ทัศนคติแห่งความสำเร็จ : พัฒนาตัวเองกับกมลเวช ตอนที่ 1

ทัศนคติแห่งความสำเร็จ : พัฒนาตัวเองกับกมลเวช ตอนที่ 1

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

ทุกความสำเร็จ ทุกความมั่งคั่ง ร่ำรวย เกิดจากความคิดใด ความคิดหนึ่งเสมอ

ถ้าท่านคิดไม่เป็น โอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตแทบไม่มี แต่ถ้าท่านได้รู้ความลับ ในการคิดอย่างไรให้รวยแล้วละก็ ท่านจะสามารถประสบความสำเร็จได้ทุกอย่างในชีวิต ทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การเงิน การงาน ความรัก ความสัมพันธ์

วีดีโอ “ทัศนคติแห่งความสำเร็จ : พัฒนาตัวเองกับกมลเวช ตอนที่ 1”

ดาวน์โหลดสไลด์ Powerpoint ของวีดีโอนี้ คลิกที่นี่

หนังสือเสียง “ทัศนคติแห่งความสำเร็จ : พัฒนาตัวเองกับกมลเวช ตอนที่ 1”

Table of Contentsกมลเวช คือใคร?ปรัชญาสร้างชาติ สร้างชีวิตให้สำเร็จ1. เรียนรู้2. ฝึกฝน3. สอนคนอื่นต่อทักษะแห่งความสําเร็จในชีวิต1. วิธีคิด : 80%2. วิธีสื่อสาร : 15%3. วิธีการ : 5%คำสอนของพระพุทธเจ้า

กมลเวช คือใคร?

ถ้าท่านยังไม่รู้จักผม ผมขออนุญาตแนะนำตัวผมเองให้กับทุกท่านได้รู้จักก่อนนะครับ ผมขอกราบสวัสดีทุกท่านอีกครั้ง ผมชื่อ กมลเวช เมืองศรี เป็นผู้ก่อตั้งแล้วก็เป็น CEO ของ บริษัทภูวเดชคอร์ปอเรชั่นจำกัดบริษัทนี้และตัวผมนี้ได้ทำการถ่ายทอดสุดยอดวิชา เพื่อสอนให้กับผู้ที่ต้องการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจออนไลน์ หรือที่เราเรียกว่า Digital Marketing หรือว่าการตลาดแบบเครือข่าย Network Marketing ตัวผมเองกว่าจะมาถึงวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ท่านอาจจะคิดว่า ผมเป็นคนเก่ง ไม่ใช่เลยครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 15-16 ปีที่แล้ว ผมก็เป็นคนที่แค่เรียนจบใหม่ๆ แล้วก็มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำงานอยู่ต่างประเทศอยู่ 7 ปีไม่ได้มีทักษะอะไรดีเลย นอกจากภาษาอังกฤษที่ดีกลับมาเท่านั้น หลังจากกลับมาที่บ้าน ตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจทั้งที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน และธุรกิจนั้นก็คือธุรกิจเครือข่ายผมเข้าไปทำอยู่ 3 ปี ผมไม่สามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้ทันกับค่าใช้จ่าย ให้ทันกับความต้องการในการที่จะประสบความสำเร็จ ผลปรากฏว่า 3 ปีผ่านไป เงินเก็บจำนวนมากหมดเกลี้ยงแถมหมดตัว แล้วก็ล้มเหลว แถมเป็นหนี้อีกก้อนใหญ่มหาศาลหลายแสนบาท ไม่น่าเชื่อนะครับ ผมจะมาเปิดเผยให้ทราบว่า ผมตกต่ำ ล้มเหลวขนาดนั้นได้ยังไง และหลังจากนั้น ผมไม่ยอมแพ้ครับ ทำให้ผมนั้นตัดสินใจลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ผมลุกขึ้นมาตัดสินใจตัวเองว่า เอาล่ะฉันจะประสบความสำเร็จจากธุรกิจที่ทำอยู่ที่บ้าน โดยใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว อยากใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเดียว อยากใช้มือถือ แล้วก็สร้างรายได้ 6-7 หลัก แล้วก็สบายตลอดชีวิตผมไม่ชอบออกจากบ้าน อยากทำงานอยู่กับบ้าน อยากมีความสุข อยากท่องเที่ยวไปทั่วโลก ปัจจุบันนี้ผมไปมาทั่วโลกแล้วมากกว่า 33 ประเทศ เพราะฉะนั้นเป็นเพราะว่าผมได้มีโอกาสได้เรียนรู้จาก Mentor หรือว่าภาษาไทยเรียกว่าเมนเทอร์ ก็คือผู้ที่ถ่ายทอดสดยอดวิชาครับ หลังจากที่ผมได้รับการถ่ายทอดวิชาการตลาด ผมใช้วิชานี้จากเมนทอร์ของผมผู้มีรายได้ 3,000 ล้านบาท จากธุรกิจเครือข่ายทำให้ผมกลับเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายอีก และครั้งนี้ประสบความสำเร็จเร็วแรงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของทุกบริษัท ทำเงินเร็วที่สุด ทำเงินมากที่สุด ขึ้นตำแหน่งเร็วที่สุด ขึ้นตำแหน่งแรงที่สุดทุกอันดับ ถ้ามาแข่งกันแบบออกตัวพร้อมกัน ไม่มีใครสู้ได้เลยเป็นเพราะเคล็ดลับสำคัญ หลังจากที่ผมได้เรียนรู้วิธีการทำการตลาดออนไลน์ เอาวิชาการตลาดออนไลน์ที่สุดยอดนั้นผสมการตลาดเครือข่ายที่ทรงพลังที่สุด จนกลายเป็นวิชาที่ไม่มีใครเหมือนเลย ในประเทศไทย วิชานี้เป็นวิชาที่จับเอาการตลาดออนไลน์และการตลาดเครือข่ายมาผสมกันได้ทรงพลังที่สุด ที่ไม่มีครูการตลาดออนไลน์คนไหน หรือผู้รู้การตลาดเครือข่ายคนไหน สามารถที่จะถ่ายทอดสุดยอดวิชานี้ได้เหมือนกับผม

ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆท่าน ที่ได้ติดตามผม ได้ดูวีดีโอผม ผ่าน YouTube หรือว่าได้เรียนวิชากับผมผ่านคอร์สต่างๆ คงจะได้ประสบกับตัวเองแล้วว่าเขานั้นได้เรียนรู้อะไร เขาได้เปรียบในชีวิตมากขนาดไหน

มีผู้ประสบความสำเร็จมากมาย มาบอกว่าพวกเขาทำรายได้ หลายแสนบาทต่อเดือน มีคนติดต่อมาอยากทำธุรกิจกับเขาเดี๋ยวโอนเงินค่าสมัครให้ โดยที่พวกเขาไม่มีปัญหาในการทำธุรกิจอีกเลยแล้วนั่นคืออีกหนึ่งเคล็ดลับที่เราจะเอามาแบ่งปันในรายการนี้ รายการพัฒนาตัวเองกับกมลเวช ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นตอนที่ 1 แล้วผมจะทำซีรี่ย์แบบนี้ต่อเนื่อง ให้ท่านติดตาม ท่านต้องการพัฒนาตัวเองให้ครบทุกด้าน ทั้งความคิด และวิธีการ วิธีสื่อสาร 

ติดตามรายการที่ผมจะแบ่งปันนี้ ท่านจะพัฒนาตัวอย่างรวดเร็ว แล้วก็เห็นผลลัพธ์อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียวครับ

เมนทอร์ของผมแบ่งปันกับผมว่า กมลเวชถ้านายอยากจะมีความสุขตลอดชีวิต เพราะความสุขเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ ถ้าท่านไม่มีความสุข โอกาสที่ท่านจะประสบความสำเร็จนั้นยาก “ก็คือ ให้นายส่องกระจกดูตัวเอง ส่องกระจกแล้วถามตัวเองในทุกๆวัน ถามจนได้คำตอบนะครับว่า นายต้องการที่จะทำอะไรทุกๆวันไปตลอดชีวิตเมื่อ นายได้คำตอบแล้วนะ ลงมือทำสิ่งนั้น แค่นั้นเอง”ผมก็เลยมาถามตัวเองครับ แล้วผมก็ได้คำตอบอย่างที่ผมได้แบ่งปันทุกท่านว่า

ผมต้องการสร้างธุรกิจจากที่บ้านให้ประสบความสำเร็จ ผมไม่ชอบออกนอกบ้าน ไปรถติด ฝนตก ออกไปคนเยอะ ออกไปต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ผมต้องการสร้างธุรกิจด้วยการทำการตลาดออนไลน์และประสบความสำเร็จมีรายได้ 6-7 หลักทุกเดือนตลอดชีวิต นั่นคือคำตอบที่ผมได้ พอผมได้คำตอบนี้ ผมก็ลงมือทำตามสิ่งที่เมนทอร์ของผมแนะนำ ผมเลิกทำงานประจำ ผมเลิกทำธุรกิจที่ต้องทำให้ผมออกจากบ้าน ดูนะว่าผมตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเมนทอร์ แล้วผมไม่ถอยกลับ! เพราะผมเลิกที่จะทำอะไรที่มันขัดแย้งกับความฝันและความมุ่งมาดปรารถนาตัวเอง ผลที่ได้คือ ผมมีความสุขทันทีเลยทุกท่าน เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมชอบมากเลย ที่จะจับเม้าส์ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ต แล้วพัฒนาตัวเอง เรียนรู้วิธีการทำการตลาด แล้วก็สร้างสินค้า สร้างแบรนด์ ให้บริการกับผู้คนและผู้คนมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาซื้อ ผมชอบและเกิดมีความสุขผมชอบตอน มีข้อความ และอีเมลเข้ามาแจ้งรายได้ ผมชอบตอนเอาเช็คไปขึ้นเงิน ฉะนั้นพอตัดสินใจได้ปุ๊บ ชีวิตผมมีความสุขที่สุดตั้งแต่วันนั้น แต่มันเพิ่งเริ่มต้นใช่ไหม เพราะตอนนั้นผมยังไม่มีความรู้ ในการทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จยังไงใช่ไหม เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าผมทำยังไง

ปรัชญาสร้างชาติ สร้างชีวิตให้สำเร็จ

เรามาดู 3 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในชีวิตกันเลย หลังจากนี้จะมีแต่เคล็ดลัพธ์ที่พิสูจน์มาแล้ว ท่านจะประสบความสำเร็จในชีวิต 3 เคล็ดลับนี้จะนำท่าน ไปสู่ความสำเร็จทุกความสำเร็จในชีวิต ผมการันตีด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย

ผมการันตีเพราะถ้าทำ 3 อย่างนี้แล้วท่านไม่ประสบความสำเร็จ กรุณาทักมาแล้วด่าได้เต็มที่ แต่ถ้าท่านทำแล้วประสบความสำเร็จ แค่ทักมาขอบคุณก็พอ หรือเลี้ยงข้าวสักมื้อก็ได้ ท่านพร้อมหรือยังที่จะเรียนรู้ 3 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในชีวิตนี้

ปรัชญานี้ผมแบ่งปันให้กับคนวงในที่เรียนสุดยอดคอร์สปีดเวลท์ หรือ คอร์สเศรษฐีชุดนอน ที่ผมจะสอนการ set up ระบบในการทำการตลาดออนไลน์ และประสบความสำเร็จอย่างละเอียดมาก 

1. เรียนรู้

ข้อแรกไม่ว่าท่านอยากจะประสบความสำเร็จในเรื่องอะไร เช่น

ถ้าอยากจะเป็นนักมวยที่ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ อยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ประกันชีวิตข้อที่ 1 ท่านต้องเรียนรู้

เรียนรู้ให้ลึกซึ้งที่สุด เรียนรู้แบบจนกระทั่งท่านรู้สึกว่า ท่านไม่มีอะไรต้องเรียนแล้วมันเก่งสุดๆเลย เข้าใจที่สุดเลย

 นี่คือคำนิยามของการเรียนรู้ เรียนให้รู้จริง รู้ลึก รู้จนกระทั่งหายใจเข้าหายใจออกท่านรู้หมดว่า ถ้ามีปัญหาฉันจะแก้ยังไง ถ้ารู้หมดว่า ถ้าท่านต้องการไปต่ออีกแบบนึงต้องทำยังไง นี่คือคำนิยามของการเรียนรู้ผมยกตัวอย่างนะว่าปรัชญานี้มันสร้างชาติชาติหนึ่งให้ประสบความสำเร็จได้ไง

ประเทศไทยย้อนกลับไปซัก 200 ปี สมัยเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ คงไม่มีถนนลาดคอนกรีต เขาไม่มีตึกรามบ้านช่องใหญ่โตขนาดนี้ นึกออกไหม ก็เป็นบ้านไม้ธรรมดา แต่ทำไมคนไทยเมื่อเวลาผ่านมาจึงสามารถสร้างถนนลาดยางได้ ซีเมนต์คอนกรีต สามารถสร้างตึกใบหยกที่สูงที่สุดในประเทศได้ ก็เพราะว่าเขาไปเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี ถ้าไม่เรียนรู้ไม่มีทางทำได้จริงไหมและความสำเร็จเป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้ถ้าท่านอยากประสบความสำเร็จท่านต้องเรียนรู้ และเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่ทำมาแล้วจริงไม่ใช่คนที่ไปจำมาสอน เรียนรู้ทุกเรื่องครับ อยากว่ายน้ำเก่งต้องเรียนรู้ อยากขับรถได้เก่งต้องเรียนรู้

2. ฝึกฝน

กฎข้อที่ 2 ต้องฝึกฝน

คนส่วนมากตายตรงกฏข้อแรก จึงทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่เชื่อก็ลองนึกถึงตัวเองดูว่า มีกี่ครั้งในชีวิต ที่ท่านนั้นตัดสินใจเรียนคอร์สอะไรสักคอร์ส ลงสัมมนา หรือไม่ก็ซื้อหนังสืออะไรมา แบบตื่นเต้นตั้งใจที่จะอ่าน ฉันอยากสำเร็จเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่สุดท้ายท่านก็ไม่เคยทำมันสำเร็จ 

ผมการันตีว่าเป็นแทบทุกคน เพราะท่านได้แต่แค่เรียนรู้ เสียเงินไปเรียนแต่ท่านไม่ลงมือทำ ไม่ฝึกฝน ท่านจะไม่เกิดทักษะ เพราะถ้าไม่เกิดทักษะ ท่านก็จะไม่สามารถทำมันได้ เพราะท่านทำไม่เป็น

ยกตัวอย่างการสั่งซื้อหนังสือวิธีการฝึกว่ายน้ำมา หนทางเดียวที่เขาจะว่ายน้ำเป็น คือเขาต้องกระโดดลงน้ำ 

และเขาก็ต้องฝึกแล้วเขาต้อง Enjoy the process ด้วยนะ ก็คือมีความสุขในระหว่างการฝึกฝน เพราะเขาไม่มีความสุขเขาจะเลิก นั่นคือสาเหตุที่ท่านต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ท่านอยากทำ ท่านจะได้มีความสุขและท่านจะได้ทำมันได้ตลอดชีวิตไง นี่คือการเปลี่ยนหางเสีอชีวิตไปเลยนะ

ถ้าทุกวันนี้ท่านไม่มีความสุขในการทำงานที่ท่านทำ ทำไมไม่พิจารณาเวลาหลังเลิกงาน ถ้าทุกท่านหยุดเสาร์อาทิตย์นะ เวลาตั้งแต่ 18:00 น วันศุกร์ จนถึง 8 โมงเช้าวันจันทร์น่ะ ที่ผ่านมาท่านทำอะไรกับเวลาที่ท่านว่าง ท่านพัฒนาตัวเองหรือเปล่า หรือที่ผ่านมาเอาแต่จะกิน เที่ยว

ผมบอกเลยว่า มันไม่มีวันสายครับ ลุกขึ้นมาเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาตัวเองกันทันที

ตัวผมเองลงทุนเรียนรู้คอร์สต่างๆ เป็นหมื่นเป็นแสนนะครับ ที่ผมจ่ายแพงสุดเนี่ยนะสักประมาณ 2.5 – 3 แสนกว่าบาทครับทุกท่าน ด้วยการเรียนวิชาเดียวครับ แล้วพอผมเรียนวิชานั้นสำเร็จทำเงินหลายล้านบาท

เพราะฉะนั้นผมจึงฝึกตัวเองให้เป็นผู้ที่เรียนรู้ และต้องลงมือทำ ถ้าไม่เรียนรู้และ ถ้าเรียนรู้และไม่ลงมือทำผมจะรู้สึกสงสารตัวเองว่า ทำไมนายเป็นคนไม่เอาไหนแบบนี้ นายแย่ขนาดนี้นะ กลับไปเรียนแล้วไปฝึก

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมเป็นอะไรหลายๆอย่าง เพราะผมฝึกฝน เพราะฉะนั้น ถ้าท่านเป็นคนที่เรียนรู้และไม่ฝึกฝนมาก่อน ไม่ยอมทำ ท่านแค่หยุดคิด หยุดลังเลว่าจะทำดีไหม กลัวจะพลาด ไม่ต้องกลัว เพราะคนชื่นชอบความล้มเหลว คือคนที่เข้าใจครับ ว่าความสำเร็จนั้นมันเกิดจากการล้มเหลวหลายๆ ครั้ง จนกระทั่งเขารู้แล้วว่าทำยังไงให้ไม่ล้มเหลวไง 

แต่คนที่ไม่กล้าทำอะไรเลยเพราะกลัวล้มเหลว แม้แต่ครั้งแรกก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะฉะนั้นจงกล้าที่จะล้มเหลวไปเรื่อยๆ ยิ่งท่านอายุน้อยๆ เด็กๆ ทุกคนนะครับ ถ้าท่านอายุต่ำกว่า 50 ท่านเป็นเด็กในสายตาผมหมด

ผมจะบอกให้ว่าทุกๆ ท่าน ถ้าท่านยังไม่ได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ ถ้ายังไม่มีชีวิตที่คิดไม่ถึง ยังไม่มีความสุขในทุกจังหวะชีวิต ท่านรออะไรอยู่ ท่านลุกขึ้นมาสิ ผมยินดีเป็นเมนทอร์ ให้กับทุกท่าน

ถ้าท่านมีคำถาม หรือข้อสงสัย ท่านสามารถ inbox ถามผมได้ตลอด ส่วนมากผมตอบคำถามเองทั้งสิ้น ถ้าเป็นคำถามที่จำเป็นต้องให้ผมตอบ Admin ผมจะเชิญอาจารย์คะ ช่วยตอบคำถามหน่อยอาจารย์ค่ะ มีคนขอร้องให้ตอบ มาทางนี้ผมตอบเองแทบทั้งสิ้น ผมอยากให้ชีวิตผู้คนเปลี่ยน

3. สอนคนอื่นต่อ

ข้อ 3 ท่านต้องสอนคนอื่นต่อให้ได้ ถ้าท่านสอนคนอื่นต่อได้ จากการเรียนรู้มาแล้วฝึกฝนจนเก่ง ท่านจะกลายเป็นคนยอดคน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ท่านจะเก่งที่สุดตอนที่ท่านสองคนอื่นต่อ 

ยกตัวอย่าง คนๆนึง เล่นฟุตบอลไม่เป็นเลย ไม่เก่งเลย แต่เขาฝึกๆ จนกระทั่งเขาได้บรรจุอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรระดับโลก อย่างแมนยู ลิเวอร์พูล เล่นฟุตบอลเก่งจริงๆเลย จนรับรางวัลมากมาย

แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้เขาเก่งที่สุดในเกมฟุตบอล คือ ตอนที่เขาผันตัวเองมาเป็นโค้ช แล้วก็เริ่มสอนคนอื่นให้เล่นเก่งเหมือนเขาเริ่มสอน แก้ไขปัญหาสถานการณ์ในสนามได้เหมือนเขา เขาประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ 

เรื่องนี้ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเองก็คือ

ตัวผมเองจะเรียนรู้และฝึกฝนจนผมนั้นสร้างระบบสร้างธุรกิจที่รายได้ 6-7 หลักต่อเดือนแล้ว แต่ผมรู้สึกทุกครั้งว่าผมเก่งมากขึ้นไปอีกระดับ เมื่อผมได้สอนคนอื่นต่อ

เพราะฉะนั้นนี่คือสมการง่ายๆ ทุกท่านจำไว้นะครับ อยากประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่องของชีวิต ทำตามสูตรนี้ เรียนรู้ ฝึกฝน สอนคนอื่นต่อ

ทักษะแห่งความสําเร็จในชีวิต

สามทักษะแห่งความสำเร็จในชีวิตนี้ เป็นกระบวนการที่ท่านพัฒนา 3 ทักษะนี้ได้ ท่านจะสามารถประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง ที่ทำทำได้ตามปรัชญาเมื่อกี้ คือสร้างชาติสร้างชีวิตนะ ถ้าท่านเอา 3 ปรัชญานั้นมาบวกกับ 3 ทักษะนี้ ถ้าท่านอยากรวยต้องรวยล้นๆ แบบไม่มีอะไรมาหยุดท่านได้เลย 

ท่านจะมีความสุข แต่ถ้าอยากเป็นคนที่มีทุกสิ่งอย่างในชีวิตเอา 3 ทักษะแห่งความสำเร็จในชีวิต + 3 ปรัชญา ยังไงก็สำเร็จได้ เราไปเริ่มกันเลย

1. วิธีคิด : 80%

3 ทักษะแห่งความสําเร็จในชีวิต คือท่านต้องฝึกคิด เพราะอย่างที่ผมจะบอกว่า ทุกความมั่งคั่งร่ำรวยเกิดจากความคิดใดความคิดหนึ่งเสมอ นี่คือสิ่งที่ถูกสอนอยู่ในหนังสือคิด อย่างไรให้รวย หนังสือที่สัมภาษณ์มหาเศรษฐี 500 คนที่รวยที่สุดอันดับต้นๆ ของอเมริกา

มหาเศรษฐีทั้ง 500 คนที่รวยก็เป็นแสนแสนล้านคอนเฟิร์มปรัชญานี้ว่า ความคิดเป็นสิ่งที่มีพลังและความคิดเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้น้อยมาก ผมสรุปให้ง่ายๆ มนุษย์คิดไม่เป็น ถ้าคิดเป็นเขาจะต้องได้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ ถ้าเขาอยากรวยก็รวย แล้วก็อยากสำเร็จในเรื่องอะไรเขาต้องสำเร็จ 

แต่ถ้าเขายังไม่ได้แปลว่าเขาคิดไม่เป็น อันนี้ผมจะแบ่งปันวิธีการคิดเป็นมหาเศรษฐี ที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้สอนวิธีการ ในการฝึกคิด ด้วยการให้หาเวลาอยู่กับตัวเองอย่างน้อยวันละ 5-10 นาที อยู่กับตัวเองเลยไม่มีใครมายุ่งปิดโทรศัพท์ 

นี่คือเคล็ดลับที่มหาเศรษฐีแสนล้านสอนนะ แล้วก็นั่งนิ่งๆ เงียบๆ หลับตาแล้วทำการวิเคราะห์ชีวิตตัวเองว่า ตัวฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วหรือยัง ฉันมีในสิ่งที่ฉันต้องการมีแล้วหรือยัง ฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการได้หรือยัง

ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า ฉันกำลังไปในจุดที่ฉันกำลังไปหรือเปล่า หรือฉันอยากรวยแต่ฉันยังทำงานประจำอยู่ งานประจำไม่มีอะไรผิด แต่มันไม่ทำให้ร่ำรวย 

นั่ง 5 นาที 10 นาทีต่อวัน ถ้าท่านนั่งรถทำอย่างสม่ำเสมอหรือจะนั่งสมาธิแล้วคิดไปด้วยก็ได้ไม่เกิน 1 เดือนจะเริ่มคิดได้ แล้วคิดแต่ละครั้ง ถ้าท่านมีสมาธิในความคิดนี้ด้วย ท่านจะได้พรจากสวรรค์มา 

เขาเรียกว่าจะได้บลูปริ้นท์ แบบพิมพ์เขียวมาทำอย่างนี้สิ ทำอย่างนั้นสิ นั่นคือสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพลังจักรวาล ท่านต้องการเป็นอะไรใน 1 ปี 3 ปีข้างหน้า เดี๋ยวจะมีสัญญานส่งมาไม่รู้จากที่ไหน บอกวิธีให้ท่าน

เมื่อท่านได้เคล็ดลับนี้แล้วจดไว้นะครับ เพราะท่านจะลืม ผมได้ประจำครับ ว่าผมติดเรื่องนี้ผมขอนั่งสมาธิหน่อย 10 นาทีผมก็คิดแวบขึ้นมาเลย ท่านเคยได้ยินเรื่องราวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไหม

เป็นผู้ที่คิดวิธีการเอายานอวกาศลงจอดดาวอังคารคนไทย และดร. อาจอง ท่านให้สัมภาษณ์ว่า มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ว่าท่านทำได้อย่างไร ถึงสามารถคิดถึงวิธีการเอายาลงจอดได้ นักบินอวกาศ หรือนักวิทยาศาสตร์นาซ่าของอเมริกาคิดไม่ได้สักคน 

วิธีการที่ ดร. อาจอง เป็นคนไทยเอาชนะคนทั้งโลกได้ ด้วยการคิดวิธีนี้ คือการคิดในสมาธิครับทุกท่านผมกำลังเผยเคล็ดลับสำคัญ ที่สุดยอด อาจารย์อันดับหนึ่งของจักรวาลนี้ก่อนนะครับ คือ พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรามีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา สอนให้เรามีสมาธิ เห็นภาพ ท่านสอนวิธีให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง สอนให้เราเจริญ ตลอดเวลาที่เรามีสมาธิเพราะคนที่มีสติ มีสมาธิอยู่กับตัวจะเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดความสำเร็จขนาดใหญ่ 

ตัวผมเองหลังจากที่ได้ศึกษาธรรมะเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตลอด ทำได้ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง ของตัวเองมาตลอด จากรักษาศีลไม่ได้ กลายเป็นรักษาศีลมาได้ตลอด จากที่นั่งสมาธิไม่ได้เลย จนสามารถนั่งสมาธิติดต่อกัน 3 ชั่วโมง โดยไม่กระดิกเลยนะครับทุกท่าน 

ผมฝึกจากนั่ง 5 นาที อึดอัดจนจะระเบิดอยู่แล้ว เป็น 10 เป็น 15 นาที เป็น 1 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง ไม่กระดิกเลย แล้วก็ได้อะไรมหาศาลมากมาย

มีอยู่ครั้งนึงตอนผมนั่งสมาธิ ผมรู้สึกว่าเหมือนสายฟ้าเนี่ยฟาดลงมาที่หัวใจของผม เพราะผมนั่งสมาธิอยู่ตอนนั้นผมนั่งอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง พอออกจากสมาธิแล้วเนี่ยกำลังจะเดินไปอาบน้ำเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมา ผมหนาวตั้งแต่ตอน 17:00 น ยัน 07:00 น ของอีกวันหนึ่ง 

นั่นคือพลังมหาศาลที่ได้จากสมาธิ ซึ่งมีคนที่ได้ดีกว่าผมเยอะแยะมากมาย มีท่านใดมีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหมพิมพ์เล่าให้ฟังได้นะ เพราะฉะนั้นผมแนะนำว่าให้ฝึกวิธีคิดและวิธีคิดนั้นถ้าเทียบเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีคิดมีความสำคัญถึง 80% ที่จะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับชีวิตของท่าน 

วิธีคิดในที่นี้ผมหมายถึงทัศนคติแห่งความสำเร็จด้วย ท่านจะต้องรู้ว่าคิดอย่างไรท่านจึงจะสำเร็จ และท่านต้องไม่ยอมแพ้ ท่านต้องพัฒนา EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ให้เกิดขึ้น ฝึกปล่อยวาง ฝึกให้อภัย ฝึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ฝึกการให้ โดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างเช่น ผมมาแบ่งปันท่านเนี่ย ผมไม่ต้องการผลตอบแทนอะไรทั้งสิ้น ผมอยากจะให้เคล็ดลับ 

เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมมีชีวิตทุกวันนี้ นี่คือประสบการณ์จริง ผมฝึก อาจารย์ผมสอนว่าจงขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ผมก็เดินออกกำลังกายทุกเช้า ไม่ว่าจะเล่นเวท หรือวิ่งผมจะขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง พลังแห่ง การขอบคุณ ขอบคุณทุกท่านที่ท่านรู้สึกซาบซึ้ง บุญคุณอะไรก็ตามท่านได้ปล่อยสัญญาณออกไปนะ ปล่อยพลังงานออกไปให้จักรวาลได้รู้ ว่าท่านพร้อมแล้วที่จะเปิดรับสิ่งดีๆในชีวิต 

ขอบคุณดูสิครับท่านอาจจะกล่าวขอบคุณผมก็ได้ ผมอนุญาตขอบคุณอาจารย์กมลเวชที่แบ่งปันความลับของจักรวาลให้ทราบ ที่ได้จากตัวเอง ท่านจะรู้สึกคนละเรื่องเลยนะว่า ท่านขอบคุณสำหรับฉัน ฉันรู้สึกดีมันดีไม่น่าเชื่อ ฉันเปิดรับอะไรดีไปหมดเลย

2. วิธีสื่อสาร : 15%

ทักษะที่ 2 ท่านจะต้องมีวิธีการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม ในซีรีย์การพัฒนาตัวเองกับกมลเวชประเวศ จะมาแบ่งปันทักษะการสื่อสารที่ทรงพลังที่สุด สื่อสารทุกครั้งจะต้องแทงทะลุหัวใจคน เราพูดอะไรเนี่ยทำไมมันโดน อยากซื้อสินค้าและบริการของท่านแล้วก็เอาตังค์ไปเลย หรือไม่ก็อยากจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากให้เขาทำ เพราะทักษะในการสื่อสารนั้นคือหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสังคม

ทุกวันนี้เราสื่อสารกันตลอดเวลา แต่ทุกท่านทราบไหมครับว่า มีคนน้อยมาก ที่สื่อสารเป็นแล้วคนจำนวนมากผมเชื่อว่ามากระดับ 95 เปอร์เซ็นต์ของบนโลกนี้สื่อสารไม่เป็น จึงทำให้ชีวิตเขาไม่เจริญรุ่งเรือง ทำให้ชีวิตครอบครัวเขาไม่มีความสุข ความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดี ภรรยา สามี พ่อ แม่

ยกตัวอย่างการสื่อสารที่ไม่เวิร์คนะ คือการบ่นทุกท่านทราบไหมว่าเราทุกคนนะชอบบ่น ส่วนมากแล้วเกือบทุกคนชอบบ่น โดยไม่รู้ตัว 

การบ่นไม่เคยเวิร์คคนที่ถูกบ่นจะรู้สึกไม่ดีทุกครั้ง และจะมีระยะห่างของความสัมพันธ์ออกจากคนบ่นทุกครั้ง ถ้าพ่อแม่บ่นลูกมาก ลูกจะดื้อ ลูกจะรักพ่อแม่น้อยลง จนกลายเป็นเด็กเกเรไปเลยเสียคนไปเลยก็เยอะ 

ยิ่งด่ายิ่งเสียคนทุกท่านผมจะบอกให้ นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ไม่รู้วิธีการสื่อสาร ที่ว่าแต่ลูก อยากให้ลูกเป็นเด็กดีต้องไม่บ่น แต่พ่อแม่ไม่รู้ต้องทำยังไงใช่ไหม ผมจะแบ่งปันวันหลังนะ สามีภรรยา อยากให้สามีอยากให้ภรรยายินยอมทุกอย่าง อยากให้ใช้เงินยังไง จะให้ซื้ออะไร อยากให้ภรรยาพูดง่ายๆ ว่าเป็นช้างเท้าหลังที่ดี สามีต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมด้วย ไม่งั้นโดนตะโกนใส่กัน

เจ้านายกับลูกน้อง เจ้านายบางคนคิดว่าด่าอย่างเดียวได้ เพราะฉันจ่ายเงินเดือน เขาไม่ได้ใจลูกน้อง ท่านเคยเห็นไหม ท่านอ่านหนังสือเรื่องสามก๊ก ดูสามก๊ก เตียวหุยถูกลูกน้องตัวเองตัดคอเพราะอะไร เอาแต่ได้อย่างเดียว เป็นวิธีที่ผิดมาก ทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่จำเป็นที่สุดอันดับต้นๆ ที่มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ต้องเรียน แล้วบอกเลยว่ามีคนเรียนรู้น้อยมาก 

ถ้าท่านอยากจะเป็นสุดยอดแห่งนักสื่อสาร พูดอะไรเนี่ยครองใจคนได้หมด ทำยังไงคนก็ยินดีที่จะทําในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านต้องการ หรือแม้แต่กระทั่งซื้อสินค้า แนะนำหนังสือเล่มหนึ่งครับชื่อว่า วิธีชนะมิตรและจูงใจคน ของเดลคาร์เน กีไปหามาอ่านให้ได้ หรือฟังใน YouTube ก็ได้ มีคนอ่านไว้ท่านจะขนลุกขนพองว่าตายแล้วฉันจะ 60 แล้ว ฉันเพิ่งรู้ความลับของการที่จะเอาชนะมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ได้ รวมถึงศัตรูของท่านด้วย

ทุกท่านเคยมีศัตรูใช่ไหมในชีวิตน้อยคนที่ไม่มีศัตรู คนไม่ชอบขี้หน้าฝ่ายตรงข้ามในหนังสือเล่มนี้สอนแม้กระทั่งพิชิตศัตรูด้วยวาทะศิลป์ การสื่อสารสำคัญมากและมันสำคัญประมาณ 15%

3. วิธีการ : 5%

สุดท้ายทักษะที่ 3 วิธีการ นี่คือสิ่งที่ผู้คนทั้งโลกเข้าใจผิดมาก เวลาเขาอยากจะประสบความสำเร็จอะไรเขาจะมองหาวิธีการ ทำการตลาดออนไลน์ทำไงอ่ะ ไปเรียนสัมมนานี้ก็สอนวิธีการ การตลาดเครือข่ายทำยังไงอ่ะ ไปเรียนรู้กับองค์กรนี้สิเขาสอนวิธีการ

วิธีการนั้นสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิตแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นการันตี เพราะท่านเคยเห็นคนความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดไหม เพราะคิดไม่เป็นไงคิดไม่เป็น สื่อสารไม่เป็น ท่านเห็นดอกเตอร์ที่ทำธุรกิจให้สำเร็จแล้วยิงตัวตายทั้งครอบครัวไหม เยอะแยะลงข่าวทุกวันพวกนี้คิดไม่เป็น สื่อสารไม่เป็น วิธีการท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อครับ

เพราะฉะนั้นทุกความสำเร็จในชีวิตเริ่มต้นจากความคิดใดความคิดหนึ่งจำไว้นะ คิดให้ตกผลึก คิดจนเข้าใจและรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร 

ถ้าท่านอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต จากประสบการณ์ 50 ปีที่ผ่านมา ท่านจะต้องหาเวลารู้จักตัวเองให้ได้ บอกตัวเองก็ได้ รู้จักตัวเองให้ได้ว่า ตัวเองต้องการอะไรจริงๆ ในชีวิต

คำสอนของพระพุทธเจ้า

ถ้าถามผมว่าอ่านแล้วอาจารย์รู้ไหมว่าต้องการอะไร ผมตอบได้ทันทีผมต้องการบรรลุธรรม และเข้าสู่พระนิพพานภายในชาตินี้ นี่คือสิ่งที่ปรารถนาสูงสุด ผมรู้แล้ว ผมเกิดมาทำไมสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่เนี่ยการหาเงิน มันเป็นกระบวนการหนึ่งของฆราวาสที่ใช้ในการเลี้ยงครอบครัว ผมมีคุณพ่อคุณแม่ผมมีพี่มีน้องผมมีภรรยา ผมมีลูก ผมเลยต้องทำธุรกิจ

แต่ผมยึดเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก เพราะฉะนั้นผมรู้ว่าตั้งแต่วันที่ผมเข้าใจแล้ว ผมเกิดมาทำไมแล้วเป้าหมายสูงสุดใน YouTube คืออะไร ผมเดินตามเส้นทางนี้ตลอดเลยคือ ผมจะต้องบรรลุธรรมให้ได้ขั้นใดขั้นหนึ่ง แล้วจะต้องหาทางที่จะไม่กลับมาเกิดอีก 

เพราะการเกิดเป็นทุกข์ การแก่เป็นทุกข์ การเจ็บเป็นทุก การตายเป็นทุก ถ้าเราไม่รู้จักหยุดการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้ว จะต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไม่รู้จักจบสิ้น แล้วก็ต้องทุกข์เพราะเกิดมาก็ร้องทันทีเห็นด้วยไหม มันไม่มีเด็กคนไหนเกิดมาหัวเราะ เด็กทุกคนเกิดมาร้องไห้ก่อน เพราะประกาศให้โลกนี้รู้ว่าฉันเกิดมาเจอความทุกข์แล้ว การเกิดเป็นทุกข์ การใช้ชีวิตเป็นทุกข์ 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมไปค้นพบขออนุญาตแบ่งปันธรรมะสักเล็กน้อยได้ไหม เพราะว่าจะมีอยู่วันนึงนะวันพุธผมชอบฟังเรื่องธรรมะ ในการหลุดพ้นจริงๆ คือปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้ายังไง ให้รวย ความสุขยังไงให้เป็นผู้ที่จิตใจเบิกบานตลอดเวลา และให้สามารถบรรลุนิพพานได้

ทุกวันพุธอย่างน้อยผมจะมาแบ่งปันให้ทราบ เพราะวันพุธสำหรับผมคือวันศาสนา จะเอาธรรมะในพระไตรปิฎกที่พระพุทธเจ้าสอนมาแบ่งปันให้ท่านได้เรียนรู้ก่อนนอนทุกคืนวันพุธ ฟังธรรมะนอนหลับฝันดีแล้วก็มีความเจริญเกิดขึ้นในชีวิตมีมงคล 38 ประการเกิดขึ้นในชีวิตเสมอ จากการฟังในสิ่งที่ผมแบ่งปันยินดีก็ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยนะครับ

วิธีคิด วิธีสื่อสาร วิธีการคือ 3 ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในทุกเรื่องของชีวิตจำไว้นะ ถ้าอยากสำเร็จ อยากมั่งคั่งร่ำรวยเรื่องอะไร คิดให้ตกว่า ฉันต้องทำอะไร ทำยังไง ถ้าจะสำเร็จเรื่องนั้น เสร็จแล้วท่านก็ไปเรียนรู้วิธีการว่ามันทำยังไง 

แล้วถ้าจะสื่อสารออกไปให้กับผู้คนได้รู้ ว่าท่านขายอะไร ท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรหรือท่านนั้นทำงานประจำยังไงสื่อสารให้เจ้านายรู้ เขาจะได้ยกระดับ ยกฐานะขึ้นตำแหน่งให้ท่าน สำคัญหมดทุกเรื่อง 

ผมจะเอาหลักการของที่พระพุทธเจ้าสอน หลักการสูงสุดอันดับ 1 ผมเอาคนที่ประเสริฐที่สุดในจักรวาลมาสอน เพราะฉะนั้นวันนี้เราสอน 3 ปรัชญาในการสร้างชาติสร้างชีวิต สร้างทักษะในการพัฒนาชีวิตด้วย 

ก่อนที่เราจะจากกันในวันนี้ ผมจะแบ่งปันถึงคำอธิษฐาน ที่ผมเก็บไว้อธิษฐานกับตัวเองทุกวัน เพราะนี่คือคำอธิษฐานที่เกิดขึ้นเมื่อ 2500 ปีที่แล้ว ในตอนที่พระพุทธองค์ทรงนั่งอยู่ที่แท่นวัชรอาสน์ แล้วก็มีพญามารยกกองทัพมาเพื่อที่จะทำลายการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทำอะไรมากเลย แค่ขอให้พระแม่ธรณี ช่วยบีบมวยผมเพื่อแสดงถึงน้ำทักษิโณทก หรือน้ำที่กรวดน้ำ ที่ได้ทำบุญมาตลอดสังสารวัฏ 

แม่ธรณีก็เกิดขึ้นมาจากดิน แล้วก็บีบมวยผมเพื่อหลั่งน้ำทักษิโณทกพญามารทั้งหลาย โดนน้ำพัดไปขอบจักรวาลเลย แล้วพระองค์ก็ตรัสคำนี้ครับว่า 

หนังเอ็นกระดูก จักเหลืออยู่, เนื้อและเลือดในสรีระจะเหือดแห้งไปก็ตามที ; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะพึงบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่น ของบุรุษ, ถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี

เสร็จแล้วพระพุทธองค์ก็นั่งสมาธิแล้วก็เริ่มบรรลุญาณต่างๆ เพราะฉะนั้นนี่คือคำอธิษฐานของมหาบุรุษที่ประเสริฐที่สุดในจักรวาล ผมเอามามอบให้กับทุกท่าน ถ้าท่านอยากประสบความสำเร็จในเรื่องใด ให้ท่านปฏิญาณกับตัวเองแบบนี้

ผมแปลให้ฟังง่ายนะ ต่อให้หนังเอ็นกระดูกจะไม่เหลืออยู่แล้วต่อให้เลือดและเนื้อจะแห้งไปทั้งหมดแล้วทั้งตัวก็ตามทีถ้าเรา ไม่บรรลุนั้นในความตั้งใจในสิ่งที่จะทำแล้วด้วยความเพียรความบากบั่นของตัวเราเนี่ยเราจะไม่มีวันหยุดความเพียรนั้นเลย 

จงยอมตายแต่อย่ายอมแพ้แล้วท่านจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้านผมการันตี

กมลเวช เมืองศรี

MLM Attraction Blueprint 2.0

“ในที่สุด! วิธีที่ง่ายกว่าในการชวนคนเข้าร่วมธุรกิจ ที่ไม่ถูกปฏิเสธไม่สูญเงิน เวลาและแรงงานของท่านวิ่งไล่ล่าผู้มุ่งหวังคุณภาพแย่ๆอีกต่อไป”

“นี่คือสุดยอดวิชาที่ผมใช้สร้างธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตมีรายได้ 7 หลัก โดยไม่ต้องโทรชวนคนไม่รู้จัก หรือขอร้องญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอีกต่อไป …และผมอยากจะเปิดเผยให้ท่านได้รู้ด้วยว่า…”

จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?

จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

ทำธุรกิจแล้วเคยยอมแพ้ รู้สึกว่าคนรอบข้างนอกจากจะไม่เห็นด้วยแล้ว ยังบั่นทอนกำลังใจให้รู้สึกไม่อยากไปต่ออีกด้วย ต้องทำอย่างไร?

วีดีโอ “จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?”

หนังสือเสียง 

“จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?”

สารบัญเนื้อหาวีดีโอ “จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?”หนังสือเสียง “จะทำอย่างไร ถ้าทำธุรกิจแล้วคนรอบข้างไม่เห็นด้วย?”ทำไม คนรอบข้างถึงไม่เห็นด้วยกับเราอย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆเราจะต้องยืนเหมือนต้นไม้ใหญ่ชัดเจนกับสิ่งที่ทำยืนหยัดไม่ยอมแพ้

เชษฐวิทย์ สิงขร:

สวัสดีครับมาพบกับเราสองคนอีกครั้งหนึ่ง แล้วนะครับ ปกตินะครับ ถ้าเราเจ็บป่วยแล้วก็ต้องไปหาหมอ เพื่อรับการรักษา แล้วก็ให้หมอจ่ายยาถูกไหมครับ แต่วันนี้นะครับเราสองคนโดยเฉพาะอาจารย์กมลเวช จะมาจ่ายยาให้กับผู้ที่ มีปัญหาหรือกำลังป่วยในการทำธุรกิจวันนี้นะครับ ก็มีคำถาม จากผู้ที่ประสบปัญหา คุณกรสหัส บอกว่าทำธุรกิจแล้วเคยยอมแพ้ รู้สึกว่าคนรอบข้างนอกจากจะไม่เห็นด้วยแล้ว ยังบั่นทอนกำลังใจให้รู้สึกไม่อยากไปต่ออีกด้วย ซึ่งปัญหานี้เขียนมากันเยอะมาก

ยังมีอีกปัญหานึงของ คุณศุภัชญา มีปัญหาคล้ายๆกันก็คือ เคยยอมแพ้เพราะแฟนไม่ทำเครือข่ายค่ะปัญหามีแบบนี้อาจารย์กมลเวชจะจ่ายยาอย่างไร เชิญเลยครับกมลเวช เมืองศรี:

สวัสดีทุกท่านนะครับ ช่วงกมลเวชจ่ายยา เหมือนเป็นหมอเลย จริงๆเอาประสบการณ์ ในการเอาชนะความท้าทาย ในการทำธุรกิจ เอามาแบ่งปันกัน

เวลาเราแบ่งปันวิชาผ่านทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีพี่น้องส่งคำถามมาเยอะแยะเลย

ซึ่งคำถามเมื่อสักครู่นี้ เป็นปัญหาที่ผมเชื่อว่า ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ และอยากให้ประสบความสำเร็จ เจอกันเยอะมาก เรามาลองเจาะประเด็นดูว่าจริงๆแล้วปัญหา มาจากอะไร แล้วเราจะสามารถเอาชนะความท้าทาย ที่ทำให้เราไปต่อไม่ได้

โค้ดแนมเห็นด้วยกับผมไหมครับว่า คนที่เจอปัญหาประมาณ 95-97 เปอร์เซ็นต์เลิกหมดเลย

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ใช่ พอเจอปัญหาแล้วเลิกเลยไม่ไปต่อทำให้ธุรกิจที่ ตั้งเป้าหมายไว้ก็ล้มเลิกไปด้วย น่าเสียดายนะครับ

กมลเวช เมืองศรี:

เรามาเจาะทีละประเด็นกันว่า ทำไม คนรอบข้างถึงไม่เห็นด้วยกับเรา

ทำไม คนรอบข้างถึงไม่เห็นด้วยกับเรา

เวลาที่เราอยากจะเริ่มต้น ลงทุนหรือว่าลงมือสร้างธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นวงการธุรกิจออนไลน์ธุรกิจเครือข่าย ขายตรงประกันชีวิต พวกนี้มักจะโดนคนรอบข้าง และเป็นคนที่รักกันทั้งนั้นเลย พ่อแม่ สามี ภรรยา ห้ามไม่ให้เราทำ 

ซึ่งไม่ใช่ว่าผมไม่เคยโดน ผมก็เคยโดนเช่นเดียวกัน ทำให้เรามีความรู้สึกว่าทำไมล่ะเราตั้งใจทำจริงๆแต่ทำไมไม่เห็นด้วยกับเรา เรารู้นะว่ายังใหม่และไม่เกิดผลลัพธ์ แล้วเราจะทำอย่างไร

เพราะคนส่วนมากที่ยอมแพ้นั้นไม่อยากมีปัญหา กับคนที่เขารัก

สมมุติว่าภรรยาหรือสามีไปตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ขายตรงประกันชีวิต หรือขายของออนไลน์ แล้วถ้าสามีไม่เห็นด้วย สามีเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน

เช่น อาจจะเคยทำแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วก็รู้สึกว่าธุรกิจแบบนี้ไม่ดี ฉันทำไม่สำเร็จ เธอก็คงทำไม่สำเร็จ

จริงๆ ตรงนี้ผมอยากแนะนำแบบนี้ครับว่า ถ้าเราต้องการทำธุรกิจอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จ คนที่ควรมีความเชื่อมั่นเกิน 100% หรือพันเปอร์เซ็นต์คือเราก่อน

ความเชื่อมั่นของเราจะเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่กลางทุ่ง ที่ในทุ่งเหล่านั้นอาจจะมีแต่ต้นไม้เล็กๆหรือหญ้าเต็มไปหมดเลย แต่ต้นไม้ใหญ่นี้จะต้องมีคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่ง ไม่ว่าพายุจะพัดฝนจะกระหน่ำ ท่านต้องยืนหยัดเหมือนต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น

อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ

อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ ให้กับ สิ่งต่างๆ ที่ถาโถมมาจากคนที่เรารัก ซึ่งผมทราบดีว่ายิ่งคนที่เรารักไม่เห็นด้วย ยิ่งทำให้รู้สึก คับแค้นใจและเจ็บปวดมากกว่าคนอื่น

และทำให้คนที่ เจอเหตุการณ์แบบนี้ตัดสินใจเลิกหมดเลย เพราะไม่อยากมีปัญหากัน ผมเองก็เคยเกิดประเด็นเหล่านี้ในชีวิตจะเล่าให้ฟังนะครับ

สมัยที่ผมเริ่มต้นอยากจะทำธุรกิจจากที่บ้านให้ประสบความสำเร็จ เมื่อ 10-15 ปีที่แล้ว ทำยังไม่เกิดผลลัพธ์ลงทุนไปเป็นแสน ดูแล้วยังไม่มีวี่แววแต่ผมเชื่อว่าผมสามารถประสบความสำเร็จได้

มีอยู่วันหนึ่งผมก็ได้รับโทรศัพท์ โทรมาจากคุณพ่อนั่นเอง ผมก็นึกว่าโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบ สอบถามว่าครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ลูกผมยังเล็กอยู่ แต่พ่อโทรมานั้นน้ำเสียงไม่ดีเลย คือแบบโกรธมาเลย

น่าจะปรึกษากับคุณแม่เรียบร้อยแล้วว่า เดี๋ยวต้องจัดการให้ได้ต้องเอาลูกกลับไปทำงานประจำให้ได้ เพราะพ่อกับแม่ อยากให้ผมทำงานประจำ แต่ผมไม่ต้องการทำงานประจำ ผมลาออกมา เพื่ออยากจะสร้างธุรกิจให้สำเร็จ

พ่อก็เริ่ม บอกว่าส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาไม่มีสมองหรือไง ถึงมานั่งทำธุรกิจอะไร บ้าๆ บอๆอย่างนี้ จะต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียนะ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยง ดูแล้วไม่มีอนาคตเลย ไม่ได้สอนให้ลูกมาเป็นคนโง่แบบนี้นะ

ที่ผมเล่านี่พูดแบบเบาๆนะครับ แต่จริงๆนี้หนักกว่านั้นครับ พ่อวางหูไป และคิดว่าจะทำให้ลูกตระหนัก

ซึ่งลูกก็ตระหนักแต่วิธีการสื่อสารนั้น ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกโกรธท่านนะ ครับผมรับทราบดี ถึงความเป็นห่วงของท่าน แต่พอวางโทรศัพท์ปุ๊บ น้ำตาผมก็ไหลเลยทันที กลั้นไม่อยู่

ภรรยาผมเห็นอาการ แล้ว เพราะเห็นว่า โทรศัพท์อยู่นาน 5 นาที ผมนั่งร้องไห้คนเดียวทนไม่ไหว เพราะว่าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจมากเราเชื่อมั่น และเราอยากสำเร็จ แต่คนที่เรารักมากที่สุดในชีวิตคือคุณพ่อคุณแม่ไม่เห็นด้วย แล้วต้องการให้เราเลิก และกลับไปทำงานประจำ

โค้ชแนม เห็นด้วยไหมครับว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่บอบบางที่สุดของเรา ง่ายมากเลยที่จะเลิก แล้วจังหวะนี้แหละที่คนเลิก

แต่ผมไม่เลิก ผมตัดสินใจเลยว่า ยังไงผมก็ไม่อนุญาตให้ใครมาขโมยความฝัน ของผมได้ จำคำนี้ไว้นะครับ ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จ และเรากำลังทำอะไรใหม่ๆที่คนรอบข้างไม่เห็นภาพว่าเรากำลังทำอะไร และเขาไม่เชื่อว่าเราจะทำได้

Giant-Raintree-KanchanaburiGiant-Raintree-KanchanaburiGiant-Raintree-Kanchanaburi

เราจะต้องยืนเหมือนต้นไม้ใหญ่

เราจะต้องยืนเหมือนต้นไม้ใหญ่ และไม่อนุญาตให้ใครมาขโมยความฝันของเราไปได้ เพราะผมเชื่อว่าถ้าผมประสบความสำเร็จแค่คนเดียว ครอบครัวผมตระกูลผม ก็จะสุขสบายหมดเลย สมมุติผมทำธุรกิจจนมีรายได้เป็นล้านบาท คิดว่าครอบครัวเราจะดีขึ้นไหมครับ คุณภาพชีวิตดีขึ้น การกินการอยู่ บ้านรถ ทุกอย่าง

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ใช่ครับเพราะเราประสบความสำเร็จแค่คนเดียวทุกคนในครอบครัวก็ได้รับผลจากความสำเร็จนั้นด้วย

กมลเวช เมืองศรี:

ดังนั้น ท่านที่กำลังมีปัญหาคนรอบข้างไม่เห็นด้วยหมดหวังท้อแท้หมดกำลังใจ ถ้าท่านอยากประสบความสำเร็จจำคำผมไว้นะครับ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด ท่านก็ ครับ ขอบคุณมากเลยครับ

แต่หูของท่าน จะต้องเหมือนมีบานพับที่ปิดเอาไว้อย่ารับ ความคิด – เหล่านั้นเข้ามา

เมนทอลของผมท่านหนึ่ง ผู้ที่ทำรายได้ 300 ล้าน ด้วยการสร้างธุรกิจจากที่บ้าน ท่านเคยแบ่งปันกับเราไว้ เขาไม่อนุญาตให้ใคร มาขโมยความฝันของเขาเลยแม้แต่แม่ของเขาเอง

แม่ของเขาจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบเสพข่าว และฟังแต่เรื่องลบๆ เศรษฐกิจไม่ดีลงทุนทำธุรกิจเดี๋ยวโดนโกง ทำธุรกิจเดี๋ยวไม่ประสบความสำเร็จเดี๋ยวเจ้งขึ้นมาจะทำอย่างไร จะใส่แต่ความคิดลบ

เขาจะสื่อสารกับคุณแม่อย่างนี้ คุณแม่ครับ ผมรักคุณแม่มาก แต่ ณ ตอนนี้ผมต้องขออนุญาต ที่จะไม่สื่อสารกับแม่เกิน 5 นาที นะครับ เพราะพลังจากความคิดลบจากคนที่เรารักจะรุนแรงมากกว่าคนอื่นหลายเท่า 

หลังจากที่ผมได้รับการโค้ชชิ่ง สิ่งเหล่านี้ เราก็เลยเข้าใจว่าเรามีคุณสมบัติเหล่านี้ เหมือนกับตอนนั้นที่เราฟัง และเราก็ยัง ยืนหยัด และขอเวลา 3 ปี

3 ปีนี้ถ้าผมทำในสิ่งที่ทำนี้ไม่สำเร็จ ผมยินดีที่จะทิ้งทุกอย่าง แล้วกลับไปทำสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ผมทำ อยากให้ผมทำงานไปตลอดชีวิต ใช่ไหม ได้เลยผมยินดี แต่ผมขอ 3 ปี และขอให้สนับสนุนผมนะ ขอให้รักผมเหมือนเดิม ผมไม่ได้ดื้อ แต่ผมมีความเชื่อมั่นมาก ว่าจะประสบความสำเร็จ ขอเวลา 3 ปี ทำไมต้อง 3 ปีครับ

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เพื่อที่จะมีระยะเวลากำหนดให้ เราใช้เวลาสร้างธุรกิจและให้ท่านได้รอด้วย เพราะเราต้องพัฒนาตนเอง

กมลเวช เมืองศรี:

ไม่ใช่เราสัญญาว่าเดือนหน้าเราจะประสบความสำเร็จ เป็นไปไม่ได้เพราะมันเร็วเกินไป เหมือนกับสัญญาไปเพื่อตัดปัญหา

การทำธุรกิจ มันต้องใช้เวลา กว่าจะพัฒนาตัวเอง กว่าจะเรียนรู้วิธีการทำการตลาด กว่าจะลงมือทำจนเกิดทักษะ กว่าจะสร้างผลลัพธ์ จากคนคนนึงที่ไม่เคยทำธุรกิจอะไรสำเร็จมาก่อนเลย จะให้สร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จมีรายได้หลักแสนหลักล้าน

ชัดเจนกับสิ่งที่ทำ

หลังจากที่ผมชัดเจนมาก ว่าผมจะไม่ยอมแพ้ไม่เลิกแล้วก็จะไปต่อ และขอให้เป็นกำลังใจให้ผมด้วย และอย่าว่าผมอีก ผมขออย่างเดียวคือกำลังใจ

เพราะถ้าผมสำเร็จแล้ว สำเร็จกันหมดทั้งครอบครัว ทายซิว่าเมื่อเวลาผ่านไป เราสำเร็จไหม เราก็ต้องสำเร็จสิครับ ถ้าเราไม่สำเร็จเท่ากับเราจะต้องทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ ตลอดชีวิต คือเดิมพันชีวิตกันเลย

มันเลยทำให้ผมมีแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ผมจะตื่นนอนเหมือน ที่บ้านถูกไฟไหม้ ตื่นมามีพลังมากวันนี้ต้องทำอะไร เราออกไปทำธุรกิจกันตะลุย เต็มที่ จนเราทำรายได้จากหลักหมื่น เป็นหลักแสนจากหลักแสนเป็นหลักล้าน

เท่านี้แหละสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรู้ไหมครับพ่อกับแม่โทรมาใหม่ ดีใจนะประสบความสำเร็จแล้ว มีบ้านใหม่มีรถใหม่ โอนเงินให้มากกว่าเดิมหลายเท่า

สมัยก่อนตอนผมไม่มีเงิน ผมยังโอนให้แม่ 2,000 บาท ไม่มีจะกินเลยนะยังต้องกันให้แม่นะ ผมไม่ได้บอกแม่นะว่า ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมไม่มีเงินแล้วนะ ผมไม่อยากให้คุณแม่กับคุณพ่อไม่สบายใจ

แต่คุณแม่ก็รู้สึกเสียใจว่า ทำไมทำธุรกิจสำเร็จแล้วให้แม่ 2,000 บาท แต่จริงๆตอนนั้นไม่ได้พูดความจริง ผมเลยแนะนำว่าเวลามีปัญหาอะไร ควรพูดความจริงกับคนใกล้ตัวเห็นด้วยไหมครับ พูดความจริงนะครับ สุดท้ายแล้วเราจะต้องมาถึงจุดที่พูดความจริงอยู่ดี

เพราะฉะนั้นอย่าหลอกสถานการณ์เป็นอย่างไร สถานการณ์การเงินเป็นอย่างไรธุรกิจเป็นอย่างไร ต้องสื่อสารให้ชัดเจน หลังจากที่เราประสบความสำเร็จแล้วโทรศัพท์มาใหม่ ทั้งพ่อและแม่ ถามว่าเป็นยังไงบ้างลูก ธุรกิจดีขึ้นมากใช่ไหม ดีใจด้วยนะ

จากที่เคยไม่เห็นด้วยกลับโทรมาชื่นชมและก็อวยพร คุณพ่อจากที่ เคยโทรมาต่อว่า โทรมาใหม่ และบอกว่าดีใจด้วยที่ลูกประสบความสำเร็จ ยินดีมากๆเลย และพ่อ ขออวยพรให้ลูก ประสบความสำเร็จ

ยืนหยัดไม่ยอมแพ้

กลายเป็นแบบชื่นมื่นไปหมดเลย ทั้งหมดนี้คือสาเหตุหลักมาจากที่เรา ยืนหยัดไม่ยอมแพ้

เพราะฉะนั้นทุกท่านครับ ถ้าต้องการเปลี่ยนคำขัดขวางไม่ให้เราประสบความสำเร็จ คนเหล่านี้ไม่ใช่เขาไม่รักเราเขารักเรามาก แต่เขากลัวว่าเราจะไปล้มเหลวและรับไม่ไหว เขาเลยต้องดึงเรากลับมา ในจุดที่ทุกคนอยู่แล้วเราสบาย จริงๆแล้วไม่ค่อยสบายหรอกนะ

เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วผมสรุปเลยว่า ทั้งคุณกรสหัส และคุณศุภัชญา ที่ถามคำถามมา ถ้าได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หรือตอนนี้กำลังดำเนินธุรกิจอยู่ จงอย่ายอมแพ้โดยเด็ดขาด แล้วก็ยืนหยัด ถึงแม้ว่ารอบข้างเราคนทั้งโลกจะไม่เห็นด้วยกับเราเลย เราก็ต้องยืน เพราะวันใดที่เราทำแล้วประสบความสำเร็จ วันนั้นเราจะชนะคนทั้งโลกที่ไม่เห็นด้วยกับเราโค้ดแนมมีประสบการณ์นี้ไหมครับ

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ประสบการณ์ในส่วนของผม เนื่องจากเราเห็นข้อมูลธุรกิจมามากกว่าเขา ซึ่งเขายังไม่ได้เห็นรายละเอียดต่างๆ

สิ่งที่ผมทำก็คือ พามาดูด้วยเลย มาดู มาเห็นด้วยกัน แล้วค่อยมาห้ามกันอีกทีนึง เพราะตอนแรกที่เขาคัดค้านเพราะเขาไม่เห็นข้อมูล และไม่เห็นภาพ เราแค่เอาความตื่นเต้นของเราไปเล่าให้เขาฟัง

ซึ่ง เนื่องจากเขามีประสบการณ์เดิมๆ ก็อาจจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเข้าใจมาเพราะฉะนั้นพาเขาไปฟังด้วย ก็จะทำให้ลดสิ่งที่เขากังวลลงไปได้มาก แล้วถ้าเขาเห็นด้วยเขาก็จะมาช่วยเราทำ ถ้าเขาเห็นว่าสิ่งที่เราตัดสินใจนั้นถูกต้อง

แต่คนที่ทำงานหลักก็ยังคือเรา เราก็ต้องรักษาเป้าหมายความฝันของเราให้ประสบความสำเร็จ

กมลเวช เมืองศรี:

เป็นสิ่งที่ดีมากครับ ซึ่งคนที่มีครอบครัว ใครก็ตามที่เป็นนักสร้างโครงการใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายสามี อยากจะทำอะไรใหม่ๆ ภรรยาก็มัก จะกังวลว่าทำได้เหรอ เพราะธรรมชาติของสุภาพสตรี ต้องการความมั่นคง ไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา แต่ผู้ชายชอบความตื่นเต้นชอบลุย

มันไม่มีอะไรผิดถ้าคู่ของท่านไม่เห็นภาพและไม่สนับสนุน หน้าที่ของท่านก็คือ ก็ต้องยืนหยัดและบอกกับเขาว่าขอเวลา จะ 1 2 หรือ 3 ปีขอเถอะ และขอให้คุณสนับสนุนฉันนะ อย่าได้คัดค้านเลย

เพราะมีเมนทอลอีกท่านหนึ่งแนะนำผมว่า คุณเดินทางรอบโลกสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จมีเป็นสิบเป็นร้อยล้าน เคยโดนขัดขวางบ้างไหม เขาบอกว่า มี และถ้า เขาไม่ให้ทำ คุณจะทำอย่างไร เขาบอกว่าเขาก็จะเลิก กับภรรยา

เขาบอกว่ารักภรรยามากแต่ถ้าใครก็ตามมาขัดขวาง ความฝันของเขา แต่ยังรักเหมือนเดิม แต่จะขอตามความฝัน เพราะเขาชัดเจน และขอให้ภรรยาสนับสนุนเขา

ทายสิครับว่าภรรยาเขาเลิกหรือว่าเดินตาม สุดท้ายภรรยาเดินตามความฝันกับเขาด้วย

เพราะท่านเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ว่าจะโดนพัดกระหน่ำ หรือพายุอะไรก็ไม่ล้ม สุดท้ายใครจะแพ้ มันต้องมีฝ่ายหนึ่งที่แพ้ ถ้าท่านไม่ใช่ฝ่ายแพ้ ก็อีกฝ่ายนึงเป็นฝ่ายที่แพ้

ถ้าท่านยืนหยัดหลักการนี้ไว้ท่านจะเป็นผู้ชนะ ตลอดกาล 

เชษฐวิทย์ สิงขร:

สำหรับวันนี้ท่านได้รับ การจ่ายยาจากอาจารย์กมลเวชไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าท่านคงจะนำไปใช้ และนำไปสร้างธุรกิจของท่าน จนประสบความสำเร็จ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!

kamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawit

เชษฐวิทย์ สิงขร & กมลเวช เมืองศรี

MLM Attraction Blueprint 2.0

“ในที่สุด! วิธีที่ง่ายกว่าในการชวนคนเข้าร่วมธุรกิจ ที่ไม่ถูกปฏิเสธไม่สูญเงิน เวลาและแรงงานของท่านวิ่งไล่ล่าผู้มุ่งหวังคุณภาพแย่ๆอีกต่อไป”

“นี่คือสุดยอดวิชาที่ผมใช้สร้างธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตมีรายได้ 7 หลัก โดยไม่ต้องโทรชวนคนไม่รู้จัก หรือขอร้องญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอีกต่อไป …และผมอยากจะเปิดเผยให้ท่านได้รู้ด้วยว่า…”

6 เสาหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ

6 เสาหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ

“ในที่สุด…วิธีที่ดีกว่า ที่ทำให้ท่าน สร้างธุรกิจออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ ในไม่เกิน 6-12 เดือนนี้ แม้ไม่มีพื้นฐานใดๆ มาก่อนเลย การันตี!” คลิกที่นี่

อาจารย์ครับ ผมอยากขอคำชี้แนะ เรื่องของผมนะครับ ผมไม่เคยทำงานออนไลน์มาก่อนเลย จนมาวันหนึ่งได้รู้จักธุรกิจออนไลน์จึงได้ตัดสินใจทำ แต่ด้วยความที่ผมไม่มีประสบการณ์ จึงทำตามที่เขาสอน

เขาสอนให้โพสต์ลง Facebook  ผมก็ทำอย่างนี้มาตลอด ผลลัพธ์ไม่เกิดเลยครับ เสียเวลามาตั้งหลายเดือน ผมอยากสำเร็จครับอาจารย์ ผมอยากทำให้ทุกคนเห็นว่าผมทำได้ ผมขอคำแนะนำด้วยครับ

วีดีโอ “6 เสาหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ”

หนังสือเสียง 

“6 เสาหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ”

สารบัญเนื้อหา:มีวิสัยทัศน์และพัฒนาตัวเองสม่ำเสมอรู้จักวิธีการสร้างแบรนด์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ทำการตลาดด้วยเนื้อหาสาระกลยุทธ์ในการติดตามผลกลยุทธ์ในการเคลื่อนคนเข้าระบบ 

เชษฐวิทย์ สิงขร:สวัสดีครับวันนี้เราสองคนมาตอบคำถามและแก้ไขปัญหา ให้กับผู้คนที่มีปัญหาในการทำธุรกิจเครือข่าย หรือธุรกิจออนไลน์ และนี่คือคำถามที่ถามมาซึ่งมีเยอะมาก

วันนี้ได้หยิบยกคำถามจากคุณประพัฒน์ ซึ่งถามมาข้างต้นแบบนี้ อาจารย์กมลเวช จะตอบว่าอย่างไรขอคำชี้แนะด้วยครับ

กมลเวช เมืองศรี:ขอบคุณครับโค้ชแนม และขอบคุณคุณประพัฒน์ที่ถามคำถามที่มีคุณภาพเข้ามา

ผมได้ฟังคำถามผมรู้เลยว่า คำตอบที่ผมจะแบ่งปันในวันนี้ จะสามารถช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ให้เขาได้เข้าใจว่า

ถ้าเขาอยากจะทำธุรกิจออนไลน์หรือการตลาดออนไลน์ ให้เกิดผลลัพธ์ อย่างถูกต้อง ยั่งยืน และยาวนาน ต้องทำอย่างไร

เรียกว่าแบ่งปันประสบการณ์ดีกว่า เป็นประสบการณ์ที่ผมทำธุรกิจออนไลน์มามากกว่า 10 ถึง 15 ปี ลองผิดลองถูกสารพัด

อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณประพัฒน์ทำแล้วพวกเราไม่เคยทำนะ เราทำมาหมดแล้ว สมัยเราเริ่มต้นยังไม่มี Facebook และ YouTube

เชษฐวิทย์ สิงขร:ผมโพสต์ในเว็บบอร์ดครับอาจารย์

กมลเวช เมืองศรี:วันละกี่ร้อยเว็บ

เชษฐวิทย์ สิงขร:จำไม่ได้ว่ากี่ร้อยเว็บแต่เยอะมาก

กมลเวช เมืองศรี:ใช้ซอฟต์แวร์ด้วยไหม

เชษฐวิทย์ สิงขร:ใช้ครับ ซอฟต์แวร์ที่โพสต์อัตโนมัติซื้อมาใช้หมด เพียงแค่ใส่ข้อความลงไป แล้วก็โพสต์โดยอัตโนมัติ

กมลเวช เมืองศรี:แล้วผลลัพธ์

เชษฐวิทย์ สิงขร:ผลลัพธ์ก็เกิดเหมือนกันแต่เกิดน้อยมากไม่สม่ำเสมอไม่เสถียร

กมลเวช เมืองศรี:สเกลขยายเพิ่มได้ไหม

เชษฐวิทย์ สิงขร:ไม่ได้เลยครับ

กมลเวช เมืองศรี:เพราะมีข้อจำกัดคือเรื่องความรู้และเทคโนโลยีสมัยนั้น

เพราะฉะนั้นตั้งแต่ยุคนั้นมาถึงยุคนี้ โค้ชแนมคิดว่าทั้งเทคโนโลยี และเครื่องมือ มันสามารถช่วยให้ใครสักคน ประสบความสำเร็จได้ใน 1 ปีไหม

เชษฐวิทย์ สิงขร:ผมว่าเร็วกว่า 1 ปีนะ ถ้าใช้อย่างมีระบบใช้เครื่องมือต่างๆ แบบที่ถูกต้องด้วย

กมลเวช เมืองศรี:ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตเอาข้อมูลความลับสำคัญที่ผมนั้นใช้สอนกับกลุ่มคนวงในของผม ในโปรเจคเศรษฐีชุดนอน เอามาให้ท่านดู ข้อมูลนี้อยู่ในโทรศัพท์ของผม เป็นข้อมูลที่จะสอนเรื่อง  6 เสาหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ 

ผมขออนุญาตเอาข้อมูล มูลค่าหลักล้านมาแบ่งปันให้กับทุกท่าน เพราะว่าอยากสนับสนุนช่วยเหลือคุณประพัฒน์ รวมถึงคนที่อยากจะทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จด้วย เพราะว่าในยุคนี้ มีธุรกิจที่สามารถทำให้ใครสักคนประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด ต้องพึ่งพลังทางอินเทอร์เน็ต

มีอยู่ 6 ขั้นตอนในการที่จะทำให้ใครก็ตามทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ ผมขอแนะนำว่า อะไรที่ท่านรู้มาในการทำธุรกิจออนไลน์ ใครสอนท่านให้โพสต์ ไลฟ์ทุกวัน เต้นหน้าจอ โพสต์ยัดเยียดลงไปในกลุ่ม หรือส่ง Message ไปหาผู้คน ลืมสิ่งเหล่านั้นไปก่อน เพราะนั่นไม่ใช่ระบบแห่งความสำเร็จ

เพราะถ้าท่านต้องการมีระบบในการทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จท่านต้องทำตาม 6 ขั้นตอนนี้

1

ขั้นตอนที่หนึ่ง

มีวิสัยทัศน์และพัฒนาตัวเองสม่ำเสมอ

ท่านจะต้องมีวิสัยทัศน์ ท่านจะต้องมีทัศนคติของคนที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทำไมสำคัญผมจะบอกให้ฟัง คนที่เข้ามาในวงการของการสร้างธุรกิจออนไลน์ส่วนมากไม่มีแผนและไม่มีการคิดระยะยาว สิ่งที่เขาจะทำก็คือใครสอนอะไรก็ทำทำทำ โดยไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีรบกวนคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ 

ถ้าเราเริ่มกระบวนการที่ถูกต้องตั้งแต่แรกก็เหมือนกับการติดกระดุมให้ถูกต้องตั้งแต่เม็ดแรกเม็ดต่อไปก็จะดูสวย แต่ถ้าติดผิดทำผิดทำในสิ่งที่คนไม่ชอบ เช่น   ไลฟ์ไปด่าไปหรือพูดหยาบคาย มันเรียกกระแสได้แต่มันไม่ใช่ระยะยาว โค้ชแนมอยากให้คนรู้จักในฐานะโค้ชแนมจอมหยาบคายหรือเปล่า

เชษฐวิทย์ สิงขร:ไม่ใช่แน่นอนครับ

กมลเวช เมืองศรี:เพราะฉะนั้น ขั้นตอนที่ 1 ครับท่านต้องมีวิสัยทัศน์ว่าท่านจะสร้างธุรกิจออนไลน์ไปเพื่ออะไร

ยกตัวอย่าง ผมต้องการสร้างธุรกิจออนไลน์เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินและเวลา

ผมรู้ว่าพลังของอินเทอร์เน็ตสามารถทำให้เราสร้างธุรกิจขายสินค้าหรือบริการที่สามารถทำเงินให้เราเป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นได้ และมันต้องอยู่ได้อย่างน้อย 10 ถึง 20 ปี และผมทำมาตอนนี้ปีที่ 15 แล้วนะ

เพราะฉะนั้นคนที่มีระบบจะอยู่ยงคงกระพันและรับเงินทุกเดือน

ท่านจะต้องชัดเจนว่าทำไปเพื่ออะไร เช่น อยากจะทำทดแทนงานประจำ เราเคยทำงานประจำมาก่อนแต่ไม่ตอบโจทย์เราเลยต้องมีอาชีพที่ 2  

และถ้าท่านต้องการทำธุรกิจออนไลน์เป็นอาชีพที่ 2 หรืออาชีพหลัก ท่านต้องตั้งเป้าไว้เลยว่าทำไปเพื่ออะไร

ท่านจะต้องเรียนวิชาที่จะทำให้ท่านเกิดชุดทักษะไม่ใช่ว่าการทำไลฟ์อย่างเดียวจะทำให้ท่านประสบความสำเร็จ

ท่านต้องมีชุดทักษะเช่น เขียนโฆษณาอย่างไรทำให้คนอยากซื้อใจจะขาด

จะพูดอย่างไรเพื่อดึงคนให้อยู่กับเราได้ 5 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

ทำวีดีโออย่างไรให้คนอยากซื้อสินค้าของเรา มันเป็นชุดทักษะ เพราะฉะนั้นข้อที่ 1  มีวิสัยทัศน์และพัฒนาตัวเอง

เชษฐวิทย์ สิงขร:ผมมีเป้าหมายในการทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จ เพราะรู้ว่างานประจำไม่ทำให้เราร่ำรวยก็เลยมองหาธุรกิจทำและธุรกิจที่ทำจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า สามารถทำให้มีรายได้แบบ Passive Income 

คือทำระบบไว้ในช่วงแรกและให้มันเติบโตเองได้และสร้างรายได้ให้กับเราจนกระทั่งเราหยุดหรือไม่หยุดก็ตาม มันยังสามารถทำรายได้ให้กับเราได้

และเราก็ต้องพัฒนาตัวเองตลอด และนำสิ่งที่เราพัฒนาตัวเองมาพัฒนาทีมงานของเราด้วย

กมลเวช เมืองศรี:ผมถามอย่างนี้วันแรกที่เข้ามาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้รู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นขนาดไหน

เชษฐวิทย์ สิงขร:พัฒนาขึ้นแบบเยอะมากจากที่ไม่เคยรู้เรื่องการทำออนไลน์ ทำธุรกิจผ่านสื่อโซเชียลต่างๆพอได้เรียนรู้ก็สามารถทำได้

และทำได้อย่างถูกวิธี รู้ว่าจะโพสต์อย่างไรโพสต์ให้คุณค่ากับผู้คนอย่างไรและติดตามพวกเขาอย่างไร อันนี้สำคัญมาก ต้องทำอย่างถูกต้องถึงจะได้ผลลัพธ์ ซึ่งผมก็เรียนจากอาจารย์กมลเวชนี่แหละ ท่านเป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญมาก

กมลเวช เมืองศรี:ผมพูดอย่างนี้ได้ไหมว่าถ้าเราไม่พัฒนาตัวเองรายได้ก็ไม่เพิ่มขึ้น รายได้จะอยู่เท่าเดิมเพราะทักษะเท่าเดิม เพราะฉะนั้นต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ

2

ขั้นตอนที่สอง

รู้จักวิธีการสร้างแบรนด์และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

มาดูข้อที่ 2  ท่านจะต้องรู้จักวิธีการสร้างแบรนด์ และรู้จักการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของท่าน

พูดง่ายๆก็คือ ท่านจะต้องรู้วิธีนำเสนอตัวเองให้เป็น  ท่านเป็นใคร ท่านอยากให้ผู้คนในโลกออนไลน์เห็นว่าท่านเป็นใคร เราเรียกว่า branding การนำเสนอตัวเอง

เช่น เป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นนักธุรกิจ เป็นโค้ช  เป็นกูรู ท่านจะเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนี้อยู่ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปหมด ทุกวันนี้มีโค้ชเยอะมาก กูรูเยอะมาก นักธุรกิจเยอะมาก

นั่นคือแบรนด์ท่านต้องชัดเจนก่อนว่าท่านคือใคร 

อีกคำหนึ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันซึ่งผู้คนไม่ค่อยจะพูดถึงกัน คือ  การสร้าง branding อย่างเดียวนั้นไม่พอแต่ต้องเข้าใจในเรื่องของการวางโพซิชันนิ่ง แปลว่า การวางตัวเองให้อยู่ในจุดที่ถูกต้อง วางตัวเองอยู่ในสถานะที่ถูกต้อง เช่น  เป็นอาจารย์

การโพซิชั่นนิ่งนั้นสำคัญกว่านั้นอีก คือเป็นอาจารย์ระดับไหน เป็นคนประสบความสำเร็จในระดับไหน มีประวัติศาสตร์ มีความสำเร็จมานำเสนอให้ผู้คน เพราะใครๆก็แบรนด์ได้ แต่การวางตัวเองให้ถูกต้องให้ผู้คนอยากติดตาม อยากจะเรียนรู้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก 

แต่ถ้าท่านยังไม่มีความสำเร็จอะไรมาก่อน วิธีการวางตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือ การเป็นครูเป็นอาจารย์เป็น Coach  ที่สอนวิธีการทำให้ผู้คนแก้ปัญหาในชีวิตของเขาได้ 

ทำ 2 อย่างนี้อย่างต่อเนื่องแบรนด์ของท่านจะแข็งแกร่งมาก  บางคนเป็นโค้ชสายฮา บางคนเป็นอาจารย์ระดับเทพ นี่คือการวางตำแหน่งตัวเองทั้งสิ้นเข้าใจไหมครับ 

เมื่อเราสร้างแบรนด์ของเราชัดเจน เราต้องรู้ด้วยว่ากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของเราคือใคร ถ้าท่านมีทัศนคติที่ว่าทุกคนคือลูกค้าของฉัน อันนั้นท่านกำลังเข้าใจอะไรไม่ถูกอยู่ เพราะถ้าท่านพยายามเป็นทุกอย่างให้กับคนทุกคน นั่นเท่ากับท่านนั้นไม่ได้เป็นอะไรให้กับใครเลย 

ยกตัวอย่างเราสองคน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากวงการการสร้างธุรกิจจากที่บ้าน ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจเครือข่าย ถ้าเราอยากทำการตลาดเพื่อจะดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้มา เราคงไม่ทำการตลาดดึงดูดคนที่ไม่ชอบสิ่งเหล่านี้เห็นด้วยไหมครับ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นกลุ่มเป้าหมายเรา เราทำการตลาดเพื่อดึงดูดคนที่ชอบธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจเครือข่าย

3

ขั้นตอนที่สาม

กลยุทธ์ในการสร้างรายได้

ข้อ 3  สำคัญมาก ท่านต้องมีกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ มีคำหนึ่งที่ถ้าผมพูดออกไปท่านจะต้องตระหนักว่ามันเป็นเรื่องจริง คนจำนวนมากอยากรวยอยากสำเร็จอยากทำธุรกิจ แต่พอถามว่าคุณรู้ไหมว่าทำอย่างไรถึงจะมีรายได้ มีกลยุทธ์หรือไม่

สมมุติผมจะถามโค้ชแนม ถ้าอยากมีรายได้เดือนละแสน มีกลยุทธ์หรือไม่

เชษฐวิทย์ สิงขร:ไม่มีเพราะไม่เคยศึกษามาก่อน อยากรู้ก็ต้องถามผู้รู้

กมลเวช เมืองศรี:ตั้งเป้าหมายอยากมีรายได้เดือนละแสน สินค้าที่ท่านขายได้กำไรชิ้นละเท่าไหร่ ตัวอย่าง 1 ชิ้นกำไร 100 บาทถ้าอยากได้ 100,000 บาทต้องขาย 1000 ชิ้น

หมายความว่าในเดือนนั้นต้องตั้งเป้าหมายขายสินค้าให้ได้ 1000 ชิ้น  เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นหรือยังจากเดิมที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้รู้แล้วว่าเราต้องขาย 1000 คน ขายคน 1000 คนต่อเดือนเยอะหรือไม่ ยากไหมครับ 

สินค้ามีตัวเดียวหรือหลายตัวถ้ามีหลายตัวเราก็ต้องเอามาแยกแยะว่าจะต้องขายตัวนี้กี่ชิ้นตัวนั้นกี่ชิ้นเพื่อให้พิชิตเป้าหมาย 1 แสนบาทต่อเดือน แล้วเดือนต่อไปทำอย่างไรจะให้ขายได้

ถ้าเป็นสมัยก่อนอยากขายของก็ไปเคาะประตูบ้าน ท่านเคยทำไหมครับ จะขายให้ได้ 1,000 ชิ้นด้วยการเคาะประตูบ้าน โหดไหมครับ ผมเคยทำมาแล้ว แต่หลังจากที่เราเจออินเทอร์เน็ตมันดีกว่าเยอะมาก

4

ขั้นตอนที่สี่

ทำการตลาดด้วยเนื้อหาสาระ

ข้อ 4 คนส่วนมากเวลามีสินค้าสิ่งแรกที่เขาคิดคือจะขายอย่างไร เขาโฟกัสในเรื่องขาย คำถามก็คือ การโฟกัสการทำตลาดออนไลน์โดยการเน้นขายอย่างเดียวจะสร้างผลลัพธ์ได้ในระยะสั้นเท่านั้น แล้วต้องหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอด้วย ถ้าไม่มีกลยุทธ์ในการให้ลูกค้าเก่ามาซื้อซ้ำ

สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำคือมันมีวิธีทำการตลาดที่ไม่ใช่การเน้นขายอย่างเดียว ผมอยากให้ทุกท่านจำคำนี้ไว้ตลอดชีวิตเลยครับว่า

คนไม่ชอบถูกขาย แต่ทุกคนชอบซื้อ

เราจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่ชอบถูกขายมาซื้อสินค้ากับเรา คือการทำให้ผู้คน ซื้อด้วยความเต็มใจของเขาเอง 100% 

วิธีการที่ทำให้ผู้คนซื้อของด้วยความเต็มใจของเขาเอง 100% วิธีนั้นก็คือการทำการตลาดด้วยเนื้อหาสาระหรือ Content Marketing  อาจจะทำออกมาในรูปแบบของบทความ Video หรือพ็อดคาสท์ไฟล์เสียง ebooks นี่คือ Content ทำได้หลากหลายรูปแบบ 

การโพสต์ใน Facebook  แทนที่จะโพสต์ขาย เปลี่ยนมาโพสต์เนื้อหาสาระว่าสินค้าของเรามีประโยชน์อย่างไร กลุ่มเป้าหมายของเรามีปัญหาอะไรอยู่ สินค้าของเราจะช่วยเขาได้อย่างไร ก่อนที่ผู้คนจะควักเงินซื้อสินค้านั้นเขามีคำถามอยู่ในหัว ว่าฉันจะได้อะไรถ้าฉันเอาเงินที่หามาได้ยากของฉันซื้อของกับคุณ 

ท่านจะต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ว่าคนซื้อเขาจะได้อะไร

เชษฐวิทย์ สิงขร:สิ่งนี้ก็คือการมอบประโยชน์หรือมอบคุณค่าโดยที่ไม่ได้ยัดเยียดขาย จะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อด้วยตัวของเขาเอง 100%

กมลเวช เมืองศรี:ผมมีตัวอย่างที่จะทำให้เห็นภาพชัดเจน เช่นธุรกิจที่จะต้องมีการสปอนเซอร์ผู้คน วิธีการเดิมพอเราสมัครเราก็จะไปหาผู้คนพูดคุยแนะนำแผน ขายสินค้า และปิดสมัครให้ได้ คนส่วนมากรู้สึกชอบหรือไม่ โค้ดเนมเคยโดนหรือไม่

เชษฐวิทย์ สิงขร:เคยครับ เราก็นั่งรับฟังแต่ในใจคิดว่าเมื่อไหร่จะจบสักทีและจะหาคำปฏิเสธว่าอะไรดี เราอยากรวยก็จริงแต่วิธีที่เขาใช้มันไม่ได้กระตุ้นให้เราทำกับเขา

กมลเวช เมืองศรี:แทนที่เราจะใช้กลยุทธ์หรือวิธีการที่ทำให้คนชอบ เรากลับใช้วิธีที่ทำให้คนไม่ชอบ มันไม่ตอบโจทย์จิตวิทยาของคน วิธีการ ตื้อ ง้อ ขอ ขาย ผู้คนไม่ชอบ

สมมุติว่าผมใช้วิธีเขียนบทความสอนวิธีการสร้างธุรกิจเครือข่ายหรือธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จแล้วโค้ชแนมมาเจอบทความนี้มาดูวีดีโอนี้ ผมบังคับให้อ่านหรือโค้ชแนมมาดูเอง

เชษฐวิทย์ สิงขร:มาดูเองครับเพราะผมค้นหาว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จไปเจอบทความ เขาบอกว่าจะประสบความสำเร็จด้วยการตลาดออนไลน์ ซึ่งเราค้นหามานานแล้ว ทุกสิ่งที่อ่านมันทำให้เราตื่นเต้น ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกดีชอบคนที่มาสอนเรา สุดท้ายแล้วเราจะทำธุรกิจกับเขาหรือซื้อของกับเขาหรือไม่ก็ตามเราก็ยังชอบเขาอยู่ดี ไม่รู้สึกรังเกียจ

กมลเวช เมืองศรี:แล้ววันหนึ่งผมเปิดโอกาสทางธุรกิจกำลังรับสมัครผู้คนมาเป็นหุ้นส่วนในทีม ผมกำลังทำธุรกิจออนไลน์ตัวใหม่ผมรับ 30 คนเท่านั้นใครก็ตามที่ต้องการให้คลิกลิงค์นี้แล้วกรอกข้อมูล ผมจะทำการสัมภาษณ์ทีละคน ถ้าโค้ชแนมเห็นข้อความแล้วอยากทำจะต้องทำอย่างไร

เชษฐวิทย์ สิงขร:ผมก็รีบกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม โดยไม่รู้สึกว่าโดนบังคับ แต่รู้สึกว่าถ้าไม่กรอกหรือกรอกช้าก็อาจจะพลาดเพราะครบ 30 ไปแล้ว

กมลเวช เมืองศรี:แต่ถ้า โค้ชแนม ไม่ได้อยากทำตอนนี้ จะรู้สึกอึดอัดหรือไม่

เชษฐวิทย์ สิงขร:ไม่รู้สึกกดดันเลยครับ ถ้าเราไม่สนใจก็ผ่านไปแค่นั้นเอง

กมลเวช เมืองศรี:เห็นไหมครับว่าการตลาดแบบนำเสนอด้วยเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ กับผู้คนก่อน ที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ จะทำให้คนนั้นรู้สึกดีกับคนที่ทำการตลาดแบบนี้อย่างมากเลย และจะรู้ว่าผู้นำเสนอนั้นเป็นใครชื่ออะไร ท่านจะรู้สึกชอบ

เมื่อท่านฟังไปเรื่อยๆ และสิ่งที่เราสอนสามารถแก้ปัญหาในชีวิตได้ ตอนนี้ท่านจะมีความรู้สึกเชื่อและศรัทธา ใครก็ตามที่มีคนเชื่อถือและศรัทธามากกว่าร้อยถึงพันคนขึ้นไป เมื่อจะทำธุรกิจหรือขายสินค้าแฟนพันธุ์แท้เหล่านี้จะเข้ามาเป็นลูกค้าหรือหุ้นส่วนในทีมแห่งความสำเร็จ ตอนนี้ตามทันและเห็นภาพชัดเจนไหมครับ

การตลาดแบบนี้ทำได้ผลระยะสั้นหรือระยะยาว เช่นวีดีโอนี้จะอยู่ยาวนานตลอดไปบน youtube มันแตกต่างจากนักขายทั่วไปมาก

ถ้าท่านยังไม่รู้วิธีการว่าทำอย่างไรให้คนซื้อของถล่มทลายผมกำลังแบ่งปันว่าต้องทำการตลาดด้วย Content Marketing  ยิ่งในยุคนี้โซเชียลมีเดียครองเมืองท่านต้องเข้าเป็นพวกเดียวและใช้พลังจากโซเชียลเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แล้วทำการตลาดนำด้วยคุณค่าเนื้อหาสาระแล้วชีวิตท่านจะเปลี่ยนไป

5

ขั้นตอนที่ห้า

กลยุทธ์ในการติดตามผล

ข้อ 5  ท่านจะต้องมีการติดตั้งระบบ เพื่อให้ท่านนำเสนอสินค้าหรือโอกาสให้กับผู้ที่เห็นสินค้าและยังไม่ตัดสินใจซื้อในทันที โดยระบบจะทำให้ผู้คนเห็นสินค้าหลายๆรอบด้วยเนื้อหาสาระที่แตกต่างกัน

คนที่เอาสินค้ามาไว้ที่บ้านแล้วยิงแอด คนพวกนี้ยังไม่มีวิธีติดตามผลเขาเลยขายได้แค่ 1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เป็นการใช้เงินเยอะแต่ได้ผลลัพธ์น้อย

แต่เราเปลี่ยนใหม่ถ้าท่านติดตั้งระบบที่ทำให้สามารถติดตามผลคนได้ เช่น  Facebook Page, YouTube Channel, Instagram, Line Office หลังจากที่กดติดตาม คนที่ทำการตลาดเป็นจะส่งข้อความมาให้ท่านหลายๆรอบ ด้วยเนื้อหาสาระที่แตกต่างไป แต่จุดประสงค์คือต้องการขายสินค้าให้ได้

แต่ถ้านักการตลาดระดับเทพเขาจะใช้ระบบที่เรียกว่า email Marketing  การติดตามผลผ่านช่องทางอีเมล์เป็นช่องทางที่ได้ผลสูงสุด แต่เราจะใช้ทุกช่องทางเพราะว่าผู้มุ่งหวังเขาไม่ได้ใช้อีเมลอย่างเดียวหรือไม่ได้ใช้ Facebook อย่างเดียว ทำอย่างไรให้เขาเห็นเราทุกช่องทาง เมื่อเขาได้รับข้อความมากขึ้นเห็นสินค้ามากขึ้นสุดท้ายก็จะตัดสินใจซื้อของจากเรา

เชษฐวิทย์ สิงขร:แล้วเราจะเริ่มต้นที่ช่องทางไหนก่อนดีครับ

กมลเวช เมืองศรี:ผมแนะนำว่าเอาช่องทางที่ท่านรักชอบและถนัดที่จะทำ บางคนทำเป็นวีดีโอบน youtube บางคนชอบทำเป็นบทความ เลือกเอาช่องทางใดช่องทางหนึ่งก่อนแล้วค่อยขยายไปช่องทางอื่นอย่าทำหลายช่องทางพร้อมกัน มันจะทำให้ท่านงงแล้วทำไม่ดีสักอย่าง

เมื่อท่านรู้แล้วว่าการทำการตลาดผ่านเนื้อหาพนักงานขับรถจะตามมาด้วยการติดตามผลเพราะผู้คนจะไม่ซื้อสินค้าทันทีในครั้งแรก แต่หลังจากที่ติดตามผลแล้ว การซื้อจะเพิ่มขึ้นจาก 1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ มาเป็น 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าติดตามผลดีๆจะเพิ่มมากถึง 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

คำถามคือเมื่อท่านนำเสนอขายสินค้า 100 คนท่านอยากให้มีคนซื้อ 1 ถึง 5 คนหรือ 20-30 คนล่ะ

จงติดตั้งกลยุทธ์การติดตามผลถ้าท่านไม่รู้จะทำอย่างไรโปรเจคเศรษฐีชุดนอนจะสอนให้ท่านทำได้ครับ

6

ขั้นตอนที่หก

กลยุทธ์ในการเคลื่อนคนเข้าระบบ 

ข้อสุดท้ายสำคัญมากถ้าท่านอยากทำให้ธุรกิจของท่านได้ผลลัพธ์เพิ่มมากขึ้น 2 เท่า 3 เท่า 4 เท่า 8 เท่า ท่านก็สามารถทำได้ซึ่งคนที่ไม่เข้าใจในขั้นตอนนี้จะไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ 

กลยุทธ์ในข้อนี้ก็คือท่านจะต้องรู้จักการ Drive Traffic หรือการเคลื่อนคนเข้าไปสู่เว็บไซต์ของเราเอง เน้นนะครับว่าเป็นเว็บไซต์ของเราเอง เพราะบนโซเชียลนั้นเราไม่ได้เป็นเจ้าของ ถ้ามีผู้ติดตามที่เราสร้างไว้เยอะแล้ว แต่ account โดนปิดเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ท่านจะต้องสร้างสินทรัพย์ ที่ทรงพลังที่สุด และท่านเป็นเจ้าของ 100% สิ่งนั้นก็คือเว็บไซต์ของเราเอง ที่เราสร้างขึ้นมาเองมันเป็นของเราจริงๆ เราเอาเนื้อหาที่สร้างไว้ในทุกๆที่มาใส่ในเว็บเราเวลาทำการตลาดเราจะดึงคนจากโซเชียลให้เข้ามาสู่เว็บเรา

ยกตัวอย่างเช่นโพสต์บทความบน Facebook เราจะไม่โพสต์บทความทั้งหมดแต่เราจะเกริ่นนำแล้วให้คลิกเพื่อมาอ่านต่อบนเว็บไซต์ของเรา ข้อดีของการใช้เว็บไซต์ก็คือเราสามารถใส่โฆษณาของเราเองได้ ให้คนกรอกข้อมูลรับข่าวสารของเราผ่านอีเมลได้ 

จงจำไว้นะครับ เว็บไซต์คือเครื่องมืออันทรงพลังอันดับ 1  แต่ไม่ใช่เว็บไซต์ทั่วๆไปนะครับ เว็บไซต์ทำการตลาดที่ดีจะต้องมีการดักจับข้อมูล มีการติดตามผล เพราะถ้าเราไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้เราจะคิดว่าเว็บไซต์ไหนๆก็เหมือนกัน มีบางคนไปจ้างทำเว็บไซต์ที่มีแต่ข้อมูลเสียเงินไปหลักแสนแต่ไม่ได้ผลลัพธ์หรือได้ผลลัพธ์น้อยมาก ท่านเห็นไหมครับว่าการไม่รู้นั้นแพงมาก โดนหลอกเอาง่ายๆ 

เว็บไซต์ที่ทรงพลังจริงๆที่เราสามารถเป็นเจ้าของได้มีโดเมนมี hosting จริงๆแล้วลงทุน ในระดับหลักพันไม่เกินหมื่น และเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามหลักการตลาดด้วย

นี่คือ 6 องค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คุณประพัฒน์และทุกๆท่านที่ต้องการสร้างธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้เอาไปใช้และเอาไปสร้างความสำเร็จ

เชษฐวิทย์ สิงขร:ปัจจุบันนี้มีผู้ที่ทำเว็บไซต์แบบถูกต้องมีการติดตามผลมีระบบ Email Marketing ไว้เรียบร้อยแล้วโดยที่เราสามารถใช้บริการได้เลยเพียงแค่สร้างเนื้อหา ซึ่งอยู่ที่นี่แล้ว

กมลเวช เมืองศรี:เราสองคนเป็นนักสร้างระบบ เราสร้าง Sale funnel เป็น ผมแนะนำว่าถ้าท่านต้องการเรียนรู้และสร้างระบบได้เหมือนอย่างที่เราทำ โปรเจคที่เราเปิดเราตั้งใจที่จะสอนผู้คน 100 คน ให้เขาสามารถทำได้เหมือนอย่างเรา

สร้างเว็บไซต์ที่ทรงพลังระบบติดตามผลเพื่อให้ผู้คนซื้อสินค้า ระบบ Messenger Marketing  การทำ YouTube การเขียนบทความอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทำอย่างไร เราสอนทั้งหมดนี้ใน Project เศรษฐีชุดนอน ถ้าท่านชอบท่านสามารถคลิกลิงค์ที่อยู่ใต้วีดีโอนี้ เพราะผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้เรียนคอร์สนี้ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย

เชษฐวิทย์ สิงขร:เห็นด้วยครับเพราะชีวิตของผมเปลี่ยนจากเดิมที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ มาใช้วิธีการแบบออนไลน์ที่ได้เรียนมาทำให้ประสบความสำเร็จเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชนะรางวัลไปเที่ยวต่างประเทศ เราทำสำเร็จมาแล้ว

กมลเวช เมืองศรี:และอย่าลืมนะครับกดติดตามกดสั่นกระดิ่งและกดแชร์บทความของเรา เพราะถ้าท่านแคร์คนอื่นฉันจะต้องให้คนที่ท่านรักได้รู้ข้อมูลนี้ด้วย เพราะผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก  และผู้ให้ย่อมได้รับผลตอบแทนเสมอเสมอ

เชษฐวิทย์ สิงขร:ยิ่งให้สิ่งดีๆออกไป ให้คุณค่าที่อยู่ในตัวเราออกไปไม่จำเป็นว่าเราต้องเก่งมาจากไหนเพียงแค่เรารู้ว่าสิ่งนี้มีคุณค่าแล้วเราให้ออกไปแล้วเราจะได้สิ่งที่มีคุณค่ากลับมาหลายร้อยหลายพันเท่า

กมลเวช เมืองศรี:ดังนั้นฟันธงเลยว่า Content Marketing ดีกว่าการออกไปขายอย่างแน่นอนและยิ่งเรามีระบบ ในการกระจายสื่อข้อมูลเหล่านี้ทั้ง 6 ขั้นตอน การทำรายได้เป็นหมื่นเป็นแสนต่อวันนั้นทำได้อย่างแน่นอน เนื้อหาทั้ง 6 ขั้นตอนอยู่ในโปรเจคเศรษฐีชุดนอนเรียบร้อยแล้ว

วันนี้เราสองคนต้องลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่เมื่อเจอคำถามที่ยอดเยี่ยมขอขอบคุณคำถามจากคุณประพัฒน์นะครับสวัสดีครับ

ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!

kamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawit

เชษฐวิทย์ สิงขร & กมลเวช เมืองศรี

โปรเจคเศรษฐีชุดนอน

“ในที่สุด…วิธีที่ดีกว่า ที่ทำให้ท่าน สร้างธุรกิจออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ ในไม่เกิน 6-12 เดือนนี้ แม้ไม่มีพื้นฐานใดๆ มาก่อนเลย การันตี!”

โปรเจคเศรษฐีชุดนอน กำลังเปิดคอร์สให้ท่านได้เข้ามาเป็นคนวงในถ้าท่านต้องการเป็นผู้มีรายได้ทั้งตอนหลับและตื่น

และไม่ต้องการเสียใจที่พลาดข้อมูลนี้ไปตลอดกาล

สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน

สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน

“ในที่สุด…วิธีที่ดีกว่า ที่ทำให้ท่าน สร้างธุรกิจออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ ในไม่เกิน 6-12 เดือนนี้ แม้ไม่มีพื้นฐานใดๆ มาก่อนเลย การันตี!” คลิกที่นี่

กมลเวช & เชษฐวิทย์ จะมาคุยให้ท่านฟังครับว่า โปรเจคเศรษฐีชุดนอน (Speed Wealth Project) จะให้อะไรแก่ท่าน และท่านจะได้อะไรมากมายมหาศาลแค่ไหน?

มาคุยและมาฟังกันได้เลยครับ

สารบัญเนื้อหาวีดีโอ “สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน”หนังสือเสียง “สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน”ขั้นตอนที่หนึ่งสร้างผู้ติดตามของเราขั้นตอนที่สองสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่ติดตามเราขั้นตอนที่สามการขายให้กับผู้ติดตามของเรา

วีดีโอ “สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน”

หนังสือเสียง “สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรเจคเศรษฐีชุดนอน”

เชษฐวิทย์ สิงขร:สวัสดีครับสำหรับวีดีโอคลิปนี้นะครับเราจะมารีวิว แล้วก็มาตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ สำหรับโปรเจคเศรษฐีชุดนอน ซึ่งตอนนี้ผมก็อยู่กับอาจารย์ผู้สอน โปรเจคเศรษฐีชุดนอนนี้แล้วนะครับ ก็คือท่านอาจารย์กมลเวช เมืองศรี

ก่อนอื่นอยากจะให้อาจารย์แนะนำคอร์สโปรเจคเศรษฐีชุดนอน ว่ามันเกี่ยวกับอะไร สอนอะไรบ้าง ให้ทุกคนเข้าใจว่ามันคืออะไร ขอเชิญอาจารย์ครับ กมลเวช เมืองศรี:โปรเจคเศรษฐีชุดนอนคือ คอร์สที่จะสอนวิธีการที่จะทำให้ใครก็ตาม ที่อยากได้วิธีทำการตลาดออนไลน์ โดยที่รู้รอบแบบ 360 องศา รู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ว่าเราเป็นใคร เราควรจะต้องวางตัวอย่างไรในโลกออนไลน์

จนถึงสินค้าของเราคืออะไร กลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร และเราจะสร้างระบบในการทำการตลาดเพื่อโปรโมทตัวเรา โปรโมทสินค้าให้มีคนติดตาม ให้เรามีชื่อเสียงโด่งดังได้อย่างไร ในการที่จะทำการตลาดออนไลน์สำเร็จมันมีอยู่แค่ 3 ขั้นตอน

1

ขั้นตอนที่หนึ่ง

สร้างผู้ติดตามของเรา

เราต้องมีผู้ติดตามของเรา เพราะถ้าไม่มีคนติดตามเรา เราไม่รู้จะขายให้กับใคร การไปขายให้กับคนที่ไม่รู้จักเรา ไม่ชอบเรา ไม่ใช่ผู้ติดตามเรา ไม่เชื่อถือศรัทธาเรา เป็นการขายที่ยากมาก

ถ้าเราสร้างผู้ติดตามเราแล้วจะทำให้เวลาเราจะนำเสนออะไร ก็จะมีคนคอยดูคอยติดตามตลอด แล้วเวลาท่านเสนอสินค้าหรือบริการอะไรก็ขายถล่มทลาย ดังนั้นเราต้องสร้างผู้ติดตาม เราสอนอย่างละเอียดเลยว่าจะต้องวางตัวยังไง ทำอย่างไรผู้คนเห็นเราในฐานะที่เขาอยากจะติดตามเรา ชอบเรา

2

ขั้นตอนที่สอง

สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่ติดตามเรา

เราต้องมีการปฏิสัมพันธ์เสมอๆ เราจะสอนว่าถ้าจะต้องทำการปฏิสัมพันธ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่ติดตามท่านนั้นทำอย่างไรให้ทรงพลังที่สุด เพราะผู้คนจำนวนมากเลยครับที่เห็นสินค้าหรือบริการที่ท่านพยายามขายให้กับเขาตั้งแต่ครั้งแรก

มีไม่เกิน 1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ บางที 7 เปอร์เซ็นต์ จะซื้อทันที ที่เหลืออีก 90 – 95 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่ซื้อ แล้วเราไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คนที่ยังไม่ซื้อกลับมาซื้ออีกสัก 10 20 30 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับเราทิ้งเงินก้อนโต 

นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปเขาทำกัน เขาไม่รู้ว่าเขาจะปฏิสัมพันธ์ เขาจะทำให้คนรู้จัก เชื่อถือ และศรัทธาเรามากขึ้นได้อย่างไร และสร้างผู้ติดตามใหม่ๆ เข้ามาอีก ดังนั้นหลักการง่ายๆ คือเราจะต้องทำ Content Marketing ให้เป็น

ผู้คนส่วนมากจะบอกว่า Content is King แต่ผมอยากจะบอกว่า อันนั้นรู้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ที่เหลือคือ Quality Content is King ก็คือ เนื้อหาที่มีคุณภาพมีคุณค่าสูงต่างหาก คือสุดยอดเครื่องมือที่สำคัญในการทำการตลาด

ในการทำการตลาดแบบ Content นั้นมันมี 3 ส่วน คือ

1. ส่วนแรก เราเรียกว่า TOFU (Top Of the FUnnel) ก็คือทำเนื้อหาให้กับคนไม่รู้จักเรา ให้รู้จักเรา เพราะเราจะขายของให้คนไม่รู้จักไม่ได้ทำง่ายๆ

2. ส่วนที่สอง เราเรียกว่า MOFU (Middle Of the FUnnel) คือทำให้คนที่ไม่รู้จักเราเหล่านั้นอยากจะเข้ามาศึกษาสินค้าหรือบริการของเรา

3. ส่วนที่สาม เรียกว่า BOFU (Bottom Of the FUnnel) เป็นเนื้อหาที่ทำให้คนสนใจนั้นตัดสินใจซื้อ เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด ในการทำเป็นคนตัดสินใจซื้อ ก็คือ Webinar online ในยุคปัจจุบันอาจจะเป็น Facebook Live และ YouTube Live  

ท่านจะได้รู้ว่าเนื้อหาแต่ละขั้นนั้นทำอย่างไร เราจะสอนและวิเคราะห์อย่างละเอียด 

3

ขั้นตอนที่สาม

การขายให้กับผู้ติดตามของเรา

คือการขายให้กับผู้ติดตามของเรา ผมทำแบบนี้มา 15 ปีแล้วเวิร์คที่สุด ขายอะไรก็ถล่มทลาย อยากจะสร้างธุรกิจอะไรคนก็แห่กันมาสมัคร เพราะฉะนั้นนั่นคือสิ่งที่จะทำให้ผู้เรียนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้

เรายังสอนในเรื่องของระบบแห่งความสำเร็จด้วย เพราะว่าหลายๆคนอยากทำการตลาดออนไลน์ แต่รู้สึกว่าทำไมเหนื่อยจังต้องไลฟ์ทุกวัน เราจะสอนวิธีการใช้เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด เพื่อช่วยทุ่นแรง ทุ่นเงินทุ่นเวลาทำงาน เครื่องมือที่ทรงพลังมีอะไรบ้าง เว็บไซต์ท่านต้องมี Sale funnel ท่านต้องสร้างเป็น Facebook Page, YouTube Channel ระบบติดตามผลไม่ว่าจะเป็นระบบ Email Marketing, Messenger Marketing, Line Marketing ท่านชอบทางไหนก่อนก็ทำได้หมด แล้วเราก็ทำขายให้กับผู้มุ่งหวังอัตโนมัติการพาคนมากๆ ให้เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา เราเรียกว่า Drive Traffic หรือการเคลื่อนคนเข้าสื่อของเรา มี 2 แบบ คือ การทำการตลาดแบบไม่ใช้เงิน และการใช้เงินในการทำการตลาดหรือซื้อโฆษณา

เชษฐิทย์ สิงขร:

นับได้ว่าเป็นการตีแผ่หรือว่าเอาระบบที่ อาจารย์กมลเวช ทำและประสบความสำเร็จของอาจารย์เอง เอามาสอนให้กับคนที่สนใจ ต้องการที่จะเรียนจริงๆ สอนโดยไม่มีกั๊กนะครับสอนทุกอย่างที่ทำให้สำเร็จ ซึ่งผู้ที่เรียนก็จะได้ประโยชน์อย่างมากและถ้าเอาไปลงมือทำเป็นระบบของตัวเอง ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จแบบนี้เช่นเดียวกันนะครับ เพราะมันเป็นระบบที่พิสูจน์แล้ว

กมลเวช เมืองศรี:

ใช่มันถูกเรียกว่า ระบบแห่งความสำเร็จที่ไม่มีวันผิดพลาด ทำ 100 ครั้ง ก็สำเร็จ 100 ครั้ง

เชษฐิทย์ สิงขร:

มีคำถาม จากผู้ที่สนใจส่งคำถามเข้ามา ผมจะถามอาจารย์กมลเวชเป็นข้อๆ นะครับ คำถามแรกเลย ใครเหมาะสมที่จะมาเรียน

กมลเวช เมืองศรี:

ทุกคนครับ พูดง่ายๆ คือโปรเจคนี้ชื่อโปรเจคเศรษฐีชุดนอน ก็คือใครก็ตามที่อยากที่จะอยู่ในชุดนอนแล้วยังมีรายได้เข้าตลอดทั้งตอนหลับและตื่นครับ ผมคนนึงล่ะอยากได้

เพราะฉะนั้นเมื่อเราสร้างระบบเป็นทำการตลาดเป็นแบบอัตโนมัติ ท่านก็อยู่ในสภาพเศรษฐีชุดนอนแล้ว เพราะการมีรายได้ระดับ 1 แสน ถึง 1 ล้านเข้ากระเป๋าเป็นอย่างน้อยทุกเดือน ท่านว่าในสภาพสังคมในปัจจุบันนี้ คนที่มีรายได้ปีละ 30 ล้านขึ้นไปเป็นเศรษฐีไหมล่ะ เดือนนึงได้ซัก 1 ถึง 3 ล้าน ปีละ 30 ล้านแล้ว

จะสอนวิชาว่าทำอย่างไรให้ท่านรู้วิธีการ สร้างเครื่องมือเป็น ทำการตลาดเป็น เพื่อท่านทำการตลาดขายสินค้าหรือบริการของท่านเพื่อให้มีรายได้อย่างน้อย 1 ล้านเหรียญหรือว่า 30 ล้านบาทต่อปีภายใน 1 ถึง 3 ปีนี้ครับ

เชษฐิทย์ สิงขร: 

อาจารย์ครับแล้วสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีสินค้าหรือธุรกิจของตัวเองเลยครับสามารถที่จะเรียนได้หรือไม่

กมลเวช เมืองศรี:

ผู้ไม่มีสินค้าหรือธุรกิจของตัวเอง ก็คือคนทั่วไป เพราะตอนที่เราเริ่มก็ไม่มีอะไร แต่เราสามารถที่จะเลือกสินค้าหรือบริการของคนอื่นมาโปรโมทได้ ถ้าท่านไปสมัครทำธุรกิจเครือข่าย สินค้านั้นก็เป็นของคนอื่นธุรกิจออนไลน์ ขายตรง ขายประกันชีวิต มันไม่มีสินค้าชิ้นไหน ที่เป็นของท่าน เป็นของคนอื่นทั้งสิ้น

เมื่อไปสมัครแล้วกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคเป็นไหม ถ้าท่านทำการตลาดไม่เป็น ท่านจะขายไม่ค่อยได้หรอกนะ มันยากมากที่ไม่มีทักษะและจะไปนั่งโพสต์แล้วจะมีคนซื้อ หลายๆท่านที่ดูวีดีโอนี้อยู่ ก็เคยโพสต์แหลกโพสต์กระจายมาแล้ว พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ เคยฮิตกันอยู่พักใหญ่ แล้วตอนนี้ไปไหนแล้ว

ผมเคยทำนายไว้ว่ามันเป็นโมเดลพิเศษที่อยู่ไม่นาน เพราะเขาคุณสมบัติที่สำคัญในการที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือขาดชุดทักษะในการทำการตลาดเพื่อความสำเร็จ ซึ่งทั้งหมดถูกสอนใน โปรเจคเศรษฐีชุดนอนนี้ 

คนที่มีสินค้าหรือไม่มีสินค้า มีธุรกิจหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหาเลย ให้มาเรียนก่อน ไม่ใช่ว่าไปซื้อสินค้ามากอง หรือไปสมัครธุรกิจลงทุนไว้ก่อน อย่าเชื่อนะว่าที่เขาบอกว่าสินค้าขายตัวเองได้ ไม่มีบนโลก ตัวเรานี่แหละเป็นคนขายสินค้า

เชษฐิทย์ สิงขร: 

การันตีผลลัพธ์หรือไม่

กมลเวช เมืองศรี:

ตอบชัดเจนเลย ไม่การันตี แต่ถ้าทุกท่านการันตีว่าทุกท่านพร้อมเรียนรู้ฝึกฝนลงมือทำและพร้อมที่จะลงมือทำทุกอย่างที่ผมสอน ผมแนะนำ ให้ทำอะไรทำ ถ้าท่านทำทุกอย่างตามที่ผมบอก ผมการันตีว่าท่านจะประสบความสำเร็จ

แต่ถ้าท่านเข้ามาแล้วไม่เอาจริง ไม่ทำอะไรเลย ไม่เรียน ไม่พัฒนา ไม่สร้างเครื่องมือ ไม่ฝึกทำการตลาด ไม่เขียนโฆษณา แล้วจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าการันตีไปผมก็กลายเป็นคนไร้สาระ ถ้าอย่างนั้นท่านเก็บเงินไว้ดีกว่า 

แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ แล้วทำตามที่ผมสอน 1 ปีเต็ม โดยเป็นการสอนแบบออนไลน์ 80 เปอร์เซ็นต์ และมาเรียนแบบเจอตัวอย่างน้อย ทุก 2 เดือน เจอกัน 1 ครั้ง เพื่อทำเวิร์คชอป ที่ K-Academy ที่เปิดไว้ให้นักเรียน ท่านจะมาเจอผม และโค้ชในทีมแห่งความสำเร็จ ครั้งละ 2 วันเต็ม รวมแล้วเกือบ 100 ชั่วโมงที่จะได้มาพบกับพวกเรา

เชษฐิทย์ สิงขร:

อยู่ต่างประเทศเรียนได้หรือไม่

กมลเวช เมืองศรี:

อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ อย่าเข้าใจผิดว่าอยู่ไกลแล้วไม่สามารถเข้ามาเรียนเวิร์คชอปได้ เวิร์คชอปนี่เป็นของแถม เนื้อหาทั้งหมดจะถูกสอนในระบบออนไลน์ทั้งหมด ล็อกอินเข้าไป ดูวีดีโอแล้วทำตาม ทำไม่ทันดูย้อนหลัง สงสัยสอบถามโค้ช เรามีโค้ชคอยตอบให้ตลอดเวลา

มันเหมือนกับว่าท่านมีโค้ชส่วนตัวให้กับท่าน 3 ปีเต็ม  เพราะเราสอน 1 ปีเต็มพร้อมให้คำปรึกษา 3 ปีเต็ม ถ้าทีมโค้ชช่วยไม่ได้ผมจะเป็นคนช่วยเองช่วยสนับสนุนให้ทุกท่านผ่านทุกความท้าทายในการเรียนให้ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้หมดครับ

เชษฐิทย์ สิงขร:

สร้างรายได้อย่างไร สร้างรายได้กี่ช่องทาง

กมลเวช เมืองศรี:

เป็นคำถามที่ดีมากเลย ในโปรเจคเศรษฐีชุดนอนมันจะแตกต่างจากทุกโปรเจคในประเทศไทย เพราะเราจะเปิดโอกาสให้ท่านสร้างรายได้ทั้งหมด 3 ช่องทาง หลักๆ

ช่องทางที่ 1 มาจากที่ท่านได้รับสิทธิ ที่จะสามารถโปรโมทสินค้าหรือบริการหรือคอร์สสัมมนาของบริษัทเราได้ทั้งหมดเลยครับ เพื่อที่จะรับรายได้เป็นค่าคอมมิชชั่นจากเรา 30%-50%  สมมุตคอร์สราคา 3,000 ท่านได้เกือบ 1,500 บาท ช่องทางนี้ไม่บังคับ แต่ถ้าท่านอยากโปรโมทท่านก็มีรายได้หลายช่องทาง

ช่องทางที่ 2 ระหว่างเรียนเราจะลงทุน 30,000 บาท เพื่อลงโฆษณาคอร์สของเราโดยผ่านลิงก์ส่วนตัวของนักเรียนทุกคนในแต่ละรุ่น เงินจะไหลเข้าบัญชีของนักเรียนแทบทุกคนและทุกเดือน ไม่มีคอร์สที่ไหนอีกแล้วที่ท่านเรียนแล้วได้เงินกลับไปด้วย

ช่องทางที่ 3 เมื่อท่านได้เรียนโปรเจคนี้และรู้วิธีทำการตลาดทึ่ทรงพลังแล้ว ท่านจะนำไปโปรโมทสินค้าของใครก๋ได้ เพราะท่านมีระบบ ก็สามารถทำได้ทุกวัน หรือท่านจะสร้างสินค้าของตัวเองก็ทำได้

เชษฐิทย์ สิงขร:

ในรุ่นที่ 1 และ 2 ก็รับรายได้กันถ้วนหน้า

กมลเวช เมืองศรี:

โดยนักเรียนจะต้องทำตามคุณสมบัติของเราให้ครบ ง่ายๆ แลยคือการชำระค่าเรียนให้ครบเท่านั้นเอง

เชษฐิทย์ สิงขร:

คอร์สนี้ต่างจากคอร์สอื่นอย่างไร

กมลเวช เมืองศรี:

คอร์สนี้เป็นคอร์สระดับสูงสุดของผมแล้ว โดยสอนละเอียดที่สุด ด้วยเนื้อหาที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตของมนุษย์ เราไม่ได้สอนวิธีการอย่างเดียว

ซึ่งวิธีการนั้นมันแค่ 5% เท่านั้น เราสอนวิธีสื่อสารด้วย การสื่อสารกับผู้คนไม่ว่าจะผ่านการเขียน ส่งอีเมล การโพสต์ หรือผ่านการพูดในวีดีโอ หรือ Podcast ท่านจะพูดแล้วโดนใจคน ทำให้คนชอบท่าน เชื่อถือ และศรัทธาท่าน เป็นทักษะ 15% รวมเป็น 20%

อีก 80% ที่เราจะสอนคือวิธีคิด การที่คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้เขาจะต้องมี วิธีคิดของผู้ประสบความสำเร็จ ท่านทราบไหมว่าคนจำนวนมากที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเพราะเขามีวิธีคิดที่ไม่เวิร์ค ไม่ใช่เพราะไม่รู้วิธีการนะ บางคนเรียนจบ ป.โท ป.เอก เรียนทุกคอร์ส แต่ก็ยังไม่สำเร็จ

เพราะยังคิดไม่ได้ว่าควรจะต้องทำอะไร และทำอย่างไร ควรจะเอาชนะปัญหาอย่างไร บางคนเจอปัญหาแล้วยอมแพ้ บางคนเจอปัญหาแล้วเอาชนะได้ มันขึ้นอยู่กับวิธีคิด แล้วการสอนให้คนมีวิธีคิดของผู้ประสบความสำเร็จ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี นั่นคือสาเหตุที่โปรเจคนี้สอน และให้คำปรึกษาทั้งหมด 3 ปีเต็ม คุ้มค่าไหมครับ

เชษฐิทย์ สิงขร:

เริ่มเรียนเมื่อไรครับ

กมลเวช เมืองศรี:

ผมตั้งเป้าไว้ว่า ใครก็ตามที่เข้ามาเรียนแล้วทำได้เหมือนอย่างที่ผมทำได้ สามารถทำรายได้ 1 แสน ถึง 1 ล้านบาทต่อเดือนได้แล้ว 100 คน ผมจะวางมือ และไม่สอนอีกแล้ว ดังนั้น เราจะเปิดรับทุกเดือน แต่เมื่อเราปั้นคนได้ครบ 100 คนแล้ว เราปิดรับสมัคร และไม่สอนแล้ว ซึ่งอาจจะครบในรุ่นที่ 4 นี้ก็ได้ เพราะเรารับรุ่นละ 30 คนเท่านั้น

เชษฐิทย์ สิงขร:

ฉันจะทำได้ไหม

กมลเวช เมืองศรี:

เป็นคำถามที่ดีครับ ผมตอบว่า ถ้าท่านเชื่อว่าท่านทำได้ ผมก็เชื่อว่าท่านทำได้ แต่ถ้าท่านเชื่อว่าทำไม่ได้ ผมก็เห็นด้วยนะครับ เพราะคนที่จะบอกว่าท่านทำได้หรือไม่ ก็คือต้วท่านเอง 

ถ้าท่านคิดว่าทำไม่ได้ ผมอยากจะแบ่งปันว่า มนุษย์ทุกคนสามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จได้ แต่ที่แตกต่างกันคือ ความคิดที่เขาคิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เห็นไหมครับว่า วิธีคิดสำคัญมาก 

เชษฐิทย์ สิงขร:

ถ้าไม่เข้าใจ ถามใครได้

กมลเวช เมืองศรี:

เรามีทีมโค้ช 3 คน มีผมโค้ชแนมโค้ชตู้ เราจะตอบคำถามได้ตลอดในกลุ่มเฟสบุค เมื่อท่านถามจะทำให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย บางทีนักเรียนที่ทำได้จะเข้ามาช่วยตอบมันจะทำให้เขาแตกฉานเข้าใจมากขึ้น และสอนคนอื่นต่อไปได้ ได้ประโยชน์ทั้งผู้ถามและผู้ตอบ

เชษฐิทย์ สิงขร:

ราคาเท่าไร

กมลเวช เมืองศรี:

โปรเจคนี้ตั้งราคาไว้ที่ 84,950 บาท บางคนอาจมองว่าราคาสูง แต่อยากจะบอกว่าเปรียบเทียบกับอะไร เพราะถ้าพิจารณา การเรียน ตรี โท เอก ราคาเท่านี้เรียนไม่ได้นะครับ แต่โปรเจคนี้สอนให้ท่านเป็นผู้ประกอบการ คือ จบแล้วสามารถออกไปทำกิจการได้ บอกเลยว่าค่าเรียนถูกกว่าค่าเทอมลูกของผมอีก 

การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนให้กับตัวเอง เรามี Payment Plan ให้ผ่อนได้

วิธีแรก จ่ายเงินก้อนแรก 29,997 บาท และผ่อนอีก 4,997 บาท อีก 11 เดือน

วิธีที่สอง ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนแรก แต่ผ่อน 7,100 บาท ติดต่อกัน 12 เดือน

วิธีที่สาม ชำระเงินก้อนครั้งเดียว ลดให้ จากราคาเต็ม เหลือเพียง 80,000 บาท

ถ้าอยากปรึกษาเรื่องการชำระเงินให้โทรมาปรึกษาได้ครับ

เชษฐิทย์ สิงขร:

ถ้าท่านใดยังมีคำถาม สามารถส่งคำถามมาได้ทุกช่องทางนะครับ

อยากให้ อาจารย์กมลเวช สรุปในช่วงท้ายนี้ครับ

กมลเวช เมืองศรี:

มีคำกล่าวจาก โรเบิร์ต คิโยซากิ เจ้าของหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้าน บอกเอาไว้ว่า “มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก ถ้าใครคนหนึ่งต้องการสร้างผลลัพท์ใหม่ๆ ในชีวิต แต่ยังทำเหมือนเดิม” มันทำให้ผมออกมาทำสิ่งใหม่เพราะผมอยากเปลี่ยนแปลงชีวิต

และถ้าท่านอยากพัฒนารายได้ของท่านให้มากกว่าเดิม 100 ถึง 1,000 % หรือ 2 ถึง 10 เท่า ท่านจะต้องทำสิ่งที่แตกต่าง ท่านต้องออกมาจากโซนสบายของท่าน แล้วเข้ามาอยู่ในโปรเจกเศรษฐีชุดนอนของเรา จะทำให้ท่านเป็นคนที่พัฒนาตัวเอง เมื่อท่านเรียนจบโปรเจคแล้วท่านจะจำตัวเองไม่ได้เลย 

ถ้าอยากสร้างผลลัพท์ใหม่ๆ จงทำสิ่งใหม่ๆ

การตัดสินใจในชีวิต นั้นใช้เวลาไม่นาน เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของสายการบิน เวอร์จิ้น บอกไว้ว่า “เมื่อมีคนมาเสนอโอกาส เพื่อให้ชึวิตคุณดีขึ้น จงอย่าลังเล จงคว้าโอกาสนั้นไว้ แล้วค่อยมาเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เพราะโอกาสนั้นอาจจะไม่กลับมาเป็นครั้งที่สอง”

เชษฐิทย์ สิงขร:

ผมหวังว่าทุกท่านจะคว้าโอกาสนี้ไว้ แล้วพบกันในโปรเจคเศรษฐีชุดนอนครับ

ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!

kamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawitkamolwech-chetthawit

เชษฐวิทย์ สิงขร & กมลเวช เมืองศรี

โปรเจคเศรษฐีชุดนอน

“ในที่สุด…วิธีที่ดีกว่า ที่ทำให้ท่าน สร้างธุรกิจออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ ในไม่เกิน 6-12 เดือนนี้ แม้ไม่มีพื้นฐานใดๆ มาก่อนเลย การันตี!”

โปรเจคเศรษฐีชุดนอน กำลังเปิดคอร์สให้ท่านได้เข้ามาเป็นคนวงในถ้าท่านต้องการเป็นผู้มีรายได้ทั้งตอนหลับและตื่น

และไม่ต้องการเสียใจที่พลาดข้อมูลนี้ไปตลอดกาล

วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท

วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัทการสร้างความสำเร็จระยะยาวให้กับธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ขายตรง หรือประกันชีวิต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้พัฒนาตัวเอง ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น แล้วก็สามารถส่งต่อความสำเร็จให้กับผู้คนในองค์กรของตัวเองได้ด้วย แล้วที่สำคัญก็คือเมื่อเราเก่งขึ้นรายได้ของเราก็จะหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น

วีดีโอ “วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท”

หนังสือเสียง “วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท”

สารบัญเนื้อหาวีดีโอ “วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท”หนังสือเสียง “วิธีเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องและสร้างความสำเร็จระยะยาวได้ทุกบริษัท”1. พัฒนาทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ2. เข้าใจธุรกิจเครือข่ายให้เร็วที่สุด​3. พัฒนาทักษะในการสปอนเซอร์3.1 พัฒนา ทักษะในการเชิญคน มาดูโอกาส3.2 พัฒนา ทักษะในการนำเสนอ 3.3 พัฒนา ทักษะในการขับเคลื่อนและขยายองค์กร 

นี่คือการแชร์ ประสบการณ์ ของผมในการทำธุรกิจเครือข่าย วันนี้ผมจะแบ่งปัน การเริ่มต้น และการทำธุรกิจ ให้กับทุกท่านได้เรียนรู้ แล้วผมเชื่อว่าสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้วันนี้จะทำให้ท่านเปลี่ยนทัศนคติ ตลอดไปเลยทีเดียว 3 ขั้นตอน แห่งความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย 

  • พัฒนาทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ 
  • เข้าใจธุรกิจเครือข่ายให้เร็วที่สุด
  • พัฒนาทักษะในการสปอนเซอร์ 

3 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ท่านจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ และส่งต่อให้กับองค์กร แล้วถ้าองค์กรไหน มีความเข้าใจ มีการส่งต่อ องค์กรนั้นก็จะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง

1. พัฒนาทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ

ขั้นตอนแรกก็คือ จะต้องเป็นผู้มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และพัฒนา ทัศนคติของตัวเอง และผู้ที่อยู่ในองค์กรของท่าน ให้เป็นผู้ที่มีทัศนคติ ของคนสำเร็จ

ยกตัวอย่างเช่น ทัศนคติอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เป็นทัศนคติที่ดีจากคนไม่มีอะไรเลย ไม่มีคนรู้จัก แต่กลับกลายมาเป็นคนที่จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ทำธุรกิจอะไรก็เกิดผลลัพธ์เกินความคาดหมาย

ซึ่งในโลกสมัยนี้การมีคนติดตามการมีคนรู้จัก มันเปรียบเสมือนเครื่องทำเงิน เพราะในสมัยนี้ เรามีระบบ เพื่อที่จะโฆษณาเพื่อจะยิงแอด ให้เกิดเป็นเงิน แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบอะไร ก็ไม่สามารถ ที่จะเอาชนะ Personal Brand (การสร้างแบรนด์ตัวเอง) เพื่อที่จะให้คนรู้จักท่าน ชอบพอเชื่อถือท่าน และศรัทธาในตัวท่าน การที่ท่านให้ความรู้กับผู้คนนั้น ให้วิธีการ เปรียบเสมือนการมีเครื่องพิมพ์แบงค์ ค่าเฉลี่ยของคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายนั้น ส่วนมากจะไม่ประสบผลสำเร็จ จะมีคน 90% ที่เข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย จะล้มหายไปในเวลา 3 เดือนถึง 6 เดือน เลิกทำไป ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องเข้าใจค่าเฉลี่ย ของอุตสาหกรรมนี้ก่อน ซึ่งเกิดขึ้นทั้งโลก

ท่านจำเป็นที่จะต้องรู้จักการปิดจุดอ่อน ปิดรูรั่วก่อน ซึ่งรูรั่วแรกคือ การที่ไม่ทำให้เรา ตายออกไปจากธุรกิจ ใน 3 ถึง 6 เดือนแรกก่อนเลย คือตัวเราทุกคนต้องไม่ตายก่อน เพราะถ้าตัวเราตายนั้นคือจบ

เพราะเราอาจจะไม่มีทัศนคติ ที่จะทำให้เรากลับมาในธุรกิจที่มีโมเดลทางธุรกิจอันดับ 1 อีกเลย โมเดลธุรกิจที่ดีที่สุดในโลก เพราะลงทุนน้อย ความเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนสูง ซึ่งหาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

บางทีลงทุนหลักร้อยอาจจะทำรายได้หลักล้านก็ได้ ไม่ต้องมีลูกจ้างแม้แต่คนเดียวแต่เราต้องทำความเข้าใจก่อนทัศนคติของผู้ที่ประสบความสำเร็จ เราจำเป็นที่จะต้องพัฒนา 3 ทักษะ ดังนี้ 

  • ทักษะในการทำการตลาด
  • ทักษะในการชวนคนทําธุรกิจ
  • ทักษะในการเป็นผู้นำ 

ท่านคิดว่าทักษะอะไรสำคัญเป็นอันดับที่ 1 ในการทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบผลสำเร็จ สำหรับผมแล้ว ทักษะที่จะทำให้ท่านประสบผลสำเร็จ อันดับ 1  คือทักษะการเป็นผู้นำ

จำไว้นะครับว่า ถ้ามีพื้นที่ 1 ที่เป็นที่แห้งแล้งกันดาร แล้วเราเอาผู้นำ เอาสุดยอดผู้นำไปพัฒนาที่นั่น พื้นที่นั้นจะเป็นพื้นที่ที่เขียวชอุ่ม กว่าเดิม 5 เท่า 10 เท่าได้อย่างแน่นอนการันตี

แต่ถ้าเราเอาคนที่ไม่ได้มีทักษะการเป็นผู้นำ หรือคนทร่มีทักษะการเป็นผู้นำที่อ่อนด้อย เอาไปพัฒนาพื้นที่นั้น ท่านก็พอจะนึกออกนะครับ เขาไม่สามารถที่จะทำใครได้แม้แต่ตัวเอง ให้ลุกขึ้นมาพัฒนาพื้นที่กันดารนั้น ให้เป็นพื้นที่เขียวชะอุ่มสามารถทำมาหากินได้ อยากมีความสุข

เพราะฉนั้นลีดเดอร์ชิพ สำคัญที่สุดความเป็นผู้นำสำคัญที่สุดเลยเพราะทุกสิ่งทุกอย่าง บนโลกนี้ จะรุ่งเรืองหรือล่มสลาย ก็ด้วยทักษะ ความเป็นผู้นำ จำไว้เลยครับ 

การพัฒนาคนที่ไม่มีความเป็นผู้นำเลย หรือคนที่มีความเป็นผู้นำน้อย จำเป็นที่จะต้องใช้เวลา อย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป หรืออาจ จะถึงขั้นตลอดชีวิต 

คำถาม : ทำไมความเป็นผู้นำถึงสำคัญ?

ผมขออนุญาตถามท่านว่า ท่านเคยไปชวน คนเข้าร่วมธุรกิจ แล้วเขาไม่เข้าร่วมธุรกิจกับท่านไหม

หรือท่านได้พูดคุยกับองค์กรของตัวเอง แล้วองค์กรไม่เชื่อฟังท่านบ้างไหม บอกให้มาประชุมบอกให้ทำรายชื่อ บอกให้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำแล้วเขาก็ไม่ทำ

ท่านว่าปัญหามันมาจากอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องเขาไม่เชื่อถือท่านมากพอ เห็นด้วยไหมครับ เพราะระดับความเป็นผู้นำของท่านยังไม่มากพอ

ผมขอถามท่านต่ออีกว่า ถ้าหากเป็นเจ้าสัวธนินท์ เจ้าสัวเจริญ เชิญท่านเข้าไปเป็นหุ้นส่วน โดยจะต้องใช้เงิน 1 แสนบาท และท่านจะต้องไปเรียนรู้กับเขา จะให้ท่านเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจของเขา ท่านจะเข้าหรือไม่เข้า ผม หนึ่ง คนเข้าทันที

ถ้าระดับประเทศเอาจริง พร้อมที่จะสอน ผมไปเลย เพราะว่า ความสำเร็จของเขาจับต้องได้ทันทีความเป็นผู้นำของเขาไม่ต้องพูดถึง นี่ครับ ถ้าท่านโฟกัส พัฒนาความเป็นผู้นำของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความท้าทาย แรงต้านทานในการทำธุรกิจท่านจะค่อยๆลดลง ยิ่งถ้าความเป็นผู้นำ ในตัวท่านสูง คนจะปฏิเสธท่านน้อยลงเรื่อยๆ

แต่ถ้าท่านดูอะไรก็ไม่น่าเชื่อถือเลย แต่งตัวก็ไม่น่าเชื่อถือ พูดอะไรก็ไม่น่าเชื่อถือ แถมยังดูแล้วไม่มีทักษะความเป็นผู้นำด้วย แล้วใครอยากจะร่วมธุรกิจกับท่าน เรากำลังพูดถึงเรื่องควักเงินร่วมธุรกิจเลยนะ นี่คือธุรกิจนะไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ เห็นด้วยไหมครับดังนั้นความเป็นผู้นำสำคัญมาก เขาจะต้องรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เขาจะต้องรู้จัก การไม่เอาความพึงพอใจเดี๋ยวนี้ รอคอยเพื่อที่จะเอาความสำเร็จระยะใหญ่ ระยะยาวมากกว่า ดังนั้นการพัฒนาทัศนคติของผู้ประสบผลสำเร็จสำคัญมาก ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ทำกับคน ดังนั้นเรื่องคนสำคัญมาก ท่านจำเป็นที่จะต้องพูดแล้วคนอยากฟัง ทำแล้วคนอยากทำตาม แต่ท่านต้องมีทักษะในการเดินนำและคนอยากเดินตามด้วย

2. เข้าใจธุรกิจเครือข่ายให้เร็วที่สุด

เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจธุรกิจเครือข่าย ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าร่วมธุรกิจ

แล้วต้องเข้าใจแล้วอย่าเพิ่งทำอะไรเด็ดขาด ถ้าท่านยังไม่เข้าใจธุรกิจเครือข่าย อัพไลน์ส่วนมากก็ไม่เข้าใจมันแล้วก็สอนท่านผิดๆ แล้วท่านก็ออกไปทำแบบผิดๆ ท่านก็เสียหายกับรายชื่อของท่าน เสียหายกับคนรอบข้างของท่าน สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้คน

แม้แต่วิธีการพูดเชิญคนก็สำคัญ ถ้าพูดไม่เป็น โทรหาเขาครั้งต่อไปเขาก็ไม่รับสายอีกแล้ว แชทไปเขาก็ไม่อ่าน LINE ไปเขาก็ไม่ตอบ นี่คือธุรกิจ นี่คือ Real Business

ดังนั้นจะต้องรู้วิธีพูดที่ถูกต้อง ที่เชิญแล้วไม่เกิดปัญหา เธอหลอกฉันมา หรือ เชิญแล้วไม่เกิดปัญหาจะยัดเยียดใครของอะไรให้ชัดหรือเปล่า เพราะผู้คนไม่ชอบถูกขายนะจำไว้นะ

ต้องเชิญแบบนักธุรกิจและต้องมีแนวคิดที่ถูกต้องในการเชิญด้วย ดังนั้นท่านจำเป็นจะต้องรู้วิธีที่ถูกต้อง ไม่ให้เสียความสัมพันธ์กับคนที่เชิญ เป็นอย่างไร แล้วถ้าเชิญเขามาดูโอกาสแล้ว ยังไม่สมัคร เราควรจะมีวิธีการติดตามผลอย่างไร เพื่อทำให้เขาไม่รู้สึกว่าเรากดดัน ทำให้เขาไม่รู้สึกว่าเขาจะไม่อยากรับโทรศัพท์เราอีก พูดง่ายๆคือจะทำธุรกิจเครือข่ายอย่างไรไม่ให้เสียเพื่อน เหตุผลสำคัญที่บอกเลยว่าถ้าต้องการที่จะสร้างธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจประกันชีวิต ที่จำเป็นต้องมีการสร้างองค์กรมันมีการพิสูจน์ แล้วก็ตรวจสอบแล้ว

พบว่าในองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ในบริษัทหรือธุรกิจเหล่านี้ องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายต่างมีผู้คนที่รู้จักกันอยู่ในองค์กรนั้นมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วองค์กรที่มีคนรู้จักกันเหล่านี้จะเป็นองค์กรที่มีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น แล้วก็มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ไม่แตกง่าย

องค์กรไม่แตกง่าย ไม่ล่มง่าย ไม่เลิกง่าย แต่ถ้าองค์กรองค์กรไหน มีแต่คนไม่รู้จักกันอยู่กันเต็มไปหมดเช่น พยายามรีครูทคนในโลกออนไลน์

มีธุรกิจเครือข่ายหลายๆตัวในปีที่ผ่านมาลงยิ่งเป็นล้านตั้งทีมอย่างนู้นอย่างนี้คนมาเต็มไปหมดแตก แตกหมดเลย ก็เพราะเขาไม่เข้าใจธุรกิจเครือข่าย เขาไม่เข้าใจวิธีการสร้างองค์กร วิธีการรักษาองค์กรวิธีการขยายองค์กรให้มันเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆเขาคิดที่จะเอาเร็วๆได้ผลลัพธ์ปังปังได้ยอดเยอะๆแล้วก็ล้มดังๆ มันน่าเสียดายที่องค์กรขนาดใหญ่ล้มดังขนาดนี้ได้ หมายความว่ามีคนตายออกจากธุรกิจจำนวนเยอะมากและนั่นหมายความว่ามีเงินที่สูญเสียในการสร้างธุรกิจจำนวนเยอะมากเห็นด้วยไหม

  • ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่ขายตรง การทำธุรกิจเครือข่าย ให้ประสบผลสำเร็จคือการขยายองค์กร ของผู้บริโภค ไม่ใช่การออกไปขายตรง 
  • ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ไม่มีใครหลอกใคร นอกจากมิจฉาชีพแอบอ้างเปิดธุรกิจเครือข่ายหลอกให้คนสมัครแล้วก็ปิดบริษัทหนี เพราะโมเดลธุรกิจเครือข่ายดีที่สุดในโลก มันเลยมันหลอกเปิดธุรกิจเครือข่ายแล้วปิดหนีไป ธุรกิจเครือข่ายเลยชื่อเสีย ดังนั้นถ้าไม่อยากโดนหลอกก็ต้องเรียนรู้ก่อน 
  • ไม่วางตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้า หรือเน้นขายสินค้า 
  • ไม่ใช่การชวนคนเข้าร่วมธุรกิจเป็นหลักไม่ใช่การชวนคนเขาเข้ามาแล้วก็มาตาย ทำแบบนั้นไม่ได้ ท่านจะสูญเสียความเป็นผู้นำ ท่านจะสูญเสียความเชื่อถือ จากผู้คน ถ้าท่านเชิญเขาเข้ามาแล้วท่านไม่สอนวิธีการทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบผลสำเร็จ

หนังสือแนะนำ 

Own your life ชีวิตเป็นของคุณ 

By DON FAILLA

OwnYourLifeOwnYourLifeOwnYourLife

THE SYSTEM 

By DON & NANCY

The SystemThe SystemThe System

​3. พัฒนาทักษะในการสปอนเซอร์

คนที่จะเป็นสปอนเซอร์ที่ดี คือคนที่มีความเป็นพ่อและแม่ที่ดีอยู่ในคนคนเดียวกัน เวลาชวนใครเข้ามา เขาคือหุ้นส่วนในความสำเร็จ เขาจะให้เกียรติกับดาวไลน์ทุกคน แบ่ง ย่อยออกเป็น 3 ทักษะ  คือ

3.1 พัฒนา ทักษะในการเชิญคน มาดูโอกาส

ทักษะนี้สำคัญที่สุดสำหรับมือใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมันเป็นการสร้างรายชื่อ เข้ามา และถ้าเป็นธุรกิจที่จะต้องสร้างองค์กรแล้วล่ะก็ ถ้าไม่มีรายชื่อเข้ามา ก็เท่ากับว่าขาดรายได้ ไม่มีรายชื่อก็ไม่มีโอกาสในการนำเสนอธุรกิจ ไม่มีโอกาสในการนำเสนอสินค้า หมายความว่าไม่มีเงินเข้ากระเป๋า

ถ้าผมมีช่องทางที่จะทำเงินได้ดีกว่านี้ จะทำให้ชีวิตดีกว่านี้ ท่านอยากรู้ไหมว่าทำยังไง

  1. ทำรายชื่อคนรู้จัก ออนไลน์ / ออฟไลน์ เริ่มจากคนใกล้ชิด สายเลือด คนรู้จัก คนใกล้ตัวก่อน / ต่อมาคือ เพื่อน เพื่อนสนิท ไม่สนิทตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม ที่มีคำว่าเพื่อน / คนเคยเห็นหน้า รีดรายชื่อออกมา ให้มากที่สุด
  2. จัดเกรดรายชื่อออกเป็น 4 กลุ่ม (Four Checkers)– ผู้นำ ผู้นำคือคนที่มีคนพร้อมตามอยู่แล้ว – มีเงินลงทุน ตัดปัญหาการปฏิเสธว่าไม่มีเงิน- เริ่มต้นทำอะไรได้ด้วยตัวเอง คือ คนที่มีพลังในการทำเองได้ด้วยตัวเอง- สอนได้ คนที่ทำงานด้วยยาก คือ คนที่สอนไม่ได้

3.2 พัฒนา ทักษะในการนำเสนอ 

การนำเสนอที่ทรงพลังนั้นก็คือต้องทำให้คนฟังได้ความรู้และก็ต้องทำให้เขาสนุก ต่อให้เขาจะสมัครหรือไม่สมัครแต่ท่านก็ได้ใจเขาไปเรียบร้อยแล้ว

เพราะการตัดสินใจต้องให้เวลา แล้วเราจะ พัฒนาได้อย่างไร ของแบบนี้ไม่มีใครเก่งตั้งแต่อยู่ในท้องพ่อท้องแม่ เห็นด้วยไหม การคิดว่าฉันไม่เก่งมันก็คือการคิดลบแล้ว จงจำไว้ จงคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ตรงคิดบวกไม่คิดลบ

แล้วชีวิตท่านจะเดินหน้าอย่างเดียว การคิดลบมันจะบั่นทอนกำลังใจของท่านให้หายไปหมด ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักที 

3.3 พัฒนา ทักษะในการขับเคลื่อนและขยายองค์กร 

คือการเรียนรู้ทักษะในการเชิญคน ทักษะในการนำเสนอ และการส่งต่อทักษะนี้ให้กับทีมงาน ถ่ายทอด ให้กับองค์กร จากผู้นำ แล้วก็ถ่ายทอดต่อ

พูดง่ายๆก็คือ เมื่อเอาเขาเข้ามาในธุรกิจ แล้ว ต้องสอนเค้าให้ทำเป็นทุกอย่าง แล้วก็พาเขาออกไปสอนคนของเขา ให้คนของเขาทำได้อีก เราก็จะมีเวลาในการขยายองค์กรในธุรกิจต่อไป 

ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!

กมลเวช เมืองศรี

3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน

3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

ข้อมูลวันนี้จะเป็นข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ถ้าได้เรียนรู้ว่ามันมี  3 ทักษะ ที่ถ้าใครก็ตามได้ทำตาม และพัฒนาทักษะนี้ ชีวิตเขาจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย การันตีจากผลลัพธ์ที่เกิดกับชีวิตผมมาแล้ว และทุกท่านสามารถทำได้ด้วย

วีดีโอ “3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”

หนังสือเสียง”3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”

สารบัญเนื้อหาวีดีโอ “3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”หนังสือเสียง”3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”ทักษะที่ 1 ในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skillทักษะที่ 2 ทักษะในการขยายธุรกิจให้โตขึ้น เรื่อยๆทักษะที่ 3 ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง

ท่านสามารถเลือกที่จะ อ่านบทความ หรือ ดูวีดีโอถ่ายทอดสด หรือดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 เพื่อฟังหนังสือเสียง ที่อธิบายอย่างละเอียดได้ที่นี่ทันที

ท่านเคยสงสัยไหม ทำไมผู้คน คนนั้น คนโน้น คนนี้ มีบ้านหลังละ 5 ล้าน 10 ล้าน มีรถราคา 1 ล้าน 3 ล้าน 5 ล้าน  มีเงินในบัญชีธนาคาร มีชีวิตที่หรูหรา และเป็นชีวิตที่น่าใช้

ท่านเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเขาถึงสามารถทำได้ เขาเกิดมาแล้วรวยเลยรึเปล่า ผมบอกเลยครับว่า มีบ้างครับที่เกิดมารวยแต่ส่วนมากไม่ยั่งยืน  เพราะว่าขาดสิ่งสำคัญที่ผมจะแบ่งปันในวันนี้

แต่ถ้าใครก็ตามเขาสร้างมันได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาที่บอกว่าเป็นชีวิตที่คิดไม่ถึง จะยั่งยืนมาก แต่ถ้าหากท่านอยากจะมีชีวิตที่คิดไม่ถึง อยากจะมีเหมือนเครื่องจักรผลิตเงิน  ผลิตรายได้ ที่ทำให้ท่าน ตื่นก็เกิดรายได้  หลับก็มีรายได้  แล้วรายได้นั้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วละก็ นี่คือข้อมูลที่จะแบ่งปันในวันนี้

จากคำถามที่ผมได้ถามทุกท่านไปเมื่อสักครู่นี้  ท่านก็คงเคยสงสัย ผมการันตรีว่าถ้าท่านยังไม่เป็นเศรษฐีเงินล้าน ยังไม่ทำรายได้ ต่อปี หรือต่อเดือน เดือนละ 1 ล้านขึ้นไป ท่านต้องสงสัยแน่นอนครับว่าต้องทำยังไงให้ฉันมีรายได้ 7 หลักต่อเดือน  ทุกเดือน มันทำให้ชีวิตคนหนึ่งคน ที่อยู่ในสถาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แสนหนึ่งถ้าใช้ แบบรู้จักใช้มันอยู่ได้ครับ

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ในทุกวิกฤติมีโอกาส เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะมาแบ่งปันในวันนี้นั้นไม่ได้พูดเรื่องลบ แต่ผมจะพูดในเรื่องที่ทำให้ท่านได้เห็นภาพครับว่า มันจะทำให้ท่านนั้นเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ยังไง

เมื่อผมได้เรียนรู้ 3 ขั้นตอนแห่งการเป็นเศรษฐีเงินล้าน นี้ การเป็นผู้ที่มีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือนนี้ ชีวิตของผมก็มีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือนแล้วก็ต่อปีแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด 10 กว่าปีเลย  ไม่เคยผิดพลาด ไม่ว่าจะหลับหรือจะตื่น เกิดรายได้ตลอด

ยิ่งพัฒนา 3 ขั้นตอนนี้ต่อไปๆ ยิ่งทำให้ผมนั้นลงทุนเงิน ลงทุนเวลา  ลงทุนแรงงานน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเรามาดู 3 ขั้นตอนแห่งความสำเร็จให้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน  หรือ เราเรียกว่าสามเหลี่ยมแห่งความสำเร็จกัน

ทักษะที่ 1 ในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skill

ทักษะที่ 1 ที่ผู้คนโดยส่วนมาก มากกว่า 95-97 % ยังไม่รวยและอยากจะรวย เป็นเพราะเขาขาดทักษะนี้ คือ

ทักษะในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skill

ทักษะนี้สำคัญมากถ้าท่านไม่มีทักษะในการสร้างรายได้ระดับสูง นั้นหมายความว่าท่านไม่สามารถสร้างรายได้ระดับสูงได้ เห็นด้วยไหมครับ

รายได้ระดับสูงต้องเท่าไหร่ เราถึงจะเรียนกว่าท่านมีทักษะที่สามารถสร้างรายได้ระดับสูงได้ ถ้าจะเอาระดับเป็นเศรษฐีเงินล้าน ในเงินบาทก็ต้องมีรายได้สักประมาณเดือนละ 3 แสน  

ถ้าท่านยังมีรายได้ไม่ถึงเดือนละ 3 แสน โดยที่ไม่ใช่จากงานประจำด้วยนะแต่เป็นการใช้ทักษะที่ทำให้ท่านเกิดรายได้สูง หรือ ที่เขาเรียกว่า  หรือ ทักษะที่ทำให้มีรายได้สูงนั้นเอง

ที่ผมบอกคน 95-97%บนโลก ที่ไม่ว่าจะทำงานประจำอยู่ หรือ ว่าอยากรวยขึ้นมาในวันใดวันหนึ่งเห็นเขาโฆษณากันเต็มไปหมด ชวนทำธุรกิจในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นขายตรง ประกัน ธุรกิจ MLM  ออนไลน์สารพัด ทุกอย่างโฆษณาหมดเลยว่า มาเลยรวยแน่นอน  ธุรกิจอันนี้รวย ทำงาน อันนั้นก็ทำง่าย

ผมมีคำถาม ในธุรกิจเหล่านั้นเมื่อคนแห่เข้าไปทำ ให้เวลาผ่านไป 1-3 ปี  สมมุติเข้าไปทำ 100 คน จะมีสักกี่คนที่เป็นเศรษฐีเงินล้านจริงๆและยังอยู่รอด ให้ทุกท่านลองตอบดู

จากธุรกิจที่เห็นกันเต็มไปหมดนี้ ไม่ว่าจะธุรกิจอะไรก็ตาม A-Z  จะ MLM หรือไม่ MLM จะขายตรง หรือ ขายอ้อม  จะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์  ถ้ามีคน 100 เข้าไปในธุรกิจเหล่านี้ผ่านไป 3 ปี จะอยู่แบบยั่งยืน 1-3% เท่านั้น

นั่นหมายความว่า  95-97%  ตายเรียบ และท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็คงเคยมีประสบการณ์ตายมาแล้ว เห็นด้วยไหมครับ คือทำแล้วไม่สำเร็จนั้นเอง นี่คือความโหดร้ายในธุรกิจ โหดร้ายก็คือ เขาไม่รู้จริงว่าจะทำยังไงให้มันเวิร์ค

ทำไมคน 95-97 % ถึงไม่สามารถประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ก็เพราะเขาขาดทักษะในการสร้างรายได้ในระดับสูงนั้นเอง คนส่วนมากอยากรวย เจอธุรกิจปุ๊บ สมัครเลย ผมบอกเลยผิดขั้นตอน หวังว่าจะไปเรียนในธุรกิจ ซึ่งในธุรกิจเหล่านั้น ไม่ว่าจะธุรกิจเครือข่าย ขายตรงนั้นเนี้ย  มีคนน้อยมากที่รู้วิธีการที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ จริงๆ

คน 95-97 % ไม่สามารถประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ก็เพราะเขาขาดทักษะในการสร้างรายได้ในระดับสูง

มีแต่โค้ชฝึกใหม่ ฝึกหัด เพิ่งทำธุรกิจมาเหมือนกัน พยายามมาสอน โดยใช้ความคิดของตัวเองมาแนะนำทั้งสิน โดยที่เขายังไม่เคยทำรายได้ 7 หลักมาก่อนเลย แล้วคนที่ไม่เคยทำรายได้ 7 หลักมาสอนคิดว่าเขาจะสอนอะไรล่ะ  ก็สอนในสิ่งที่เขาคิดว่ามันใช่  ถ้าเขาทำรายได้ 5-6 หมื่นเขาก็ใช้วิธีการที่ทำรายได้ 5-6 หมื่นมาสอนนั้นเอง

เพราะฉะนั้นที่สำคัญมากคือ ถ้าท่านต้องการหลุดจากวงจรอุบาทของการทำธุรกิจอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่ลงทุนแล้วก็เสีย คนส่วนมากจะเลือกทำอยู่ไม่กี่อย่าง ส่วนมากก็ธุรกิจออนไลน์  MLM ขายตรง  ประกันชีวิต

คนจำนวน 60-70 % จะเข้าไปในโอกาสธุรกิจเหล่านี้แล้วสิ่งที่เขาเจอคือ เจอปัญหา ไปต่อไม่ได้ ติดๆ ขัดๆไม่รู้จะไปขั้นต่อไปยังไง  ไม่รู้ว่าชวนคนให้เข้ามาดูโอกาส ชวนยังไงให้เวิร์ค ไม่รู้ว่าเวลาเขาถามมา ควรจะตอบยังไง ไม่รู้ว่าเวลาโดนปฎิเสธจะรับมือยังไง

เข้าไปสมัครลงทุนทำธุรกิจไม่ว่าจะหลัก 100 1000 10000 100000 แล้วก็ติดปัญหา แล้วก็อาจจะเคยตายและเลิกทำไปแล้วด้วย เคยเป็นไหมครับ  เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมบอก นี่คือกับดักหรือว่าวงจรอุบาท ที่ให้คนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ

การที่เรานั้นเนี่ยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องพัฒนาทักษะไหนก่อน แล้วกระโจนเข้าทำธุรกิจเลยไม่ว่าคนที่ชวนจะหน้าตาเชื่อถือแค่ไหน ไม่ว่าตัวธุรกิจจะน่าดึงดุดแค่ไหน รวยง่าย รวยเร็ว ผมบอกเลยว่าหลงทางทั้งนั้น

ธุรกิจรวยง่ายรวยเร็วหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าคนที่ทำไม่มีทักษะในการทำให้มีรายได้ระดับเงินล้านและไม่มีทักษะ ที่ 2 ที่ 3 ที่กำลังจะพูดต่อ  เอามาประกอบกัน ไม่มีทางเลยที่คนๆนั้นจะรวยง่าย รวยเร็ว รวยนาน ยั่งยืนถาวร

ใครบอกว่ามีระบบที่ดี แค่สมัครเข้าไปก็รวย แห่กันสมัครเข้าไปแค่ 3 เดือนนี้ก็หมดยกนิ้วชู้นิ้วกัน 2-3 เดือนเงียบหมดไม่ว่าจะแบรนไหนก็ตาม เป็นแบบนี้หมดเลย แต่หลังจากที่ลองทำการตลาดแล้วมันไม่เวิร์ค ไม่มีคนทำกับฉันเลย เงินไม่พอที่จะทำให้ฉันไปต่อได้เลย ฉันเลิกดีกว่า ส่วนมากเป็นแบบนี้ทั้งสิ้น

แล้วทำยังไงให้เราหลุดจากวงจรอุบาทนี้ ถ้าเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ  เรียน ก่อน เรียนวิธีการสร้างธุรกิจที่เวิร์ค

ถ้าผมอยากเป็นนักธุรกิจที่มีรายได้หลักล้าน วิชาที่สำคัญที่สุด 2 วิชาที่ท่านจำเป็นจะต้องมี

  1. Copy-writing คือ การขายด้วยตัวอักษร ด้วยการเขียน โฆษณา การเขียนหน้า Sell  เขียนโพสต์ใน Facebook ทักษะนี้สำคัญมาก ถ้าอยากทำธุรกิจออนไลน์ให้สำเร็จต้องเรียนทักษะนี้  เขียนยังไงให้ถูกกลุ่ม เขียนยังไงให้มันแทงทะลุถึงหัวใจ ได้ใจคน
  2. Closing คือ ทักษะปิดการขาย ในโลกออนไลน์ก็ต้องปิดการขาย  จะออนไลน์ ออฟไลน์ ก็ต้องมีการปิดการขาย  ถ้าท่านปิดการขายไม่ได้ท่านก็ไม่ได้เงิน นี่คือทักษะที่สำคัญมากๆที่ท่านจำเป็นต้องพัฒนา

การปิดการขายที่ทรงพลังที่สุดคือ การปิดการขายทางโทรศัพท์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทักษะน้อยที่สุดแล้ว ท่านสามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็มีสคริปที่ทรงพลัง แล้วก็โทร วางตัวให้ดี

ทักษะที่ 2 ทักษะในการขยายธุรกิจให้โตขึ้น เรื่อยๆ

ทักษะที่ 2 ท่านจะต้องขยายธุรกิจให้เป็น การขยายธุรกิจนี้คือ หลังจากที่ธุรกิจของท่านทำเงินแล้ว การขยายธุรกิจมันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่เจ้าของธุรกิจนั้นจะต้องโฟกัส และ ทำอยู่เสมอๆ

โดยที่ใครมีทักษะนี้ จะทำให้ธุรกิจโตขึ้นเรื่อยๆ แถมลดค่าใช้จ่ายลงไปอีก ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจสมัยก่อน เช่น  เปิดร้านอาหาร นั่งได้ 100 คน ทำไงอยากให้ได้ 200 คนต่อวัน ต้องเปิดร้านใหม่ ลงทุนเยอะ

แต่ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจสมัยนี้ ธุรกิจออนไลน์มีคนเข้าเว็ปไซต์วันละ 1000  อยากให้เข้าวันละ 2000 ใช้การตลาดออนไลน์ช่วย  ลงทุนต่ำกว่าการเปิดร้านอาหารใหม่ เห็นด้วยไหมครับ

ท่านจะต้องเอาเงินที่ท่านได้จาก High Income Skill มาทำขยายธุรกิจ

เมื่อธุรกิจของท่านทำเงิน ท่านก็เอาเงินเหล่านั้นมาทำการขยายธุรกิจต่อ  อย่าเอาไปใช้ คนทั่วไปพลาด ซื้อบ้าน ซื้อรถ พอได้ค่าขึ้นตำแหน่งโชว์หรูเลย ซื้อบ้าน ซื้อรถ กันให้วุ่น นั่นคือหายนะ 

เพราะธุรกิจเหล่านี้มันไม่ยั่งยืน ผมเห็นมาเยอะมากเลยที่นักธุรกิจที่ขึ้นตำแหน่งสูงได้  มีรายได้เยอะ มีชีวิตที่แย่กว่าตอนที่ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งอีก  เพราะหนี้จากบ้าน หนี้จากรถ หนี้จากของใช้ส่วนตัวหรูๆ หนี้จากไลฟ์สไตล์ พยายามโชว์หรูเพื่อดึงดูดคน

จริงๆไม่จำเป็นต้องใช้ความหรูดึงดูดคน ใช้คุณค่าด้านอื่นก็ได้ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าการทำให้ดูรวยจะดึงดูดคนได้ จริงๆแล้วมันเปลืองมาก มันไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริง

คุณค่าที่แท้จริงต้องเป็นสิ่งที่เป็นคุณค่าจากตัวเขาที่เขาจะให้กับผู้มุ่งหวัง เช่นการเป็น Mentor ให้กับผู้มุ่งหวัง การสอนให้เขาสร้างระบบแห่งความสำเร็จได้

ทักษะที่ 3 ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง

เอาเงินจากข้อที่ 1 ที่ 2 เอาไปลงทุนในข้อที่ 3 คือท่านจะต้องพัฒนาทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง  ผมบอกเลยคนส่วนมากหลงทางกันหมด ผมเห็นโฆษณา ลงทุนคลิปโต ลงทุนฟอเร็ก  ลงทุนเล่นหุ้น  ลงทุนโน้น ลงทุนนี่ มากกว่า 95-98%  คนเหล่านี้ไม่มีทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงเลย

เขาคิดว่าเขาไปเข้าคอร์สมา 1-2 คอร์สแล้วเขาจะมีทักษะในการลงทุนระดับสูง ไม่เลยครับ แล้วเป็นไงละครับเมื่อคลิปโตราคาตก เมื่อหุ้นราคาตก คนเหล่านี้สูญเงินหมดเลย

มีใครบ้างครับที่มีประสบการณ์ในการเข้าไปลงทุนแล้วก็สูญเงิน ไม่ว่าจะธุรกิจ  ไม่ว่าจะอสังหาริมทรัพย์  ไม่ว่าจะหุ้น คลิปโต แล้วศูนย์  ผมคนหนึ่งครับเคยเป็น

การที่ท่านอยากจะมี ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง ถ้าใครเคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนการลงทุน การจะเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ การจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้น เขาจะต้องผ่านการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก่อน

แล้วถ้าท่านยังไม่เคยมี High Income Skill ท่านไม่เคยมีทักษะขยายธุรกิจ ให้มันโตขึ้นไปจนมีรายได้ มีเงินเหลือเฟือ ท่านไม่มีทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงหรอก เพราะท่านไม่เข้าใจว่าจะวิเคราะห์ยังไงเพื่อที่จะเลือกบริษัทได้ถูกต้องในการลงทุน

และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนกระโดดลงไป ลงทุน ลงทุนๆๆ แล้วไปต่อไม่ได้ 95-97%  ตอนนี้ใครถึงบางอ้อแล้วครับว่า อยากรวย แต่ก็ไม่รวยสักที

เมื่อท่านมีเงินลงทุน ท่านจะต้องมีอสังหาริมทรัพย์ มีพันธบัติ มีหุ้น มีอะไรก็แล้วแต่ ลงทุนลงไปในสิ่งที่ท่านรู้และเข้าใจ เพราะมันถึงเวลาที่ทำให้เงินทำงานแทนท่านแล้ว

ขั้นตอนที่ 1 ที่ 2 ท่านใช้ทักษะของท่านแลกกับเงิน ใช้เวลา ใช้ชีวิตของท่านแลกกับเงิน  แต่บังเอิญมันเป็น  High Income Skill ท่านจึงทำเงินได้มากกว่าคนอื่น 

ข้อ 2 ก็เหมือนกัน ธุรกิจทำเงินให้ท่านแล้วท่านก็ใช้ทักษะของท่าน ขยายและสร้างธุรกิจของท่านได้เยอะๆ ข้อ 1 ข้อ 2 ท่านยังไม่ได้ใช้เงินทำงานนะ แต่ข้อ 3 การลงทุนเป็นการที่ท่านนั้นใช้เงินทำงาน ที่คนเขาชอบพุดกัน แต่คนส่วนมากกระโดดข้าม 3 ขั้นตอนนี้เลยไปต่อไม่ได้

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปัน ถ้าท่านต้องการที่จะเรียนสุดยอดทักษะการทำการตลาดดึงดูด ตอนนี้แหล่งที่เรียนได้ คือ

ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จของท่าน

เชษฐวิทย์ สิงขรเชษฐวิทย์ สิงขร

เชษฐวิทย์ สิงขรCo-FounderMLMOnlineSchool.com