้ ในธุรกิจของท่านให้เติบโตและประสบความสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ สำหรับวันนี้เราสองคนขอลาไปก่อนแล้วเจอกันในครั้งหน้าสวัสดีครับ


ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!

chetthawit-kamolwech

กมลเวช เมืองศรี & เชษฐวิทย์ สิงขร

MLM Attraction Blueprint 2.0

"ในที่สุด! วิธีที่ง่ายกว่า
ในการชวนคนเข้าร่วมธุรกิจ ที่ไม่ถูกปฏิเสธ
ไม่สูญเงิน เวลาและแรงงานของท่าน
วิ่งไล่ล่าผู้มุ่งหวังคุณภาพแย่ๆอีกต่อไป"


"นี่คือสุดยอดวิชาที่ผมใช้สร้างธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตมีรายได้ 7 หลัก โดยไม่ต้องโทรชวนคนไม่รู้จัก หรือขอร้องญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอีกต่อไป ...และผมอยากจะเปิดเผยให้ท่านได้รู้ด้วยว่า..."

กดแชร์เก็บไว้อ่านหรือแบ่งปันได้ที่นี่
Click Here to Leave a Comment Below 1 comments