ทำอย่างไรให้คนสนใจสินค้าหรือโอกาสทางธุรกิจเครือข่ายของเรา?

ทำอย่างไรให้คนสนใจสินค้าหรือโอกาสทางธุรกิจเครือข่ายของเรา

ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่

วันนี้มีคำถามมาว่า อาจารย์ครับผมอยากรู้ว่า การที่เราจะทำให้คนสนใจสินค้าของเรานั้น อาจารย์พอมีวิธีไหมครับ? นี่คือคำถามแรก

คำถามต่อมานะครับ และถ้าเป็นโอกาสทางธุรกิจของ MLM ล่ะครับ เราสามารถทำการตลาดได้ไหมครับ?

More...

วีดีโอ
"ทำอย่างไรให้คนสนใจสินค้าหรือโอกาสทางธุรกิจของเรา?"

หนังสือเสียง 

"ทำอย่างไรให้คนสนใจสินค้าหรือโอกาสทางธุรกิจของเรา?"

เชษฐวิทย์ สิงขร: 

สวัสดีครับวันนี้เราก็มีคำถามมาอีกเช่นเคย วันนี้มีคำถามมาจาก คุณณัฐนันท์ อาจารย์ครับผมอยากรู้ว่า การที่เราจะทำให้คน สนใจสินค้าของเรานั้น อาจารย์พอมีวิธีไหมครับ?

นี่คือคำถามแรก ต่อมานะครับ คุณณัฐนันท์ ถามอีกว่า และถ้าเป็นสินค้าที่อยู่ในแผนการตลาดของ MLM หรือโอกาสทางธุรกิจล่ะครับ เราสามารถทำการตลาดสินค้าได้ไหมครับ?

กมลเวช เมืองศรี:

ขอบคุณครับโค้ชแนมและคุณณัฐนันท์นะครับ เป็นคำถามที่ดีมากทุกคำถามที่ส่งมา เป็นคำถามที่ดีมากเพราะมันจะช่วยให้คุณณัฐนันท์ แก้ปัญหาได้ และความรู้ที่เราแบ่งปันไป จะช่วยคนอื่นได้ด้วย ขอชื่นชมที่ส่งคำถามมา อันนี้ inbox มาเลย

ตอบคำถามแรกก่อน เราจะทำอย่างไรให้คนสนใจสนใจสินค้าเรา

คำตอบของผมง่ายนิดเดียวเลยครับ ทำการตลาดให้เป็น เพราะหัวใจสำคัญที่สุด ในการที่จะทำให้นักธุรกิจคนหนึ่ง ขายสินค้าได้ถล่มทลาย ขายบริการต่างๆได้มากมาย แม้แต่โอกาสทางธุรกิจแล้วก็ถือว่าเป็นสินค้านะ เพราะเราต้องขายไอเดียให้คนตัดสินใจซื้อ หรือมาทำธุรกิจกับเรา ถูกไหม

 MLM ธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ขายตรง ประกันชีวิต ถือเป็นสินค้าทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นถ้าท่าน อยากทำให้คนมาสนใจทั้งสินค้าที่ท่านขาย และโอกาสทางธุรกิจ ท่านต้องโฟกัสในเรื่องของการทำการตลาด ทีมเวิร์ค ออกไปให้กับคนได้เห็นข้อความเห็นสื่อ หรือเห็นไอเดียที่ท่านต้องการนำเสนอ ผมแบ่งออกเป็น 2 อย่าง ดังนี้

  • จะโปรโมทนำเสนอสินค้าอย่างไร และ

  • จะนำเสนอโอกาสทางธุรกิจ เครือข่ายอย่างไร

สมมุติว่า คุณณัฐนันท์ มีสินค้ามาชิ้นหนึ่งเช่นเป็นครีม สกินแคร์ ดูแลผิวหน้า หรือว่าผลิตภัณฑ์วิตามินอาหารเสริม

ทำอย่างไรให้คนสนใจสินค้าของเรา ในหลักการตลาด ทั้งทางด้านออฟไลน์ และอย่างยิ่งทางออนไลน์ คำถามสำคัญอย่างแรกที่เราจะต้องถาม ตัวเองก็คือ 

1.ใครคือกลุ่มผู้มุ่งหวังของเรา?

การที่เรามีสินค้า ยกตัวอย่างสินค้าดูแลความสวยงาม ถ้าคุณณัฐนันท์เจาะว่าทุกคนต้องการสินค้าของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ชายอายุระดับเราจะ 50 กันแล้วเนี่ยนะ สายลุยที่ไม่เคยสนใจครีมทาหน้าคิดว่าจะมีโอกาสขายได้บ้างไหม น่าจะยาก แต่ก็พอมี

แต่กลับกันถ้าเราทำการบ้านเพิ่มสักนิด แล้วถามตัวเองว่า ใครคือกลุ่มเป้าหมายของเรา ระหว่างผู้ชายลุยๆเข้าป่า กับสุภาพสตรี ที่ต้องแต่งงานรักสวยรักงาม อยากมีคนสนใจ อยากมีคู่

คิดว่าจะขายครีมเหล่านี้ให้กับใครได้ง่ายกว่ากัน สุภาพสตรีอยู่แล้ว พอเริ่มแตกเนื้อสาวก็จะเห็นสารพัด แป้งแต่งตัว มีคำกล่าวไว้ว่า ผู้หญิงเนี่ย สวยเท่าไหร่ ก็ยอมฉันขอสวยไว้ก่อน ขอซื้อขอจ่ายทุกอย่าง เพื่อให้ลดน้ำหนักให้หุ่นดี

เพราะฉะนั้นถ้าเราตั้งคำถามไว้ก่อนว่า ใครคือผู้มุ่งหวังของเรา แล้วตั้งให้มันละเอียดที่สุด

ดูว่ามีกลุ่มไหนบ้าง กลุ่มผู้หญิง ถ้าเรามีสินค้าลดน้ำหนัก เราเจาะกลุ่มใครได้บ้าง กลุ่มคนน้ำหนักเกิน กลุ่มคนที่ป่วยเนื่องจากมีน้ำหนักเกิน หรือถ้าเราเจาะให้ลึกอีก กลุ่มคนที่มีลูกน้ำหนักเกิน นี่เป็นการเจาะลงไปเห็นไหมครับ

เราไม่ได้เจาะแค่คนอ้วน บางทีเป็นพ่อแม่ เราไม่เจาะกลุ่มเด็กเพราะเด็กยังไม่มีเงิน แต่จริงๆแล้วพ่อแม่ที่มีลูกอ้วนเขามีความกังวลนะครับ แล้วเขาเป็นคนที่จ่ายเงินซื้อ

เพราะฉะนั้นคำถามแรกผมเชื่อว่าทุกท่านที่ดูอยู่ เราต้องถามตัวเองก่อนว่า ใครคือกลุ่มเป้าหมายของเราออกมา แล้วเจาะ ลงไปให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เรารู้ว่า เราจะทำการตลาดให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ สนใจสินค้าของเราได้อย่างไรบ้าง เพราะเรารู้แล้วว่าจะเจาะกลุ่มไหน แล้วกลุ่มคนสมมุติว่าเป็นสาววัยรุ่นกับสาววัยทำงาน มาดูว่ากลุ่มคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนกันบ้าง

2.กลุ่มคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนกันบ้าง?

ถ้าบนโลกออฟไลน์เขาไปอยู่ที่ไหน สยามสแควร์ใช่ไหม ตามห้างใช่ไหม ถ้าเขาจะเห็นโปสเตอร์ขายครีมทั้งหลายก็จะอยู่แถวนั้น หรือไม่ก็ตามรถไฟฟ้ารถเมล์ ที่แบรนด์ต่างๆพยายามทำโฆษณา 

เพราะมันการันตีว่าสาววัยรุ่นกับสาวออฟฟิศจะต้องขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์ติดคัทเอาท์ตามอนุสาวรีย์ตามสี่แยกต่างๆ เพื่อให้คนกลุ่มนี้เห็น

กลุ่มหนุ่มใหญ่อย่างเราไม่ค่อยสนใจหรอกครีมเหล่านี้ แต่เราก็เห็นด้วยอันนั้นคือแบบแนวกว้าง แต่ถ้าในโลกออนไลน์ใน Facebook ใน YouTube ใน Google มันสามารถกำหนดได้เลย เพศอะไรจะเห็น อายุเท่าไหร่ ชอบอะไร

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เรากำหนดได้เลยครับจากในโปรไฟล์ ของ Facebook

กมลเวช เมืองศรี:

 เวลาเราลงโฆษณา ใน Facebook หรือว่า YouTube เรากำหนดได้เลยว่าเราจะเจาะ กลุ่มไหน มันยิ่งทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินให้กับคนที่ไม่ใช่  

อย่างเช่นไปติดคัทเอาท์อยู่กลางอนุสาวรีย์ รายจ่ายเดือนละ 20,000 บาท มันจ่ายเพื่อ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเห็นด้วย

แต่ถ้าเราเจาะกลุ่มออกไปว่า เขาอยู่ใน Facebook พวกที่ชอบเล่นไอจีแล้วเราทำการตลาดไปเจาะกลุ่มนี้ในสถานที่ที่ถูกต้อง ในสิ่งที่เขาชอบ มันจะทำให้ท่านลดงบประมาณลงเยอะ แล้วเจาะกลุ่มคนได้ง่ายขึ้น และเจาะแต่กลุ่มคนที่ใช่

หลังจากที่เรารู้แล้วว่า ใครคือผู้มุ่งหวังแล้วเขาอยู่ที่ไหน คำถามสำคัญที่ 3 ที่เราทุกคนต้องถามตัวเองเสมอเวลาจะขายอะไรก็ตามว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร

3.ปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร?

ปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร แล้วสินค้าของเราจะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นแก้ปัญหาได้อย่างไร

ยกตัวอย่างว่า ขาข้างหนึ่งของเรา อยู่ในวงการธุรกิจออนไลน์ ขาข้างหนึ่งของเราอยู่ในวงการธุรกิจเครือข่าย

ผมจะพูดถึงเรื่องโอกาสทางธุรกิจแล้วนะ ครับ เพราะคุณณัฐนันท์ถามมาว่า แล้วเราจะนำเสนอโอกาสทางธุรกิจเครือข่ายอย่างไร ให้เหมือนกับสินค้าตรงนั้น

ผมก็จะดูครับว่ากลุ่มเป้าหมายของคนที่จะทำธุรกิจเครือข่ายคือใคร เพศไหนก็ได้ใช่ไหม ชายหญิงได้หมด แต่อายุต้องมากหน่อยไหม หรือว่าอายุน้อยก็ทำแล้ว

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เดี๋ยวนี้อายุ 17-18 ก็ทำแล้วครับ

กมลเวช เมืองศรี:

แสดงว่ากว้างมากเลย 50 ทำไหม ก็ยิ่งทำนะครับ 60 แล้วก็เคยเห็นนะ เพราะฉะนั้นมันกว้างมาก

เรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร แล้วเขาอยู่ชอบอยู่ที่ไหน กลุ่มคนกลุ่มนี้ก็กว้างมาก บนอินเตอร์เน็ตอยู่ไหมอยู่ โฆษณาทีวีอยู่ไหม อยู่ เขาเล่น Google เล่น YouTube ไหมก็เล่นนะ facebook เขาก็เล่นนะ

เพราะฉะนั้นเลือกแพลตฟอร์มที่ท่านถนัดที่สุด แล้วก็เจาะกลุ่มลงไป ว่าท่านจะเจาะกลุ่มใคร

สมมุติว่าท่านคิดว่าเด็กคงไม่มีเงินลงทุน เพราะว่าธุรกิจของท่านลงทุนประมาณ 80,000 บาท สมมุติ เด็กอายุ 18 นี่หายากแต่ถ้าเจาะระดับ 35 หรือ 40 หรือ 50 อัพ นั่นจึงจะมีจริงไหมโค้ชแนม

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ใช่เพราะทำงานแล้วมีรายได้

กมลเวช เมืองศรี:

เพราะเราลงโฆษณา เราสามารถเจาะได้เลยว่า เป็นผู้หญิง ผู้ชาย การศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป มีความชื่นชอบในเรื่องของการทำธุรกิจจากที่บ้าน อายุ 35 40 หรือ 55 ยิ่งแคบยิ่งดีนะ เพราะเจาะกลุ่ม

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เลือกสถานที่ได้ด้วยนะครับ

กมลเวช เมืองศรี:

สมมุติเราอยู่กรุงเทพฯ อยากสร้างทีมจากกรุงเทพฯ เราก็เจาะ แต่กรุงเทพฯ

สมมุติเราอยู่เชียงใหม่ก็เจาะแต่เชียงใหม่ได้เลย ถ้าเราไม่เจาะกลุ่ม จะกลายเป็นว่าเราอยู่เชียงใหม่แต่ได้ทีมงานอยู่ปัตตานี ดูแลยากหน่อยนะครับ

ที่โค้ชแนมพูดมาถูกต้องเลยคือสามารถกำหนด target กลุ่มเป้าหมายได้หมด

ตอนนี้เรารู้กลุ่มเป้าหมายคือใคร เรารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เราต้องมาถามว่า ความท้าทายความเจ็บปวดปัญหาของเขาคืออะไร และสินค้าของเราจะแก้ได้อย่างไร

สมมุติว่าผมมี คอร์สสอนวิธีการใช้อินเทอร์เน็ตในการเข้ามาช่วยขยายธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ขายตรงประกันชีวิต ผมทำคอร์สนี้ขึ้นมาเพราะผมรู้ว่า

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของคนในวงการนี้คือ

  1. ทำการตลาดไม่ค่อยเป็น
  2. ไม่มีประสบการณ์
  3. ทำรายชื่อใหม่ๆไม่ค่อยเป็น

มีแต่รายชื่อเก่าๆ ที่ลิสต์แล้วจากบริษัทที่แล้ว แล้วก็โทรจนช้ำหมดแล้ว

พอบริษัทนั้นไม่สำเร็จก็เปลี่ยนบริษัท แล้วก็โทรหารายชื่อเดิม บริษัทที่ 2 ก็ไม่เวิร์ค ไปบริษัทที่ 3 ก็รายชื่อเดิม บางคน 10 บริษัท ก็ยังโทรรายชื่อเดิม

คำถามคือรายชื่อนั้นช้ำไหม โทรไปจนเขาไม่รับแล้ว

4.ท่านต้องพัฒนาและเรียนคอร์สอะไร?

เพราะฉะนั้น ผมก็เลยสร้างคอร์สขึ้นมา ว่าผมนั้นจะสอนให้เขาเนี่ย แทนที่จะออกวิ่งไล่ล่าคน กับกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่จำกัด จะทำอย่างไรให้ใช้อินเทอร์เน็ตในการสร้างรายชื่อ ให้คนเหล่านั้น ซึ่งเป็นคนไม่รู้จักด้วย ติดต่อเข้ามาหาเราเองอย่างน้อยวันละ 5-10 รายชื่อ โดยที่ถามเกี่ยวกับสินค้าของเรา 

อยากขายสินค้าได้ใช่ไหม เขาก็จะถามเกี่ยวกับสินค้า ถามเกี่ยวกับธุรกิจที่เราทำ แล้วก็ถามในคำที่เราอยากให้ถามมากเลยว่า อยากทำธุรกิจกับโค้ชแนมเนี่ยทำอย่างไร เคยโดนไหม

เชษฐวิทย์ สิงขร:

เคยโดนครับ

กมลเวช เมืองศรี:

ลองเล่าประสบการณ์ให้ผู้ฟังฟังหน่อยว่า จากการที่เราแค่เรียนการตลาดที่มันเวิร์ค แล้วชีวิตเปลี่ยนอย่างไร

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ สมัยที่ทำธุรกิจเครือข่ายแรกๆนะครับ ก็ไม่มีใครแนะนำ หรือคนสปอนเซอร์เราไม่ได้แนะนำ ว่าทำธุรกิจนี้แล้วจะต้องทำการตลาด

เราก็ใช้วิธีที่เขาสอน สะเปะสะปะจนไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ผมได้มาเรียนรู้จากกูรูนะครับอาจารย์กมลเวชนี่เอง ว่าเราจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จเราต้องทำการตลาดเป็น ผมพึ่งมาได้ยินคำว่าทำการตลาด จากการที่ได้มาเรียนจากอาจารย์นั่นเอง

ทีนี้ผมเลยตาสว่าง ผมก็ใช้วิธีการทำการตลาด ทำตามทุกอย่างได้เรียนคอร์สของอาจารย์ จนทำให้ผมสามารถที่จะสปอนเซอร์ หรือมีทีมงานที่เข้ามาสมัครเอง จากธุรกิจเครือข่ายที่ทำในปีนั้นที่ทำเยอะมาก 

กมลเวช เมืองศรี:

ขึ้นตำแหน่งรับรายได้หลักแสน  ประเด็นก็คือกำหนดโปรไฟล์ของคนที่จะเข้ามาหาเราด้วยว่าจะเอาสูงแค่ไหน

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ถูกต้องและกำหนดเฉพาะที่ด้วยว่าที่ไหนที่เราจะไป เปิดธุรกิจที่จังหวัดนี้ เราสามารถกำหนดได้

กมลเวช เมืองศรี:

สมมุติว่าโค้ชแนมไม่ใช่คนที่มีอาชีพ อยู่ในระดับสูงของสังคมคืออาชีพทั่วไป แต่เราสามารถสปอนเซอร์ คนที่มีอาชีพที่เรียกว่าได้รับการยกย่องได้เยอะ เช่น นักธุรกิจระดับสูง เป็นทนายความ เป็นคุณหมอแม้แต่เราที่ไม่ได้มีอาชีพเหล่านั้น เราก็สามารถสปอนเซอร์คนเหล่านั้นได้จริงไหมครับ

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ใช่ครับเราสามารถสปอนเซอร์คนเหล่านั้นได้

กมลเวช เมืองศรี:

คนเหล่านั้นถือว่าเป็นคนที่มี high profile และมีศักยภาพสูง เพราะฉะนั้นเวลาเข้ามาธุรกิจก็ขยายต่อง่าย มากกว่าสปอนเซอร์คนที่มีศักยภาพต่ำมากๆ ไม่รู้จักใครเลยเงินไม่มี งานไม่มีไม่กล้าทำอะไรเลย ทำไมเราชอบสปอนเซอร์กลุ่มคนเหล่านี้ เพราะเราไม่รู้อะไรมากกว่านั้นถูกไหม

เชษฐวิทย์ สิงขร:

ธุรกิจที่ผมทำเนี่ย ก็มีกระทั่งคุณหมอ เป็นอาจารย์ ที่มาสมัครทำร่วมธุรกิจกับเรา นั่นคือสิ่งที่เราได้รับจากการทำการตลาดเป็น

กมลเวช เมืองศรี:

แสดงว่าวิธีการทำการตลาดที่โค้ชแนมใช้ มันทำให้คนนั้น รู้จัก ชอบเชื่อถือ และศรัทธา จนกระทั่งตัดสินใจควักเงินเข้าร่วมธุรกิจเ พื่อที่เขามีความหวังว่าเข้าร่วมกับเรา เขาจะได้เรียนรู้วิธีการที่เวิร์คของเราด้วย

เพราะฉะนั้นเราจะกลับมาตอบคำถาม คำถามที่ 2 ว่า แล้วเราจะทำการตลาดเครือข่ายอย่างไร ให้เวิร์ค เหมือนกับการขายสินค้า

คนส่วนมากที่ไม่รู้อะไรที่ดีกว่านั้น มักจะเอาธุรกิจเครือข่ายไปนำเสนอ เหมือนกับการขายสินค้า

มีธุรกิจมาขายแบบนี้ สินค้าแบบนี้ เอามากองอธิบายแผนจะได้เงินเท่านี้ ผู้นำขณะนี้ บริษัทเปิดมาแล้ว 20 ปีขยายไปทั่วโลก 58 ประเทศ คงได้ยินกันมาหมดแล้ว

อันนี้เรากำลังนำเสนอธุรกิจขายตรง เหมือนกับนำเสนอขายสินค้า เหมือนนำเสนอวิตามิน ครีม ถามว่าได้ผลไหม มันก็ได้ผลแต่มันมีวิธีที่ดีกว่าเยอะ เห็นด้วยไหม

วิธีนี้เราเรียกว่า การตลาดดึงดูดหรือ attraction Marketing ซึ่งเรานั้นเปิดสอนอยู่ในคอร์สที่ชื่อว่า MLM attraction blueprint 2.0 แล้วก็คอร์ส Top Sponsor Formula

ซึ่งเราสอนวิธีการครับว่า จะทำอย่างไร ให้เราเข้าใจวิธีการทำการตลาดเพื่อให้คนรู้จักเรา เป็นวงกว้างด้วยนะ เป็นเหมือนเซเลบ ชอบเรา โดยที่เราไม่รู้จักเขาเลยนะ เชื่อถือศรัทธาเรา โดยที่เมื่อเราเปิดโอกาสให้เขาเข้าร่วมธุรกิจ เขาก็จะร่วมทันที

เพราะฉะนั้นวิธีนี้ เมื่อเราสอนแล้วว่า จะต้องทำการตลาดอย่างไร เสร็จแล้วพอเรา เข้าใจทำให้คน เชื่อถือศรัทธาจนเขาพร้อมจะสมัครทำธุรกิจ เราจะเอาไปผนวกกับการตลาดออนไลน์ การตลาดดึงดูดบวกกับการตลาดออนไลน์ ก็เท่ากับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

เพราะเราสามารถขยาย จำนวนคนที่จะมารู้จักชอบพอกับเรา เชื่อถือเรานั้นได้เป็นจำนวนกว้าง เราสามารถทำให้คนติดตามเราในโลกโซเชียลมีเดียเป็นพันเป็นหมื่นคน

ซึ่งเวลาที่ท่านต้องการผลลัพธ์ในธุรกิจเครือข่าย ท่านไม่ต้องการคนเป็นหมื่นคนหรอกจริงไหม แค่เดือนนึงมีคนใหม่มา 10 คน ท่านก็จะแทบจะเป็นลมแล้วนะ 10 คนที่ดูแลแทบจะไม่ไหวแล้ว

เพราะฉะนั้นการตลาดแบบนี้มันทรงพลังมากเลยโค้ชแนมก็น่าจะเคยเห็น ตอนที่ผมทำการตลาดครั้งหนึ่งตอนที่เราเริ่มต้น ตอนนั้น ผมทำการตลาดมาพักใหญ่แล้วทำการ branding โพซิชั่นนิ่งตัวเอง ผ่านโลกออนไลน์ที่สอนในคอร์ส MLM attraction blueprint แล้วผมก็เริ่มสื่อสารกับคนในลิสรายชื่อของผม ที่เขาติดตามผม

ผมส่งอีเมล 1 ฉบับว่าผมกำลังจะเปิด รับหุ้นส่วนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในทีมความสำเร็จของเรา โดยผมได้เข้าร่วม ทำธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยถ้าท่านต้องการ กรอกรายชื่อกรอกรายละเอียดผมจะให้ข้อดู ข้อมูลทางธุรกิจ? 

เมื่อเขากรอกผมก็ให้ดูเขาอาจจะมาดูแบบเจอตัว หรือดูผ่านโลกอินเตอร์เน็ตก็ตาม แต่หลังจากดูเสร็จปุ๊บ ผมบอกเลยผมรับ 20-30 คนหรือ 50 คนเท่านั้น เพราะผมต้องการสร้างทีมนี้ให้ประสบความสำเร็จ

แต่ผลปรากฏว่าตอนที่เราเริ่มรับสมัครจริงๆ จำนวนคนที่มา 130 คน ที่พร้อมจ่ายเงินทำธุรกิจทันทีในราคาตอนนั้น 37,000

เพราะฉะนั้น ทุกท่านครับเราสองคนเคยไม่ประสบความสำเร็จ ในธุรกิจเหล่านี้มาก่อน เราเป็นเหมือนท่านนั่นแหละ แต่เราทำสิ่งที่แตกต่างจากท่าน คือเราเรียนในสิ่งที่เราไม่รู้ เราพัฒนาตัวเองในทักษะที่สำคัญที่สุดก็คือ การทำการตลาด

เพราะฉะนั้น ถ้าทุกท่านอยากได้ ผลลัพธ์แบบนี้ โฟกัสในการพัฒนาตัวเองเป็นหลัก เรียนว่าทำอย่างไร เราถึงสามารถที่จะทำให้คนอยากซื้อสินค้า หรือว่าสมัครทำธุรกิจกับเรา แล้วชีวิตท่านก็จะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย เหมือนกับที่เราเปลี่ยนแปลงมา ผมเชื่อว่าผมตอบคำถามชัดเจนแล้วครับ

ท่านสนใจอยากที่จะเรียน เหมือนกับที่เราเรียนนะครับ คอร์สชื่อว่า MLM attraction blueprint ท่านสามารถที่จะคลิกที่ลิงค์เข้าไปดูรายละเอียดได้ แล้วก็อย่าลืมนะครับดูคลิปนี้แล้วมีประโยชน์ แชร์ให้เพื่อนของท่าน แชร์ให้คนที่ท่านรัก ได้มารู้ข้อมูลนี้ด้วยแล้วก็กด Subscribe กดสั่นกระดิ่งด้วยนะครับเพื่อที่จะได้รับข่าวสารจากเราไปตลอด สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับ


ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าของท่านได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ

แด่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของท่าน!


kamolwech-chetthawit

เชษฐวิทย์ สิงขร & กมลเวช เมืองศรี

MLM Attraction Blueprint 2.0

"ในที่สุด! วิธีที่ง่ายกว่า
ในการชวนคนเข้าร่วมธุรกิจ ที่ไม่ถูกปฏิเสธ
ไม่สูญเงิน เวลาและแรงงานของท่าน
วิ่งไล่ล่าผู้มุ่งหวังคุณภาพแย่ๆอีกต่อไป"


"นี่คือสุดยอดวิชาที่ผมใช้สร้างธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตมีรายได้ 7 หลัก โดยไม่ต้องโทรชวนคนไม่รู้จัก หรือขอร้องญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอีกต่อไป ...และผมอยากจะเปิดเผยให้ท่านได้รู้ด้วยว่า..."

กดแชร์เก็บไว้อ่านหรือแบ่งปันได้ที่นี่
Click Here to Leave a Comment Below 0 comments