by เชษฐวิทย์ สิงขร | Jan 25, 2019 | ธุรกิจเครือข่าย , วิธีสปอนเซอร์
ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่
วีดีโอ “วิธีชวนคนมาดูโอกาสธุรกิจเครือข่าย MLM”
หนังสือเสียง “วิธีชวนคนมาดูโอกาสธุรกิจเครือข่าย MLM”
การเชิญคนมาดูโอกาสทางธุรกิจ คือ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งในการ “สร้างองค์กรธุรกิจเครือข่ายให้มีขนาดใหญ่และประสบความสำเร็จ!”
ถ้าท่านกำลังสร้างธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจขายตรง ประกันชีวิต ที่จำเป็นที่จะต้องสปอนเซอร์ หรือเชิญคนเข้ามาดูโอกาสทางธุรกิจ
เพื่อที่จะได้สมัครทำธุรกิจ เพื่อที่จะเป็นหุ้นส่วนกับท่านแล้วละก็ การเชิญคนมาดูโอกาส คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ท่านเจอในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจเหล่านี้ใช่ไหมครับ
เพราะถ้าท่านเชิญคนเข้ามาดูโอกาสไม่ได้ ก็ไม่มีใครสมัครทำธุรกิจกับท่านอย่างแน่นอน เห็นด้วยไหมครับ
สารบัญเนื้อหา วีดีโอ “วิธีชวนคนมาดูโอกาสธุรกิจเครือข่าย MLM” หนังสือเสียง “วิธีชวนคนมาดูโอกาสธุรกิจเครือข่าย MLM” การเชื้อเชิญคนมาดูโอกาสทางธุรกิจ ตั้งคำถามให้เป็น พูดให้น้อย และพูดความจริง ปรับแนวคิดในการชวนคน ทำอย่างไรเมื่อโดนปฏิเสธ
วันนี้ผมจะแบ่งปันวิธีการเชิญคนเข้ามาดูโอกาสทางธุรกิจ ธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจขายตรง ประกันชีวิต ธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ที่จำเป็นจะต้องสร้างทีม หรือ สปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจ หรือแม้แต่อยากจะขายของให้ได้ นี่คือสุดยอดวิชา สุดยอดธุรกิจ สุดยอดโอกาสที่จะทำให้ท่านสร้างธุรกิจให้เกิดผลลัพธ์
คนจำนวนมากมี Mind set ที่ไม่ถูกต้องในการเชิญคนมาดูโอกาส ข้อมูลวันนี้จะทำให้ท่านเห็นวิธีการ เอาไปใช้แล้วเกิดผลลัพธ์ทันที
คนที่ไม่เข้าใจการเชิญคนที่เวิร์คนั้น เขาจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายในระยะยาวได้เลย ที่แบบระยะสั้น รับเงินก้อนใหญ่ แล้วธุรกิจไปต่อไม่ได้ เราไม่นับว่าประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย เพราะธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ประกันชีวิตที่ต้องสร้างทีม มันต้องสร้าง Passive Income ที่ไม่ทำก็ยังได้เงิน มีเงินงอกเงยทุกๆเดือน
การเชื้อเชิญคนมาดูโอกาสทางธุรกิจ
เรามาเริ่มกันเลยนะครับ ตอนนี้เป็นตอนที่ 3 ท่านยังไม่ได้ดูตอนที่ 1 และตอนที่ 2 แนะนำให้ดูก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ตอนที่ 3 การเชื้อเชิญคนมาดูโอกาสทางธุรกิจ เราจะเรียกว่า การเชิญบุคลที่ 3
ข้อมูลในวันนี้เป็นข้อมูลที่ผมไม่ได้คิดเอง มันมาจากหนังสือ 10 Napkin หรือ การนำเสนอ 45 วินาที ขั้นนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
ถ้าท่านสปอนเซอร์คนไม่ได้ องค์กรท่านไม่โต ไม่มียอดขาย ไม่มียอดธุรกิจ สินค้าปล่อยไม่ได้ ไม่มีรายได้ เราจะต้องโฟกัสไปในเรื่องเชื้อเชิญบุคคลที่ 3
มันคืออะไร มันคือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ท่านจำเป็นจะต้องทราบว่ามันคืออะไร และ มันทำอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าผมรู้จักกับเพื่อนของผม ชื่อสมชาย ผมอยากจะสปอนเซอร์เขา สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะให้ท่านคิดตาม คือ คนส่วนมากพอไปถึง และยังไม่ได้รับการสอนมาก่อนก็จะเข้าไปชวนเลย
สมชายฉันมีธุรกิจใหม่ สุดยอด เดี๋ยวเราจะรวยเป็นล้านกัน เดี๋ยวมาสมัครแล้วทำกันเลย แกอยากทำกับฉันไหม แกอยากมีชีวิตที่ดีไหม
สมชายก็จะถอยเลย กลัว เอ๊ะ อะไรเหรอ อะไรๆ สมชายก็จะแบบ อืม มาเป็นชุด ไปทำกันเถอะเรารวยแน่นอน แล้วเราก็คาดหวังว่าสมชายจะตอบว่า ทำแน่นอน เพราะเราตื่นเต้นมากและเราก็ชวน แล้วเราก็พูดในสิ่งที่เราคิดว่ามันเวิร์ค
แต่สิ่งที่ได้กลับมามากกว่า 95-97% สมชายจะพูดว่า คิดดูก่อน หรือ ไม่สนใจ ท่านได้ผลลัพธ์แบบนี้รึป่าว ???
นั้นเป็นเพราะคนที่ไปชวนนั้นยังไม่มีทักษะในการชวนคนที่เวิร์ค ถ้าเป็นผม แล้วเรียนรู้วิธีการที่เวิร์คแล้ว ผมจะไม่เข้าไปหาสมชาย แล้วพูดแบบเมื่อกี้
หรือว่า พุดว่า “สมชาย คุณอยากมีรายได้เพิ่มไหม” ผมจะไม่พูดแบบนี้เด็ดขาด จะไม่ถามเขา เหมือนให้เขาเป็นบุคคลที่ 2 ผมเป็นบุคคลที่ 1 กำลังถามบุคคลที่2 ว่า เฮ้ยยย a b c x y z อยากมีรายได้เพิ่มไหม ถามตรงๆเราจะไม่พูดแบบนั้น เพราะถ้าเขาตอบมาว่า “โอ้ ผมต้องการรายได้เพิ่มใจจะขาด” คนที่เราไปถามนั้นเขาจะรู้สึกเสียหน้าทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยของเราที่มีเรื่อง ยศฐา บันดาศักดิ์ ติดมาตั้งแต่อดีต เรื่องหน้าตาสำคัญมาก ไม่มีเงินไม่เป็นไร ต้องแต่งตัวดี ดูดี
เพราะฉะนั้นสมชายจะไม่บอกว่า “โอ้ ผมต้องการรายได้เพิ่มใจจะขาด” เพราะเขาจะรู้สึกเสียหน้าทันที และรู้สึกดูไม่ดี ถ้าท่านไปถามเขา ใครบ้างไม่อยากมีรายได้เพิ่ม
ผมจะทำให้ท่านได้เห็นว่าธรรมชาติของมนุษย์ 99.99% ต้องการรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น แต่ถ้าเราไปถามตรงๆ หรือโดนถาม ธรรมชาติแล้วเราจะกลัวดูไม่ดี กลัวคนรู้ว่าฉันมีปัญหาเรื่องเงิน
เราไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเรามีปัญหาเรื่องเงิน ถึงแม้ว่าหนี้ยังไม่พอจ่าย เงินเดือนชนเดือน เขาจะตอบกลับมาว่า “ไม่หละครับ ขอบคุณมาก” ทั้งๆที่ใจอยากรู้แต่เพราะเราถามไม่เป็น
ตั้งคำถามให้เป็น
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เขา แต่อยู่ที่เรา เพราะเราไม่เข้าใจมนุษย์
ธุรกิจเครือข่ายหรือทุกธุรกิจบนโลกนี้ สำคัญมากเราจะต้องเข้าใจพฤติกรรม ความคิด การกระทำ ของมนุษย์ ถ้าท่านเข้าใจท่านจะเอาชนะได้ทุกตลาด
แต่ถ้าท่านไม่เข้าใจ ทำอะไรก็ขายไม่ได้ ชวนไม่ได้ ถ้าท่านเข้าใจว่าคนกลัวเสียหน้า กลัวดูไม่ดี แล้วท่านจะทำสิ่งนั้นทำไมถ้ามันทำให้คนตอบรับน้อย
ทำไมท่านไม่ทำในสิ่งที่คนตอบรับมากๆ และไม่ทำให้เขารู้สึกว่า เขาดูไม่ดี เพราะฉะนั้นคนส่วนมากจะมีทัศนคติอย่างที่ผมบอก
แต่สิ่งที่ผมจะทำก็คือ ผมจะเข้าไปหาสมชาย และถามสมชายว่า
“สมชาย ผมพึ่งเริ่มธุรกิจของตัวเองและผมตื่นเต้นมาก บางทีคุณอาจช่วยผมได้ คุณพอจะรู้จักใครบ้างไหม ที่อยากมีรายได้เพิ่ม หรือ สนใจที่จะเริ่มธุรกิจที่สอง” นี่คือบทสนทนา หรือ คำถามที่เวิร์ค
คนที่ทำธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆจะไม่เข้าใจว่า เราจะต้องเริ่มต้นด้วยคำถามเสมอ เขาจะยัดเหยียดข้อมูล ขาย ขาย ขาย ทั้งที่ได้รับการเตือนแล้วอย่าขาย
แต่เขาพูดไม่เป็นไม่มีใครสอนเขาไง พอเขาไปถึงเขาก็เลย แนะนำๆ เชิญๆ ชวนๆ และก็สอนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆทำแบบนี้มันจะโต ยั่งยืนได้ยังไง
ในเมื่อสอนให้ทีมงานไปเจอของยากตลอด ดูสคลิปนี้และฝึกพูดไปพร้อมๆกัน “สมชาย ผมพึ่งเริ่มธุรกิจของตัวเองและผมตื่นเต้นมาก บางทีคุณอาจช่วยผมได้ คุณพอจะรู้จักใครบ้างไหม ที่อยากมีรายได้เพิ่ม หรือ สนใจที่จะเริ่มธุรกิจที่สอง” นี่คือคำถาม ถามหาบุคคลที่ 3 ผมไม่ได้เจาะจงไปที่สมชายเลย
ผมถามถึง คุณพอจะรู้จักใครบ้างไหมที่มีรายได้เพิ่ม เห็นไหมครับว่ามันไม่ได้จี้ไปที่เขา แล้วทำให้เขาอึดอัด หาทางออกไม่ได้ และธรรมชาติของคนที่เคยหรือไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน ท่านจะเจอคำตอบเคยทำมาแล้วและไม่อยากทำ
ท่านจะต้องทำให้เขาค่อยๆ เปิดใจทีละนิด ทุกคำถามที่เราถามจะเป็นการแง้มใจเขาออก พอเปิดปุ๊ปท่านถึงค่อยเจาะใจเขาได้ แต่ปัญหาคือถ้าไปชวน แล้วไปขายเลย ท่านจะไปเจาะใจเขาได้ยังไง
เอาไปลองฝึกทำดู พูดคำถามนี้กับ 10 คนในชีวิต คนแปลกหน้า ทดสอบ ทดลองตลาด ไม่ต้องการผลลัพธ์ใครทำขอให้รวย ขอให้ประสบความสำเร็จ
แค่พูดบทสนทนานี้ สั้นๆ “คุณพอจะรู้จักใครสักคนไหม ที่อยากได้รายได้เพิ่ม” แล้วสังเกตปฎิกิริยาเขา มันจะตอบอะไรท่านหลายๆอย่าง และคนส่วนใหญ่จะตอบกลับมาว่า “มันคืออะไรเหรอ”
เหตุผลที่เขาถามกลับมาว่า มันคืออะไรเหรอ แทนที่จะตอบกลับมาว่า รู้ ไม่รู้ หรือ รู้จัก ไม่รู้จักให้ตรงคำถาม เป็นเพราะว่าเขารู้จักใครบางคนที่ต้องการมีรายได้เพิ่มเป็นอย่างดี และคนผู้นั้นคือ “เขานั้นเอง “ เขาอยากรู้ข้อมมูลเพิ่มว่าท่านกำลังพูดถึงอะไร เพื่อที่เขาจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เมื่อเขาถามว่า “มันคืออะไรหรอ” สิ่งที่ท่านต้องทำคือ “งดพูด” อย่าเพิ่งพูดอะไร ยิ่งทำให้เขาสงสัย หัวใจสำคัญที่สุดในการสร้างธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จ คือ การงดพูด เพราะเราจะหลง ลืมตัว พูด พูด พูด คือเราคิดว่า ยิ่งเราพุดมันยิ่งช่วยให้เขาอยากทำกับเรามากขึ้น ผมบอกเลย ไม่ใช่
ตั้งสติก่อนนะครับ ถ้าท่านไปชวนคนทำธุรกิจ แล้วเขามีท่าทีลังเล สงสัย แล้วท่านยิ่งพูดเพิ่มขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสที่เขาจะไม่ทำกับท่านมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามเวลาที่เจอคนไม่สนใจยิ่งพูดเยอะ ยิ่งเขาไม่สนใจยิ่งติดตามผลเยอะ
อันนั้นสวนทางเลยเป็นวิธีที่ผิด ที่ไม่เวิร์ค เพราะว่ามันจะทำให้ เอาง่ายๆ ยิ่งท่านพูดมากขึ้นหรือไม่ก็แบบจับเขานั่งลงแล้วพรีเซ้นต์ หรือพูดไม่หยุด ทั้งที่ท่านไม่เคยถามเขาเลยว่าอยากฟังไหม ดูไหม ในขณะที่ผู้มุ่งหวังยังไม่รู้เลยฉันมาทำอะไรที่นี่ ถามฉันบ้างไหมว่าฉันอยากดู อยากฟังไหม
พูดให้น้อย และพูดความจริง
หลายๆบริษัทอบรมผู้จำหน่ายเลยครับ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ซึ่งการกระทำแบบนี้ผู้มุ่งหวังจะเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก คิดว่าท่านหลอกเขามา คือ ท่านไม่พูดอะไรเลย ลากเขาดูเลย หรือแม้แต่บางคนหลอกให้มาดูแบบ พวกเราเดี๋ยวไปกินข้าวกัน เดี๋ยวแวะตรงนี้หน่อย แล้วก็นั่งลง แล้วก็ยัดเยียด นี่เป็นวิธีการที่สิ้นคิด
ทำไมอัพไลน์ไม่เรียนรู้สักหน่อย แล้วก็สอนสิ่งที่เวิร์ค มันทำให้เขาสูญเสียความสัมพันธ์กับคนที่เขาเชิญมาเลยนะครับ ความสัมพันธ์อาจจะมีมา 10 20 30 ปี
จะเป็นเพื่อนกินหรือเพื่อนตายก็เถอะพอรู้ว่าท่านหลอกมาฟังอะไรก้ไม่รู้ ทั้งๆที่ท่านควรจะพูดตรงๆ ท่านว่าแค่จะสร้างธุรกิจจำเป็นต้องทำอะไรขนาดนี้ไหม หลอกเลยเหรอ ทั้งๆที่ท่านไม่รู้ว่าหลอก
แต่ท่านถูกคนที่ชวนท่านทำธุรกิจ บอกให้ทำวิธีนี้ แล้วท่านก็ทำ แล้วท่านไม่รู้หรอกว่าคนที่ถูกชวนมาโดยไม่บอกอะไรเลยเนี้ย เสียความรู้สึกแค่ไหน ใครบ้างเคยโดนชวนแบบนี้ ไปแล้วเสียความรู้สึก
ผมเคยโดน ขนาดว่าทำมา 15 ปี มีคนรู้จักเชิญมากินข้าว อยากพูดคุย อยากปรึกษาเรื่องธุรกิจด้วยแล้วก็เชิญผมไป ซึ่งธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจที่ดีมาก แล้วก็เชิญให้ไปคุยกับอัพไลน์ใหญ่ของประเทศ ผมไปถึง ก็ งง เอ๊ะอะไร ไหนบอกกินข้าวไง แล้วมาเชิญผมนั่งลง แล้วก็หัวเราะ แฮร่ๆ แนะนำให้รู้จักอัพไลน์
ผมก็รู้จักเขาอยู่แล้วแหละ แล้วไงอะ ผมไม่ได้อยากมานั่งฟัง ผมอยากมาเจอ มาช่วยเขา ผมต้องนั่งฟัง 1 ชั่วโมงกว่า พุดอะไรก็ไม่รู้ ผมเป็นคนมีมารยาท และ ให้เกียติ สุดท้ายเขาไม่ได้ ความไว้ใจจากผมอีกเลย ตลอดชีวิต ไม่มีทางจะเชิญผมได้ และผมไม่ฟังอะไรจากเขาอีกเลย
คุณไม่จำเป็นต้องฟังแบบนี้กับผม พูดตรงๆก็ได้ ผมทำมาตั้ง 15 ปี ผมรู้ว่าอะไรคืออะไร นี่คุณหลอกเนียนมากเลย ต้องการความช่วยเหลือ ผมก็รีบไปเลย เขามีปัญหาต้องการความช่วยเหลือ ผมก็โอเค เห็นภาพไหมครับ มันไม่เวิร์คด้วยประการทั้งปวง และสูญเสียความเชื่อถือ เชื่อใจ ไปเลย อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด อ้าวววว แล้วต้องทำยังไง
เพราะฉะนั้น ถ้าท่านทำแบบนั้น ผู้คนจะจากท่านไปพร้อมคำว่า “ไม่” และเป็นภาพลบให้กับธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจเครือข่ายมีความเสียหาย เพราะมีคนทำแบบนี้ เลยเกิดผลลัพธ์แบบนี้ ให้กับธุรกิจไง
เรามาช่วยกันปฎิวัติ เรามาช่วยกันทำให้ธุรกิจเครือข่ายมันดีขึ้นด้วยการ เพิ่มทักษะในการตลาดที่เวิร์ค เข้าใจผู้คน ทำการตลาดให้ถูก วางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเหลือผู้คน ไม่ใช่จะเอาแต่ยัดเยียดขาย อยากได้เงินเขา ไม่ใช่
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านจำเป็นจะต้องทำหลังจากที่เขาถามว่า มันคืออะไรเหรอ คำตอบของท่านก็คือ “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายบ้างไหม”
เขาอาจจะตอบว่ารู้ หรือ ไม่รู้ ถ้าเขาตอบว่ารู้ ให้ถามเขาว่า เขารู้อะไรเพื่อเช็คดูว่าเขารู้จริงรึป่าว เพราะนี่เรียนมาแล้วนี่ไง 1 2 3 4 ตั้งแต่ธุรกิจมี 5 แบบ 2×2 การขยายเชิงลึกดีกว่าหน้ากว้าง เพราะฉะนั้นท่านจะต้องพออธิบายได้บ้าง ถ้าท่านอธิบายไม่ได้ท่านก็ซื้อหนังสือ หรือ เอาหนังสือให้เขา เมื่อเราถามแล้วเราจะทราบทัศนคติของเขาที่มีต่อธุรกิจเครือข่าย ให้เรา
พูดคุยถึงเรื่องทั่วๆไป เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย (ขอให้นำบทที่ 1 Introduction to MLM ไปใช้ในการพูดคุย)
ชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่ได้จากการมีส่วนร่วมในธุรกิจเครือข่าย
พูดถึงหลักการพลังทวีคูณในตอนที่ 1 (2×2 = 4 )
ถ้าเขาสนใจคุณอาจมอบหนังสือเล่นนี้ให้กับเขา แล้วบอกเขาให้อ่านบทที่ 1 – 4 ก็ได้ หรือส่งคลิปก็ได้
แล้วเขาจะเห็นภาพหมดเลยว่าเป็นสุดยอดธุรกิจ ทำแล้วมันร่ำรวยได้จริง เพียงแต่ว่าผู้คนน้อยมากที่จะทำ ถ้าเขากลับมาด้วยความสนใจที่อยากจะรู้ต่อ ให้ท่านนัดหมายกับเขาให้มาฟังข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ท่านเป็นตัวแทนอยู่ ฟังแผนรายได้ ฟังสินค้า ฟังระบบ งานที่ท่านมี
คุยให้เขาเข้าใจว่ามันใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นในการเล่าเรื่องราวทั้งหมด อย่าพยายามเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านรู้ ขณะที่เขากำลังเติมน้ำมันให้ท่าน หรือเขากวาดขยะ หรือว่าเขากำลังทำงาน หรือ ว่าเขาอยู่ในสายโทรศัพท์กับท่าน อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด
ปรับแนวคิดในการชวนคน
คนส่วนใหญ่กลัวที่จะพูดกับคนอื่นเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย ท่านกลัว กังวล และท่านไม่รู้จะพูดอะไร ยังไงให้เวิร์คไม่เคยฟังผมแบ่งปันมาก่อน
ผมจะบอกวิธีการในการพุดคุยกับคน วิธีสื่อสาร ผมจะให้ท่านได้รู้ถึงวิธีคิดของการเป็นนักธุรกิจเครือข่ายที่ประสบความสำเร็จให้ฟัง
นี่คือวิธีคิดอย่างไรให้รวย แล้วถ้าท่านทำได้แบบนี้ คิดได้แบบนี้ รวยแน่นอนการันตี
แต่ถ้าคิดไม่ได้ ฟังผมแบ่งปันต่อไปนี้แล้วคิดได้ ไม่สามารถเอาไปปรับใช้ได้ ยังคิดเหมือนเดิมไม่มีวัน ยาก
ถ้าท่านไม่สามารถถ่ายทอดไปให้องค์กรท่านด้วย เพราะท่านยังกลัวเองเลย ท่านจะไม่สอนให้เขาทำอย่างที่ท่านทำ ท่านต้องคิดให้เป็นว่ามันคือธุรกิจมันไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเลย
คนส่วนใหญ่กลัวที่จะพูดกับคนอื่นเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย และก็แนะนำให้กับผู้มุ่งหวังของเขารู้จักกับบริษัทที่เขาเป็นตัวแทนอยู่ คนส่วนใหญ่ที่กลัวนั้น กลัวที่จะได้ยินคำว่าไม่ No ไม่เอา ไม่สนใจ ไม่ทำ เคยทำแล้ว อย่ามาชวน หรือ เราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความกลัวที่จะถูกปฎิเสธ นั้นเอง เพราะฉะนั้นผมขอยกเหตุการณ์สมมุติเหตุการณ์หนึ่งให้กับทุกๆท่านได้อ่าน
สมมุติว่า มันมีงานเต้นรำของนักศึกษาจบใหม่ ที่ผู้ชายผู้หญิงจับคู่กันไปเต้นรำ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แล้วท่านก็เป็นเด็กผู้ชาย คนหนึ่ง เพิ่งเคยไปงานเต้นรำเป็นครั้งแรก
แล้วท่านก็ตื่นเต้นมาก มันเป็นงานที่ไม่เคยเข้ามาก่อน เหมือนท่านกำลังเข้ามาในธุรกิจเครือข่าย มันตื่นเต้น มันสวยงามไปหมด มันต้องรวยแน่ๆ และท่านเข้าไปคงจะมีคนเต้นรำกับฉันเต็มไปหมดเพราะวันนี้ฉันคือ เจ้าชายสุดหล่อ จะแต่งตัวหล่อที่สุดในชีวิต
แล้วก็เดินไปหาเด็กผุ้หญิงคนหนึ่งที่เขาหมายตาไว้ น่ารักจังเลย สวยจังเลย เหมือนที่ท่านหมายตาว่าคนนี้คือผู้มุ่งหวังคนที่ใช่ แล้วก็ขอเต้นรำกับเธอ ผลปรากฏว่าเธอ ปฎิเสธ ช๊อคไหมครับ นี่แหละ เพราะเราคาดหวังว่า เขาจะตอบว่า เยส แต่สิ่งที่ได้คือ โน
เด็กผู้ชายคนนี้ก็เลยหันหลังกลับ พร้อมกับความคิดว่า “ฉันโดนปฎิเสธ” จากนั้นเขาก็ไม่เคยขอเด็กผู้หญิงคนไหน ในงานที่เหลืออีกประมาณ 1000 คนเต้นรำอีกเลย
โดนคนเดียวปฎิเสธ ไม่ขอใครอีกเลย เพราะคิดว่าโดนปฎิเสธ เขาคงจะรู้สึกว่า ขนาดที่ว่าทุกคนในห้องมองเห็นเขาโดนปฎิเสธ และ เขาก็รู้สึกเสียหน้า จริงๆไม่มีใครมองเห็นเขาหรอก คิดไปเอง
โดนคนที่คาดหวังว่าจะทำ ปฎิเสธ เลยรู้สึกเสียหน้า เสียกำลังใจ และรู้สึกว่า ไม่อยากโดนปฏิเสธอีก เพราะไม่มีใครชอบโดนปฏิเสธหรอก เห็นด้วยไหมครับ
ท่านก็ไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นท่านต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก่อน ว่า คิดใหม่นะ เพราะถ้าหากเด็กผู้ชายคนนี้ เดินไปถามเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ อยู่มุมโน้น มุมนี้ และก็คนอื่นๆ และสุดท้ายแล้วเด็กผู้ชายคนนี้ จะได้เต้นรำกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ บ้างไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเขาต้องการเต้นกับ 5 คน คนที่อยากเต้นกับเขาเท่านั้น
เพราะว่าในบทก่อนหน้านี้ต้องการแค่ 5 คนจริงจังใช่ไหม ท่านว่าได้ หรือ ไม่ได้ ถ้าเขาถามทุกคนเลยว่าเต้นรำกับผมไหมครับ เหมือนกันรู้จักใครบ้างไหมที่อยากมีรายได้เพิ่ม รู้จักบ้างไหม แค่นั้นเอง ยังไงก็ต้องได้
เพราะฉะนั้นเพื่อที่จะให้ทุกๆท่านเอาชนะความกลัวที่จะโดนปฎิเสธ ผมอยากให้ทุกท่านได้เปลี่ยนความคิดของตัวเองเพื่อที่ท่านจะสามารถคุยกับคนอื่นให้ได้มากขึ้น การที่จะทำเช่นนี้ให้ท่านนึกถึงว่าตัวเองอยู่ที่ท่าเรือ
ท่านกำลังรอให้เรือของท่าน เข้ามา เพราะท่านเพิ่งจะส่งมันออกไป คือท่านเพิ่งถามคำถามนั่นเอง ถ้าท่านส่งเรือออกไปหนึ่งลำแล้วมันกลับมาด้วยความว่างเปล่ามันจะมีประโยชน์อะไรล่ะเห็นด้วยมั้ยครับท่านจะต้องส่งเรือออกไปปริมาณหนึ่งครับ
ยิ่งท่านส่งเรื่องออกไปมากเท่าไหร่ท่านก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับเรือพร้อมทองคำกลับมาเต็มเรือมากเท่านั้น
เรือทองที่ท่านต้องการร่วมงานด้วย กำลังจะเข้ามาหาท่าน แต่ถ้าท่านไม่เคยปล่อยเรือลงน้ำเลยแม้แต่ลำเดียวนั่นแปลว่าไม่เคยมีอะไรเลยในจิตใต้สำนึกที่ทำให้ท่านรู้สึกเจ็บปวดเลย
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากแต่มันดีมากยิ่งขึ้นหรือเปล่าว่าถ้าผมการันตีว่าท่านจะไม่มีทางเจ็บปวดจากวิธีที่ผม ได้แบ่งปันแม้แต่ครั้งเดียวท่านจะรู้สึกกล้าที่จะปล่อยเรือลงน้ำมากขึ้นก็คือกล้าที่จะถามคำถามมากขึ้นไหม
เพราะถามไปแล้วถ้า ไม่มีการตอบกลับว่าอยากดูสนใจอยากทำนี่ผมรวมไปถึงการสปอนเซอร์คนให้ดูโอกาสทางธุรกิจแล้วเค้าตอบปฏิเสธด้วยนะ
ถึงตอนนั้นเลยนะ เข้ามาแล้วบอกไม่เอา เพราะฉะนั้นท่านลองสังเกตวิธีในการปล่อยเรือที่ผมแบ่งปันนี้ครับ
ในการชวนคนนั่นแหละหากท่านถามใครบางคนว่า คุณรู้จักใครบ้างไหม ที่อยากจะมีรายได้เพิ่มแล้วถ้าเค้าตอบว่าไม่ครับผมไม่รู้จักใครเลยคนเดียวก็ไม่รู้จัก
ท่านสามารถพูดได้ว่า ไม่เป็นไรครับแต่ถ้าหากท่านบังเอิญพบใครที่ อยากมีรายได้เพิ่มบอกให้เขาติดต่อกลับมาหาผมนะครับแล้วก็ยื่นนำบัตรของท่านให้ไป หรือส่งลิ้งค์ของท่านให้ไป
เมื่อท่านทำแบบนี้ท่านก็หลีกเลี่ยงการโดนปฏิเสธได้แล้วแม้ว่าท่านจะทำในสเต็ปที่หนึ่งคือถามว่ารู้จักใครบ้างไหมเค้าบอกว่าไม่ผ่านก็บอกเลย ถ้าเจอใครที่อยากมีรายได้เพิ่มให้แอดเข้ามาในกลุ่มนี้นะหรือให้รับข้อมูลผ่านตรงนะถ้าเป็นเค้าก็พาเขาเข้ากลุ่ม
เพื่อที่เขาจะได้เห็นข้อมูลเรื่อยเรื่อยแต่ถ้าหากว่าขั้นตอนแรกเค้าบอกอยากดูแต่เค้ามาดูโอกาสทางธุรกิจแล้วดูแผน ดูสินค้าดูบริษัทแล้วแล้วเค้าบอกไม่ทันก็แค่บอกว่าไม่เป็นไรครับ
ถ้ารู้จักใครที่อยากจะมีรายได้แบบนี้บอกผมนะครับนี่สินค้าที่เรากำลังจะทำการตลาดกระจายไปทั่วประเทศถ้าผมทำสำเร็จผมน่าจะมีรายได้เดือนละ 1,000,000 ถึง 3,000,000 บาทต่อเดือน
และเหตุผลที่ผมบอกคุณก็เป็นเพราะว่าผมไม่อยากให้คุณมาว่าผมเมื่อตอนที่ผมประสบความสำเร็จจนมีรายได้เดือนละ 3,000,000 ว่าทำไม ไปเจออะไรดีดีแล้วไม่บอกผมนี่ผมบอกคุณแล้วนะให้คุณเห็นหมดทุกอย่างเลยแต่ว่าถ้าคุณไม่เห็นโอกาสหรือว่าคุณคิดว่ามันไม่ใช่สำหรับคุณจริงๆ
ทำอย่างไรเมื่อโดนปฏิเสธ
ผมก็ไม่มีอะไรที่จะแบ่งปันอีกเอาสินค้าไปทดลองใช้แล้วให้ฟิตแบคหน่อยนะว่าดีไหมว่าผมจะขยายได้ไหมแล้วก็ค่อยส่งระบบติดตามให้เขาและเชิญเขาเข้ากลุ่มหรือไม่ก็ทำให้เค้าเห็นข้อมูลว่าคุณพัฒนาขึ้นมีรายได้มากขึ้น
คนพวกนี้ทุกคนอยากอยากมีรายได้ทุกคนแต่เค้าเรียกว่า มีอีโก้มีการเป็นที่แบบไม่อ่ะฉันสบายดีแต่จะมีอะไรการันตีว่า 6 เดือนธุรกิจเขาจะไม่มีปัญหา ลูกจะไม่ต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น คนในบ้านจะไม่เจ็บป่วย เรื่องการเงิน
สุดท้ายแล้วเมื่อท่านเจริญเติบโตร่ำรวยมั่งคั่งเดี๋ยวเค้ากลับมาหาท่านเองท่านจะต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ในระยะยาว
นี่คือวิธีการคิดของผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจไม่ว่าใครทุกคนการัน
ตีคำถามสำคัญคือท่านคิดว่าตัวท่านเองสามารถพัฒนาทักษะทัศนคติแห่งความสำเร็จนี้ได้หรือไม่
แค่เปิดโอกาสให้กับผู้คนผมจะบอกวิธีการที่เหนื่อยิ่งกว่านี้ เคลียร์ตรงนี้ก่อนเพราะเมื่อท่านพูดอย่างที่ผมบอกเมื่อกี้นี้ผมเชื่อว่าท่านอยากฟังบทสนทนาเมื่อกี้อีกหลายรอบเลยว่า
เฮ้ยสมชายขอบใจมากเลยนะที่มาดูโอกาสซึ่งเราก็บอกนายแล้วไงตั้งแต่แรกแล้วว่ามันอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับนายก็ได้แล้วตอนนี้นายบอกว่าไม่เหมาะไม่มีปัญหาเลย
ที่เราบอกนายเพราะว่าเราอยาก ให้นายได้รู้ตอนนี้ดีกว่ามาว่าเราทีหลังว่า เฮ้ยเรามั่งคั่งร่ำรวยแล้วซื้อบ้านใหม่ซื้อรถใหม่มีเงินเต็มบัญชีแล้วนายจะมาต่อว่า ทำไมไม่บอกกันบ้างเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ขอบใจมากเลยเพื่อนแล้วเจอกันสบายสบายไม่มีปัญหาหรอกเรายังเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิมเราคุยกันได้ทุกเรื่องแต่ผมจะไม่คุยเรื่องนี้อีกเลยสุดยอด ไหมครับ
และไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน ถ้าเค้าบอกว่าไม่ อย่าตื๊อ อย่าโน้น นี้นั้น
ท่านต้องแลนดิ้งให้ลงมาก่อน แบบที่ผมบอกแลนด์สวยสวยดูดีมากแล้วทำต่อไปเมื่อท่านประสบความสำเร็จเค้ายังอยู่ที่เดิมเค้าจะเป็นคนนอนร้องไห้ทุกคืนแต่เวลาเจอหน้าท่านเค้าจะแบบ ยินดีด้วย
ท่านขับรถเบ้นซ์เค้าอาจจะยังรถมือสองคันเดิมที่ยังไม่เปลี่ยนเลย 15 ปีแล้ว
ผมจะเล่าวิธีการชวนคนวิธีที่หนึ่งให้ฟังแล้วก็ Mind set ในการที่จะคิดให้รวยให้ยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก
โดยที่จะสรุปเนื้อหาในตรงนี้ก่อนว่าหลังจากที่ท่านพูดแบบที่ผมพูดแล้วท่านจะไม่โดนปฏิเสธใดใดทั้งสิ้น พอท่านแค่เชิญเขามาดูโอกาส แล้วถ้าเขาบอกไม่ใช่ท่านก็แค่ปล่อยเขาไปแล้วก็หาคนใหม่ แค่นั้นเอง
การโดนผู้หวังปฏิเสธโดยที่เขาไม่มีข้อมูลอะไรสักนิดและเขาไม่คิดที่อยากจะรู้ด้วยซ้ำทั้งๆ ที่ท่านรู้สึกว่าสิ่งที่ท่านรู้มันน่าตื่นเต้นมันน่า สนใจ ธุรกิจนี้มันดีมากเลยทำไมไม่เข้าใจเลยทำไมไม่รู้เรื่อง
แต่เป็นเพราะว่าท่านไม่เข้าใจขั้นตอน ท่านไปพูดธุรกิจหนึ่งท่านไม่มีการแย้มประตูแง้มใจเขาก่อนท่านจะเชิญคน 100 คนท่านก็จะโดนปฏิเสธ 95 97 คนอยู่ดีอย่าให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดกับท่าน ทำอย่างที่ผมบอกเพราะถ้าท่านทำแบบที่ผมบอกมันจะมีแค่สองเหตุการณ์เท่านั้นที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่ท่านนั้นปล่อยเรือลงไปน้ำ ท่านแค่ถามคนออกไปคือถ้ามันไม่ลอยมันก็จมแค่นั้นเอง
มันหมายถึงอะไรมันหมายถึงผู้มุ่งหวังไม่รวยกับเราก็อาจจะไปรวยทางอื่นหรืออยู่ที่เดิมแต่เรายืนอยู่บนฝั่งเราไม่จมไปกับเขา
อย่าให้ Mind set ที่ไม่ถูกต้องมาทำให้ท่านโอ้ยฉันปล่อยเรือลงไปแล้วเรือมันจมฉันกระโดดน้ำตายตามตามเขาดีกว่านี่ไง Mind set ของคนที่ ทำธุรกิจเครือข่ายแล้วไม่ประสบความสำเร็จไม่ได้รับการพัฒนา Mind set
ท่านดูรูปนี้สิครับท่านอยู่บนฝั่งท่านจะแคร์อะไรเล่า ก็ปล่อยเรือออกไปใหม่ในเมื่อคนบนโลกนี้ 1,000,000,000 คน คนในประเทศไทยมี 70,000,000 คน
ในชีวิตท่าน ท่านต้องรู้จักอย่างน้อย 200 คน คนในอินเตอร์เน็ต ถ้าท่านยังจะสปอนเซอร์ท่านก็ต้องเรียนรู้จะมีให้คุย 25,000,000 คนท่านจะกระโดดน้ำตายเริ่มทำธุรกิจไปพร้อมกับพวกนี้ทำไมเล่า
วิธีคิดสำคัญสุดสุดเลย ท่านคิดเลยครับว่าท่านเกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้ ให้ทานคือเป้าหมายของท่านเหมือนอย่างผมทุกเช้าผม จะต้องให้ทานถ้าผมไม่ให้ทานไม่ให้อะไรออกไปผมจะไม่ทานข้าวเด็ดขาด
การให้ทานของผมคือผมจะมองหาว่ามีใครเดือดร้อนอะไรไหมในอินเตอร์เน็ตหรือรอบข้างผม ผมจะบริจาคเงินช่วยเหลือ สัตว์พิการหรือไม่ก็ผมจะให้ธรรมะเป็นทานผมถึงจะทานข้าวได้
เพราะฉะนั้นเมื่อผมตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไม่ทานข้าวเด็ดขาด ถ้าฉันยังไม่ได้ให้ทานผู้คน ท่านลองตัดสินใจดูครับว่าฉันจะไม่นอนเลยตั้งแต่เช้าจนเย็นเลยถ้าฉันไม่ได้ปล่อยเรือ 10 ลำ คุยกับคน 10 คน
ถ้าฉันไม่ได้ถามผู้คนโดยการแบ่งปันโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดของธุรกิจให้กับเขาส่วนเค้าจะเอาหรือไม่ เค้าจะเป็นเรือจมหรือเรือลอยมันเป็นปัญหาของเขา
ทำตัวให้เป็นแก้วน้ำที่ว่างแล้วใส่สิ่งที่ผมแบ่งปันลงไป ลดอีโก้ตัวเองลง แล้วชีวิตท่านจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกเลยลดอีโก้ของท่านลงแล้วรายได้ท่านจะเพิ่มขึ้น
เมื่ออีโก้สูงรายได้ก็จะต่ำ เมื่ออีโก้ต่ำรายได้ก็จะสูง กฎของการสร้างรายได้มันเป็นแบบนี้
ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ
แด่ความสำเร็จของท่าน
by เชษฐวิทย์ สิงขร | Jan 21, 2019 | ธุรกิจเครือข่าย , สร้างธุรกิจจากที่บ้าน
ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่
ถ้าท่านต้องการเรียนรู้ว่า จะสร้างองค์กรธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตยิ่งใหญ่ขยายตัวเรื่อยๆ และประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างไร
ข้อมูลในวันนี้ผมจะนำพาทุกท่านได้ไปดู ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 ซึ่งตอนแรกผมสอนไปแล้ว 4 ขั้นตอน ซึ่งถ้าทุกท่านยังไม่ได้ดูผมบอกเลยว่าพลาดมาก วันนี้เราจะมาต่อตอนที่ 2 กัน
ตอนที่ 2 ในการสร้างธุรกิจเครือข่ายให้มีขนาดใหญ่และประสบความสำเร็จเราจะเริ่มต้นในบทที่ 5
ท่านสามารถเลือกที่จะ อ่านบทความ หรือ ดูวีดีโอถ่ายทอดสด หรือดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 เพื่อฟังหนังสือเสียง ที่อธิบายอย่างละเอียดได้ที่นี่ทันที
กดดูวีดีโอ”วิธีสร้างองค์กรธุรกิจเครือข่าย ให้มีขนาดใหญ่และประสบความสำเร็จ”
กดฟังหรือดาวน์โหลดหนังสือเสียง”วิธีสร้างองค์กรธุรกิจเครือข่าย ให้มีขนาดใหญ่และประสบความสำเร็จ”
สารบัญเนื้อหา: บทที่ 5 เราต้องขุดให้ลึกถึงชั้นหิน ปรัชญาเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย บทที่ 6 เรือในทะเล คุณสมบัติของผู้ที่เป็นเรือทอง 3 คำ ที่สำคัญมากๆ
บทที่ 5 เราต้องขุดให้ลึกถึงชั้นหิน
การขุดให้ลึกไปถึงชั้นหินนี้ เป็นเนื้อหาต่อจากการขับรถไปถึงเชียงใหม่ในบทที่ 4
หลังจากที่ทุกท่านได้สปอนเซอร์คนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ท่านมีองค์กร มีทีมงานแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดอันดับหนึ่งในช่วงต้นๆ ก็คือ การเสียกำลังใจ และ การท้อถอยของคนใหม่เหล่านั้น
นี่คือปัญหาที่ท่านจะต้องเผชิญอย่างแน่นอน ถ้าท่านไม่สามารถทำให้เขารู้สึกว่า เขาสามารถเป็นผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ เดี๋ยวเขาจะตายไปออกไป
เพราะฉะนั้นในบทนี้ เราจะมาดูวิธีการทำยังไงให้เขานั้น สามารถเริ่มต้นได้ถูกต้อง และก็ไปต่อได้โดยที่ไม่ใช่สมัครมาแค่ 2 วันไม่รับโทรศัพท์ แล้ว 1 วันก็หายไปแล้ว หรือว่าพาเขามาสร้างธุรกิจเขาก็ไม่ยอมทำ นั้นคือปัญหาใหญ่ของท่าน ใช่ไหมล่ะ
เพราะฉะนั้นเพื่อให้ท่านได้เข้าใจในประโยคที่ผมแบ่งปันนี้นะครับ ผมขออนุญาตยกตัวอย่างเปรียบเทียบ
สมมุติว่ามันมีการวิ่งแข่ง วิ่งมีบุคคล 3 กลุ่ม กำลังวิ่งอยู่ กลุ่มแรกคือกลุ่มคนที่วิ่งช้า อยู่ด้านหลังสุดเลย กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่วิ่งเกาะกลุ่มกันอยู่ตรงกลาง และกลุ่มที่ 3 คือผู้ที่วิ่งเร็วและวิ่งอยู่ด้านหน้า
ผู้ที่วิ่งช้าจะพยายามวิ่งให้ทันกลุ่มกลางถูกไหมครับ ส่วนผู้ที่วิ่งเร็ว ก็จะพยายามรักษาระดับให้เขาอยู่ด้านหน้าเสมอ ไม่ให้คนที่อยู่ตรงกลางและคนด้านหลังแซงได้ ผู้ที่วิ่งช้าจะมองไปข้างหน้า แล้วก็พบผู้วิ่งเร็วกว่าเขาเต็มไปหมดเลย
พอเขาเห็นแบบนั้นเขาจะสูญเสียกำลังใจทันทีเมื่อรู้ว่าเขาไม่มีทางที่เขาจะวิ่งแซงกลุ่มหน้าได้อย่างแน่นอน สุดท้ายเขาอาจจะหยุดวิ่งหรือยอมรับในความผ่ายแพ้นั้น การปล่อยให้หุ้นส่วนในทีมของท่าน ที่ท่านสปอนเซอร์มาใหม่ที่ทำอะไรไม่เป็น เริ่มต้นธุรกิจของเขาเอง คือเขาสมัครมาแล้วท่านไม่ดูแลเขาในทางที่ถูกต้อง
การปล่อยให้เขาเริ่มต้นเองก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยให้นักวิ่งที่วิ่งไม่เป็นลงสู่สนามแข่งขัน เพราะฉะนั้นอย่าให้นักธุรกิจใหม่คนไหนสักคนนับเดือนที่เขาเข้าสู่ธุรกิจ จนกว่าเขาจะผ่านเดือนหรือว่าช่วงเวลาในการฝึกอบรมของเขาเสียก่อน ซึ่งแต่ละคนนั้นจะให้เวลาแตกต่างกันไป
ในการแข่งขันที่ดีนั้น นักแข่งควรจะได้รับการฝึกฝนให้เพียงพอซะก่อน เพราะฉะนั้นถ้าท่านได้อุปถัมภ์ใครหรือสปอนเซอร์ใครเข้ามา ท่านต้องบอกให้เขาทราบด้วยว่า อาจจะต้องใช้เวลา 2-6 สัปดาห์แรก เป็นช่วงเวลาในการฝึกอบรมเขา เดือนหน้าจึงค่อยเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากำลังจะได้อ่าน ได้ฟัง ได้ดู ได้เรียนรู้ ได้เข้าร่วมกับบริษัท เรียนรู้สินค้า เรียนรู้แผน ลองฝึกวิธีการเชิญคน ลองใช้ระบบแห่งความสำเร็จในการสปอนเซอร์ทั้งหมดนี้จะเป็นการฝึกอบรมให้เขาพร้อมเป็นคนที่วิ่งนำในเดือนที่เขาเริ่มออกวิ่ง
พอเดือนหน้ามาถึงแล้ว แล้วท่านยังพบว่าเขาก็ยังไม่พร้อม ให้บอกกับเขาไปเลยว่าเขาต้องการเวลาฝึกอบรมเพิ่มอีก ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งนับจำนวนเดือนในการเริ่มต้นทำธุรกิจนะ
เพราะถ้าเขายังไม่พร้อมที่จะเอาจริง เขายังไม่พร้อมที่จะลงมือเข้าเกียร์ 5 ครั้งเพื่อสปอนเซอร์คนอย่างจริงจังทุกวันเป็นระบบเราจะไม่นับวันเลยว่าเขาเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย
ถึงแม้เวลาเรียนของแต่ละคน บางคน 2 เดือน ยังไม่ทำอะไรเลย 3 เดือน 6 เดือนหรือเป็นปี เขายังไม่ทำอะไรเลย เขาก็ได้ชื่อว่าอยู่ในขั้นตอนในการฝึกอบรม
ท่านมีทีมงานกี่คนที่ท่านเคยสปอนเซอร์เข้ามาแล้วไม่เคยผ่านกระบวนการอบรมนี้เลย แล้วก็หายออกไปจากธุรกิจ เขามีอายุในการทำธุรกิจเครือข่ายจริงๆกี่เดือน คำตอบจริงๆคืออะไรครับ 0 เดือน
เขายังไม่ได้เริ่มอะไรเลยน่าเสียดายมาก และไม่ใช่คนกลุ่มนี้เหรอที่ออกไปแล้วทำชื่อเสียให้กับวงการธุรกิจเครือข่าย MLM ไม่ใช่เหรอที่บอกว่า ไม่เห็นได้อะไรเลย เนี้ยหลอกให้สมัคร
ประเด็นคือคนกลุ่มนี้แหละที่น่าอายมากเพราะอะไร เพราะจะไม่โทษตัวเขาเองว่าฉันมันไม่ได้เรื่อง ฉันเองที่เรียนเหยอะแหยะ ไม่เอาจริง เอาจัง ฉันเองที่คุยกับคน 1-2 ทำระบบอะไรต่าง ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันเองนี้แหละ
แต่ฉันโทษธุรกิจ โทษอัพไลน์ ที่ไม่ดูแล ท่านเคยเจอคนแบบนี้บ้างไหม คนแบบนี้แหละครับที่ทำให้วงการเสียชื่อ แต่อย่าไปสนใจ เพชรยังไงก็เป็นเพชร
ตราบใดก็ตามที่ใครมองว่าธุรกิจเครือข่ายมันเป็นสุดยอดธุรกิจที่ทรงพลังที่สุดอันดับหนึ่งของโลกระบบแข็งเกร่งที่สุด เดินหน้าต่อไป เพราะทุกวงการมีปลาเน่าอยู่แล้ว
เช็ดเขาตลอดว่าพร้อมรึยัง พร้อมวิ่งรึยัง เดือนนี้จะเริ่มเข้าเกียร์รึยังผมจะได้เริ่มต้นทำงานกับท่าน ในการแข่งขันครั้งนี้มีข้อดีคือ ทุกๆคนมีเส้นชัยเป็นของตัวเอง ทุกๆคนสามารถเป็นผู้ชนะได้ถ้าไม่ล้มเลิกไปซะก่อน
” ใครล้มเลิกไปก่อน คนนั้นแพ้ “
ปรัชญาเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย
มีปรัชญาอยู่ข้อหนึ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย ที่ผมเองก็ชอบมากๆคือ ใครล้มเลิกไปก่อน คนนั้นแพ้
ในธุรกิจเครือข่ายไม่มีคนล้มเหลวมีแต่คนล้มเลิก!
เพราะฉะนั้นถ้าท่านรู้ตัวว่าท่านไม่เคยผ่านขั้นตอนการฝึกให้ผ่านเลยจริงๆ สมัครแล้วก็โดดไปทำโน้น ทำนี่ เพราะท่านไม่โฟกัส ท่านไม่มีวินัยในการโฟกัส ท่านเลยทำธุรกิจเครือข่ายไม่สำเร็จ
หรือ ท่านอาจจะเห็นอย่างอื่นดีกว่าท่านเลยไปโฟกัสอย่างนั้น ลองเปลี่ยนโฟกัสมาที่ธุรกิจเครือข่ายสัก 2-3 ปีสิ ท่านจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินอีกตลอดไป
ใครที่ล้มเลิกไปก่อน คนนั้นแพ้ ท่านจะต้อง ยอมอดทน แล้วไม่ได้อะไรมากในช่วงเริ่มต้น แต่แทบไม่ต้องทำงานอีกเลยในอนาคต พร้อมกับทำเงินได้มหาศาล
อย่างนี้คุ้มค่าไหมในการเรียนรู้อย่างน้อย 6 เดือนแล้วไปทำให้มันประสบความสำเร็จภายใน 6 เดือน – 3 ปี สำหรับผมบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งในการนำเสนอผ่านกระดาษเช็ดปากของ ดอน เฟียล่า ซึ่งผมไม่ได้คิดเองนะครับ วิชานี้อยู่ในหนังสือที่ชื่อว่า การนำเสนอ 45 วินาที ที่จะเปลี่ยนชีวิตท่าน (หาซื้ออ่านได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป)
นี่คือสุดยอดหนังสือผมแค่เป็นคนที่ทำให้ท่านเข้าใจมันง่ายขึ้น และข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาเข้าใจในการนำเสนอแบบนี้ กับทีมงานของท่านคือ เมื่อท่านจัดอบรมสิ่งเหล่านี้ ท่านจะรู้สึกตื่นเต้นอัตโนมัติกับมันตลอด
การสร้างตึกสูงมันอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน ก่อนที่ท่านจะเห็นมันโผล่จากพื้นดินจริงไหม เวลาท่านเห็นเขาล้อมจะสร้างคอนโดเข้าจะล้อมกันใหญ่เลย แต่เมื่อมันโผล่จากดินแล้ว มันจะดูแบบสูงขึ้นเร็วมาก 1 ชั้นต่อสัปดาห์หรือ 2 ชั้นต่อสัปดาห์เลยทีเดียว แปปเดียวตึกนั้นสูงแล้ว เคยเห็นไหม
เพราะฉะนั้นท่านจะเริ่มสร้างอาคารหลังนี้ด้วยตัวเอง ลองนึกภาพตึกระฟ้าเหมือนดังองค์กรของท่านครับที่ท่านจะต้องมีมันแน่นอนในวันข้างหน้า สักวันใดสักวันหนึ่ง ลองคิดดูให้ดีครับว่าท่านจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่ท่านจะสร้างตึกระฟ้านี้สำเร็จ
เมื่อท่านเริ่มอุปถัมภ์ 5 คน ที่เขาพร้อมจะเอาจริงของท่านได้แล้วเรียบร้อย นั้นหมายความว่าท่านกำลังชุดดิน ลงไป หากท่านขุดลงไปลึกถึงชั้นหินชั้นที่ 2 ก็คือ ช่วยคน 5 คนให้มีคนละ 5
โดยการช่วยให้แต่ละคนของเขาสามารถสปอนเซอร์คนได้ทำให้ชั้นที่ 2 ของท่านมี 25 คน ตอนนี้เหมือนท่านได้นำรถแทคเตอร์ มาใช้งานแล้ว เห็นไหมว่าเครื่องมือมันต่างกัน ชั้นแรกจะมี 2 คน 3 คน 4คน 5 คน หรือ 1 คน ก็แล้วแต่ ท่านกำลังใช้เครื่องมือที่เป็นเสียมกับพรั่ว แต่พอองค์กรแตกลงไปลึกอีกชั้นหนึ่ง ท่านเริ่มใช้รถแทคเตอร์ แล้ว
และเมื่อท่านสอนคนของท่านให้รู้วิธีในการที่เขาจะสอนคนของเขา คนที่เขาอุปถัมภ์มา นั้นหมายความว่าท่านกำลังจะลงลึกไปถึงชั้นหิน ท่านเริ่มขุดรากฐานไปถึงชั้นหิน นั้นหมายความว่าท่านจะเห็นคน 125 คนอยู่ในชั้นที่ 3 ของท่าน
และเมื่อท่านเห็นคน 125 คน ในชั้นที่ 3 ของท่านเมือไหร่เท่ากับว่าท่านได้ขุดเจอชั้นหินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ท่านต้องการรถขุดขนาดใหญ่ เพื่อช่วยในการทำงาน เมื่อขุดลึกลงไปอีก หรือเมื่อท่านสร้างองค์กรชั้นที่ 4 ได้สำเร็จอาคารของท่านกำลังจะเริ่มสูงขึ้นจากพื้นดิน จะเริ่มมองเห็นอาคาร แล้วมันจะเติบโต
เมื่อท่านได้เริ่มเห็น 1 ใน 125 คนของชั้นที่ 3 ท่านก็ได้มาถึงชั้นหิน แล้ว
หากท่านอยู่ในธุรกิจเป็นเวลานานแต่ยังไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นเลย จงอย่าท้อใจ จงอย่าท้อถอยและอย่าล้มเลิกเด็ดขาด ท่านไม่ได้เกิดมาแพ้ใช่ไหม เลิกบ่น คนบ่นไม่มีทางสำเร็จในชีวิต ลุกขึ้นมาสร้างความสำเร็จ
อย่าล้มเลิกเด็ดขาด เพราะท่านกำลังสร้างรากฐานให้กับความสำเร็จ ธุรกิจของท่านอยู่ ถ้าท่านเลิกไปซะก่อน มันแสดงว่าท่านเป็นนักขุดทองที่ใช้เวลานานนับเดือนนับปีขุดเหมืองทองอยู่แต่ดันล้มเลิกซะ ตอนที่สายแร่ทองคำขาดหายไป เหลืออีกแค่ประมาณ 3 ฟุตเท่านั้นจะถึงเหมืองทองคำขนาดใหญ่
ท่านเคยฟังเรื่องราวเหล่านนี้ใน หนังสือคิดอย่างไรให้รวยไหมครับ อย่าเป็นคนแบบนั้น ทุกคนส่วนมากที่ล้มเลิกไปก่อน อีก 3 ฟุตเขาจะเจอทองคำทั้งนั้นเลยครับ
ภาพนี้จะให้เห็นถึงรากฐานของตึกที่ผู้สร้างใช้วิธีการสปอนเซอร์หรืออุปถัมภ์คนหน้ากว้าง 130 คน ขายเก่งมาก กลุ่มคนเหล่านี้เขาจะไปไม่ถึงชั้นหินแม้ว่า 130 คน จะออกไปอุปถัมภ์ 5 คนของเขา ถึงแม้จะทำสำเร็จทั้ง 130 คน
แต่ถ้าหากปราศจากรากฐานลึกถึงชั้นหิน ลึกลงไป 4ชั้นไม่ได้ อาคารนี้ไม่สามารถสร้างให้สูงได้ เพราะมันจะพังลงมาในที่สุด รากฐานมันไม่แน่นหนามั่นคงนั่นเอง
เพราะถ้าเปรียบเรื่องเซลล์แมน การขับรถจากกรุงเทพ ไป เชียงใหม่ มันคือการเข้าเกียร์ 1 มากเกินไป 130 ครั้ง มันทำให้รถเดินช้า และเขาก็จะอยู่แค่ในเกียร์ 2 และไม่สามารถหลุดจากเกียร์ 2 เลย
เพราะฉะนั้นจงศึกษาเนื้อหาในหนังสือ การนำเสนอ 45 วินาที ให้ละเอียดและเข้าใจ มันตอบทุกคำถาม บอกทุกวิธี ว่าจะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างไร แล้วท่านจะเข้าเกียร์สูงได้สำเร็จ
บทที่ 6 เรือในทะเล
มาถึงตอนนี้ท่านคงอยู่ในธุรกิจ 1-2 อาทิตย์ 2 เดือน หรือระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ก็แล้วแต่ที่จะทำให้ท่านจะเอาจริงและเริ่มเติบโตให้กับธุรกิจของท่าน
ในเวลานี้ท่านคงจะได้สปอนเซอร์ใครมาบ้าง หรือ ว่าอุปถัมภ์ใครเข้ามาในธุรกิจก็ตาม การนำเสนอในบทนี้จะสนุกมากถ้าท่านเอาไปใช้บรรยายโดยที่มีทีมของท่านอยู่ โดยแทนที่จะมานั่งคุยกันตัวต่อตัว
บทนี้ถ้าท่านอยู่กับทีมงานท่านต้องหยิบเอามาพูด มันจะทำให้ทีมงานของท่านถูกกระตุ้นทันที ในสังคมฝั่งตะวันตกจะมีคำพังเพยว่า เมื่อเรือของฉันมาถึง ซึ่งมันก็มีความหมายคล้ายๆกับสุภาษิตของคนไทยว่ารอให้ราชรถมาเกย
ตัวผมเองก็เคยได้ยินคนที่มองโลกในแง่ร้ายในวงการนี้ ก็จะพุดว่าได้เลยเดี๋ยวเมื่อเรือของฉันมาถึง ฉันก็คงจะนอนรออยู่ รอให้มันมาเอง แต่มันต้องอาศัยโชคหน่อยนะถึงจะมีราชรถมาเกย
มันไม่เกี่ยวอะไรกับโชคเลยครับในการสร้างธุรกิจให้สำเร็จ รอโชคให้ไปซื้อหวย ทำธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จยังง่ายกว่าการถูกหวยรางวัลที่ 1 อีก ในการทำธุรกิจเครือข่ายนั้นท่านสามารถทำให้เรือของท่านเข้าฝั่งมาหา และท่านจะอยู่ที่ท่าเรือนั้นเสมอๆเมื่อมันมาถึง
ผมอยากจะถามหลายๆท่านครับว่ามันจะเป็นยังไงเมื่อมีคนทิ้งเงินมรดกก้อนโตไว้ให้ ซึ่งความจริงแล้วโอกาสแบบนั้นไม่เกิดขึ้นกับทุกคนแน่นอน มันไม่มี มันอยากมาก แต่ผมเชื่อว่าเราจะสร้างมันเกิดขึ้นกับตัวเราเอง
แต่ในธุรกิจเครือข่ายเราสามารถสร้างให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราเองได้ นี่คือเหตุผลครับว่าทำไมผมถึงตื่นเต้นกับโอกาสในธุรกิจเครือข่าย
และเมื่อทุกท่านออกไปแบ่งปันกับผู้คน ท่านสามารถให้ความหวังกับเขาว่า เขามีสิทธิที่จะไม่ต้องทำงานไป 30-40 ปี ธุรกิจเครือข่ายสามารถทำให้ฝันของพวกเขาเป็นจริงได้ โดยที่เขาไม่ต้องรอถึง 30-40ปี
การมีเรือขนเงินที่เต็มลำ วิ่งเต็มกำลังเข้ามาหาท่านให้ท่านได้กอบโกยสมบัติต่างๆ เปรียบได้กับการที่ท่านไปถึงจุดสูงสุดในธุรกิจเครือข่ายที่ท่านกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็แล้วแต่
เมื่อเราสอนเรื่องนี้ให้กับทีมงานของเรา หรือ กับใครก็ตาม ให้ท่านวาดรูปเรือขึ้นมา 3 ลำขึ้นมา ที่กำลังวิ่งเข้าหาฝั่ง ท่านกำลังยืนอยู่บนฝั่งแล้วรอให้เรือของท่านนั้นวิ่งเข้ามา
เรือลำแรกให้เขียนคำว่าทอง ลำที่ 2 เขียนคำว่าเงิน ลำที่ 3 เขียนคำว่าว่างเปล่า
เรือลำนี้แสดงถึงลูกทีมของท่าน ไม่ว่าท่านจะอุปถัมภ์เขาโดยตรง หรือ เป็นทีมงานที่ถูกชั้นต่างๆอุปถัมภ์เข้ามาก็ตามเขาจะอยู่ตรงไหน ในสายงานของท่านก็ได้นะ ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกตรง
ท่านต้องการที่จะเข้าไปรับสินค้าที่บรรทุกมาบนเรือที่มาถึงฝั่งรึป่าวละ ถ้าแบบนี้เรือลำไหลละครับที่ท่านอยากให้มาถึงฝั่งเป็นลำแรก
ตอบง่ายใช่ไหมละ เรือทองนั้นเอง ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมละเราจึงมัวเสียเวลาไปทำงานกับเรือที่ว่างเปล่าอยู่ ท่านทราบไหมคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายส่วนมากไม่มีใครสอนเขา ว่าคนๆไหนที่ควรจะทำงานด้วยจริงๆ ส่วนมากเขาจะทำสะเปะสะปะไปทั่ว และทำกับเรือว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย แล้วสงสัยว่าทำไมฉันไม่ประสบความสำเร็จ
เรือทองเปรียบกับบุคคลที่ท่านนำเข้ามาธุรกิจ เขาเป็นคนที่เห็นโอกาส ต้องการเอาจริงเอาจัง กระตือรือร้น ไม่ต้องคอยอธิบาย 3 วัน 3 เดือนว่าธุรกิจเครือข่ายมันเป็นไปได้นะ เรือทองคือคนที่แบบต่อให้ท่านไม่ได้ดูแลเขา ปล่อยเขาเรือทองก็จะทำงานเอง
และพวกท่านก็คิดว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ และคิดว่าพวกเขาทำงานได้และทำงานเป็น จริงๆแล้วเรือทองของท่านอาจทำได้สำเร็จแต่ส่วนมากแล้วถ้าท่านปล่อยเขา เขาจะทำไม่สำเร็จ
เพราะมันปราศจากการสนับสนุนและการสอนให้ทำงานในแนวลึกแทนที่จะเป็นแนวกว้าง เพราะเขาไม่รู้และเขาขาดการอบรมในเรื่องทัศนคติ ในการสร้างองค์กรให้ใหญ่ และสำเร็จ
เขาจะทำงานแบบผิดๆ กลุ่มคนกลุ่มนี้ที่เป็นเรือทอง ถ้าท่านไม่ไปดูแลเขา เขาจะออกไปลุยสปอนเซอร์คนมา 5 คนแล้วท่านก็ตบไหล่เขา ละบอกว่าเยี่ยมไปเลย แล้วเขาก็หายไปอีก และสปอนเซอร์มาอีก 5 คน ท่านก็บอกเยี่ยมเลยเดี๋ยวเลี้ยงข้าวนะ
พอหันไปอีกที 5 คนแรกหายไปหมดแล้ว ตายหมดแล้ว ท่านยังบอกว่าเยี่ยมไปเลย
เพราะท่านไม่ใช่อัพไลน์หรือ สปอนเซอร์ที่ดี ท่านไม่เข้าใจ ว่าท่านต้องพาให้เขาเข้าใจว่าสร้างองค์กรในแนวลึก ให้พาคนที่ 1 2 ให้พาคนที่ 2 ให้เข้าใจ คนที่ 2 สอนคนที่ 3 สอนคนที่ 4 ได้
จริงๆแล้วมันสำคัญตั้งแต่เรา เมื่อเรามีรากฐานความเข้าในการสร้างที่ถูกต้องและเราถ่ายทอดให้กับทีมงานและถ่ายทอดให้กับเรือทองที่ถูกต้องเรือทองจะสร้างลึกๆๆๆๆๆๆ ยิ่งลึกยิ่งมั่นคง ยิ่งรวย
เมื่อท่านเจอเรือทองแล้วท่านอย่าพลาดเด็ดขาด ท่านต้องดูแลเขาตั้งแต่วันแรกให้เขาเข้าใจ อัพไลน์ที่ดีจะต้องช่วยเรือทอง เรือเงิน สปอนเซอร์ 5 คนแรกให้ได้พาเขาไปขยายลงลึก 5×5 = 25 อย่างนี้วินๆ เติบโตกันหมดเลย
เรือที่ว่างเปล่าเปรียบได้กับบุคคลที่เข้ามาในบริษัทหลายเดือนแล้ว แต่ท่านยังต้องพยายามตามอยู่นั้นแหละ พยายามอธิบาย พยายามถาม นี่คือพวกเรือว่างเปล่า มีประชุมก็หาย เข้ากลุ่มก็ไม่มีปฎิสัมพันธ์ ไม่ส่งการบ้าน ไม่มีรายชื่อ เราก็ตามเขาอยู่นั้นแหละ แทนที่เราจะเอาเวลาไปโฟกัสเรือทอง
แต่ถ้าเขายังอยู่ในธุรกิจ ยังซื้อกินซื้อใช้ แสดงว่าเขายังมีโอกาสแต่ว่า เขาอาจยังมีทัศนคติในแง่ลบ และก็ยังมีความท้อถอยง่ายเหลือเกิน นั่นคือคุณสมบัติของคนที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ อย่าให้คุณสมบัติแบบนี้อยู่ในตัวท่าน คิดลบ ท้อถอยง่าย
ส่วนมากคนที่ท่านพาเข้ามาในธุรกิจส่วนมากจะอยู่ในฐานะเรือเงิน การที่เขาจะกลายเป็นเรือทอง หรือเรือที่ว่างเปล่านั้น ขึ้นอยู่กับท่านว่าจะร่วมงานกับเขาอย่างไร ยิ่งท่านสามารถเปลี่ยนเรือเงินให้เป็นเรือทองได้เร็วเท่าไหร่ ท่านก็ยิ่งหาคนจริงจัง 5 คนได้เร็วเท่านั้น เห็นไหมไม่ต้องใช้คนเยอะ แต่ต้องมีขั้นตอนในการหา 5 คน จริงจังให้เจอ
คุณสมบัติของผู้ที่เป็นเรือทอง
แล้วท่านอยากรู้ไหมว่า คนไหนเป็นคนเอาจริง คนไหนเป็นเรือทอง
กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เขาจะโทรมาหาคุณบ่อยๆพร้อมกับมีคำถามมากมายเพื่อให้คุณตอบ
ต้องการความช่วยเหลือ เขาจะต้องการให้คุณไปกับเขาเพื่อไปช่วยอุปถัมภ์หรือ ฝึกอบรม
ตื่นเต้นกับธุรกิจ เขามีความเข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นเป็นไปได้ และน่าตื่นเต้น
ให้คำมั่นสัญญา ว่าเขาจะใช้สินค้าด้วยตัวเองและใช้เวลาเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ แผนรายได้ และบริษัทอย่างสม่ำเสมอ
มีเป้าหมาย เป้าหมายนั้นช่วยเป็นแรงขับคนให้ทำงานเพื่อบรรลุในสิ่งที่เขาต้องการ
มีรายชื่อ รายชื่อที่จะต้องเขียนออกมา เหตุผลที่ต้องเขียนรายชื่อออกมานั้นเพราะว่าคุณสามารถเพิ่มเติมรายชื่อได้ตลอดเวลาและคุณจะไม่ลืมรายชื่อเหล่านั้น
มีความสุข ที่คุณไปอยู่กับเขา เขาจะยินดีเมื่อคุณมาพบเขา ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ หรือพบปะสังสรรค์กันทั่วไป
มีทรรศนะคติที่เป็นบวก เราอยากอยู่ใกล้ๆ กับผู้ที่มีทรรศนะคติที่ดี เพราะเราจะมีความคิดที่เป็นบวกมากยิ่งขึ้น
3 คำ ที่สำคัญมากๆ
เปิดโอกาส
มีส่วนร่วม
เลื่อนฐานะ
นี่คือคำ 3 คำที่สำคัญมากๆในธุรกิจเครือข่าย สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปิดโอกาส ท่านต้องเปิดโอกาสให้กับผู้คนรู้ว่าท่านกำลังทำธุรกิจอะไร
ให้เขามีส่วนร่วมในธุรกิจ เมื่อเขามีส่วนร่วมอยู่สักระยหนึ่งเขาจะมีความคิดว่า เขาก็สามารถประสบความสำเร็จได้แค่ไหนในธุกิจนี้
และเขาก็จะเลื่อนฐานะ เมื่อเขาลงมือทำ มีคน เขาก็มีรายได้ มีตำแหน่ง
เมื่อท่านเดินทางไปหาเรือทองของท่าน เพื่อที่จะไปช่วย เขาจะมีความรู้สึกดี แต่ถ้าโทรไปหาเรือว่างเปล่าเขาจะคิดว่าคุณจะไปเอาอะไรจากเขาแทน เพราะพวกเขาเป็นคนคิดลบ และอยู่ในช่วงวอร์มอัพ จงปล่อยให้เขาเรียนรู้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเริ่มลงมือทำจงทำงานกับเรือทองเท่านั้น และใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนเรือเงินให้เป็นเรือทอง จงอย่าไปทำงานกับเรือว่างเปล่าเพราะเขา จะทำให้ท่านจมลงไปในทะเลด้วยอย่าโทรไปหาทีมของท่าน แล้วถามว่าตอนนี้ขายได้เท่าไรแล้ว เด็ดขาด เพราะเขาคิดในทางลบกับท่านทันที
จงจำไว้เสมอว่า ถ้าท่านต้องการผลลัพท์ จงช่วยให้ทีมงานมีผลลัพท์ก่อน
“ท่านสามารถได้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เมื่อท่านได้ช่วยคนจำนวนมากพอให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ” – ซิก ซิกลาร์
ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ
แด่ความสำเร็จของท่าน
by เชษฐวิทย์ สิงขร | Dec 11, 2018 | การพัฒนาตนเอง , สร้างธุรกิจจากที่บ้าน
ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่
ข้อมูลวันนี้จะเป็นข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ถ้าได้เรียนรู้ว่ามันมี 3 ทักษะ ที่ถ้าใครก็ตามได้ทำตาม และพัฒนาทักษะนี้ ชีวิตเขาจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย การันตีจากผลลัพธ์ที่เกิดกับชีวิตผมมาแล้ว และทุกท่านสามารถทำได้ด้วย
วีดีโอ “3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”
หนังสือเสียง”3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน”
สารบัญเนื้อหา วีดีโอ “3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน” หนังสือเสียง”3 ทักษะที่ต้องมีเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน” ทักษะที่ 1 ในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skill ทักษะที่ 2 ทักษะในการขยายธุรกิจให้โตขึ้น เรื่อยๆ ทักษะที่ 3 ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง
ท่านสามารถเลือกที่จะ อ่านบทความ หรือ ดูวีดีโอถ่ายทอดสด หรือดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 เพื่อฟังหนังสือเสียง ที่อธิบายอย่างละเอียดได้ที่นี่ทันที
ท่านเคยสงสัยไหม ทำไมผู้คน คนนั้น คนโน้น คนนี้ มีบ้านหลังละ 5 ล้าน 10 ล้าน มีรถราคา 1 ล้าน 3 ล้าน 5 ล้าน มีเงินในบัญชีธนาคาร มีชีวิตที่หรูหรา และเป็นชีวิตที่น่าใช้
ท่านเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเขาถึงสามารถทำได้ เขาเกิดมาแล้วรวยเลยรึเปล่า ผมบอกเลยครับว่า มีบ้างครับที่เกิดมารวยแต่ส่วนมากไม่ยั่งยืน เพราะว่าขาดสิ่งสำคัญที่ผมจะแบ่งปันในวันนี้
แต่ถ้าใครก็ตามเขาสร้างมันได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาที่บอกว่าเป็นชีวิตที่คิดไม่ถึง จะยั่งยืนมาก แต่ถ้าหากท่านอยากจะมีชีวิตที่คิดไม่ถึง อยากจะมีเหมือนเครื่องจักรผลิตเงิน ผลิตรายได้ ที่ทำให้ท่าน ตื่นก็เกิดรายได้ หลับก็มีรายได้ แล้วรายได้นั้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วละก็ นี่คือข้อมูลที่จะแบ่งปันในวันนี้
จากคำถามที่ผมได้ถามทุกท่านไปเมื่อสักครู่นี้ ท่านก็คงเคยสงสัย ผมการันตรีว่าถ้าท่านยังไม่เป็นเศรษฐีเงินล้าน ยังไม่ทำรายได้ ต่อปี หรือต่อเดือน เดือนละ 1 ล้านขึ้นไป ท่านต้องสงสัยแน่นอนครับว่าต้องทำยังไงให้ฉันมีรายได้ 7 หลักต่อเดือน ทุกเดือน มันทำให้ชีวิตคนหนึ่งคน ที่อยู่ในสถาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แสนหนึ่งถ้าใช้ แบบรู้จักใช้มันอยู่ได้ครับ
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ในทุกวิกฤติมีโอกาส เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะมาแบ่งปันในวันนี้นั้นไม่ได้พูดเรื่องลบ แต่ผมจะพูดในเรื่องที่ทำให้ท่านได้เห็นภาพครับว่า มันจะทำให้ท่านนั้นเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ยังไง
เมื่อผมได้เรียนรู้ 3 ขั้นตอนแห่งการเป็นเศรษฐีเงินล้าน นี้ การเป็นผู้ที่มีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือนนี้ ชีวิตของผมก็มีรายได้ 6-7 หลักต่อเดือนแล้วก็ต่อปีแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด 10 กว่าปีเลย ไม่เคยผิดพลาด ไม่ว่าจะหลับหรือจะตื่น เกิดรายได้ตลอด
ยิ่งพัฒนา 3 ขั้นตอนนี้ต่อไปๆ ยิ่งทำให้ผมนั้นลงทุนเงิน ลงทุนเวลา ลงทุนแรงงานน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเรามาดู 3 ขั้นตอนแห่งความสำเร็จให้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน หรือ เราเรียกว่าสามเหลี่ยมแห่งความสำเร็จกัน
ทักษะที่ 1 ในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skill
ทักษะที่ 1 ที่ผู้คนโดยส่วนมาก มากกว่า 95-97 % ยังไม่รวยและอยากจะรวย เป็นเพราะเขาขาดทักษะนี้ คือ
ทักษะในการสร้างรายได้ระดับสูง High Income Skill
ทักษะนี้สำคัญมากถ้าท่านไม่มีทักษะในการสร้างรายได้ระดับสูง นั้นหมายความว่าท่านไม่สามารถสร้างรายได้ระดับสูงได้ เห็นด้วยไหมครับ
รายได้ระดับสูงต้องเท่าไหร่ เราถึงจะเรียนกว่าท่านมีทักษะที่สามารถสร้างรายได้ระดับสูงได้ ถ้าจะเอาระดับเป็นเศรษฐีเงินล้าน ในเงินบาทก็ต้องมีรายได้สักประมาณเดือนละ 3 แสน
ถ้าท่านยังมีรายได้ไม่ถึงเดือนละ 3 แสน โดยที่ไม่ใช่จากงานประจำด้วยนะแต่เป็นการใช้ทักษะที่ทำให้ท่านเกิดรายได้สูง หรือ ที่เขาเรียกว่า หรือ ทักษะที่ทำให้มีรายได้สูงนั้นเอง
ที่ผมบอกคน 95-97%บนโลก ที่ไม่ว่าจะทำงานประจำอยู่ หรือ ว่าอยากรวยขึ้นมาในวันใดวันหนึ่งเห็นเขาโฆษณากันเต็มไปหมด ชวนทำธุรกิจในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นขายตรง ประกัน ธุรกิจ MLM ออนไลน์สารพัด ทุกอย่างโฆษณาหมดเลยว่า มาเลยรวยแน่นอน ธุรกิจอันนี้รวย ทำงาน อันนั้นก็ทำง่าย
ผมมีคำถาม ในธุรกิจเหล่านั้นเมื่อคนแห่เข้าไปทำ ให้เวลาผ่านไป 1-3 ปี สมมุติเข้าไปทำ 100 คน จะมีสักกี่คนที่เป็นเศรษฐีเงินล้านจริงๆและยังอยู่รอด ให้ทุกท่านลองตอบดู
จากธุรกิจที่เห็นกันเต็มไปหมดนี้ ไม่ว่าจะธุรกิจอะไรก็ตาม A-Z จะ MLM หรือไม่ MLM จะขายตรง หรือ ขายอ้อม จะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ถ้ามีคน 100 เข้าไปในธุรกิจเหล่านี้ผ่านไป 3 ปี จะอยู่แบบยั่งยืน 1-3% เท่านั้น
นั่นหมายความว่า 95-97% ตายเรียบ และท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็คงเคยมีประสบการณ์ตายมาแล้ว เห็นด้วยไหมครับ คือทำแล้วไม่สำเร็จนั้นเอง นี่คือความโหดร้ายในธุรกิจ โหดร้ายก็คือ เขาไม่รู้จริงว่าจะทำยังไงให้มันเวิร์ค
ทำไมคน 95-97 % ถึงไม่สามารถประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ก็เพราะเขาขาดทักษะในการสร้างรายได้ในระดับสูงนั้นเอง คนส่วนมากอยากรวย เจอธุรกิจปุ๊บ สมัครเลย ผมบอกเลยผิดขั้นตอน หวังว่าจะไปเรียนในธุรกิจ ซึ่งในธุรกิจเหล่านั้น ไม่ว่าจะธุรกิจเครือข่าย ขายตรงนั้นเนี้ย มีคนน้อยมากที่รู้วิธีการที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ จริงๆ
คน 95-97 % ไม่สามารถประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ก็เพราะเขาขาดทักษะในการสร้างรายได้ในระดับสูง
มีแต่โค้ชฝึกใหม่ ฝึกหัด เพิ่งทำธุรกิจมาเหมือนกัน พยายามมาสอน โดยใช้ความคิดของตัวเองมาแนะนำทั้งสิน โดยที่เขายังไม่เคยทำรายได้ 7 หลักมาก่อนเลย แล้วคนที่ไม่เคยทำรายได้ 7 หลักมาสอนคิดว่าเขาจะสอนอะไรล่ะ ก็สอนในสิ่งที่เขาคิดว่ามันใช่ ถ้าเขาทำรายได้ 5-6 หมื่นเขาก็ใช้วิธีการที่ทำรายได้ 5-6 หมื่นมาสอนนั้นเอง
เพราะฉะนั้นที่สำคัญมากคือ ถ้าท่านต้องการหลุดจากวงจรอุบาทของการทำธุรกิจอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่ลงทุนแล้วก็เสีย คนส่วนมากจะเลือกทำอยู่ไม่กี่อย่าง ส่วนมากก็ธุรกิจออนไลน์ MLM ขายตรง ประกันชีวิต
คนจำนวน 60-70 % จะเข้าไปในโอกาสธุรกิจเหล่านี้แล้วสิ่งที่เขาเจอคือ เจอปัญหา ไปต่อไม่ได้ ติดๆ ขัดๆไม่รู้จะไปขั้นต่อไปยังไง ไม่รู้ว่าชวนคนให้เข้ามาดูโอกาส ชวนยังไงให้เวิร์ค ไม่รู้ว่าเวลาเขาถามมา ควรจะตอบยังไง ไม่รู้ว่าเวลาโดนปฎิเสธจะรับมือยังไง
เข้าไปสมัครลงทุนทำธุรกิจไม่ว่าจะหลัก 100 1000 10000 100000 แล้วก็ติดปัญหา แล้วก็อาจจะเคยตายและเลิกทำไปแล้วด้วย เคยเป็นไหมครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมบอก นี่คือกับดักหรือว่าวงจรอุบาท ที่ให้คนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
การที่เรานั้นเนี่ยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องพัฒนาทักษะไหนก่อน แล้วกระโจนเข้าทำธุรกิจเลยไม่ว่าคนที่ชวนจะหน้าตาเชื่อถือแค่ไหน ไม่ว่าตัวธุรกิจจะน่าดึงดุดแค่ไหน รวยง่าย รวยเร็ว ผมบอกเลยว่าหลงทางทั้งนั้น
ธุรกิจรวยง่ายรวยเร็วหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าคนที่ทำไม่มีทักษะในการทำให้มีรายได้ระดับเงินล้านและไม่มีทักษะ ที่ 2 ที่ 3 ที่กำลังจะพูดต่อ เอามาประกอบกัน ไม่มีทางเลยที่คนๆนั้นจะรวยง่าย รวยเร็ว รวยนาน ยั่งยืนถาวร
ใครบอกว่ามีระบบที่ดี แค่สมัครเข้าไปก็รวย แห่กันสมัครเข้าไปแค่ 3 เดือนนี้ก็หมดยกนิ้วชู้นิ้วกัน 2-3 เดือนเงียบหมดไม่ว่าจะแบรนไหนก็ตาม เป็นแบบนี้หมดเลย แต่หลังจากที่ลองทำการตลาดแล้วมันไม่เวิร์ค ไม่มีคนทำกับฉันเลย เงินไม่พอที่จะทำให้ฉันไปต่อได้เลย ฉันเลิกดีกว่า ส่วนมากเป็นแบบนี้ทั้งสิ้น
แล้วทำยังไงให้เราหลุดจากวงจรอุบาทนี้ ถ้าเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เรียน ก่อน เรียนวิธีการสร้างธุรกิจที่เวิร์ค
ถ้าผมอยากเป็นนักธุรกิจที่มีรายได้หลักล้าน วิชาที่สำคัญที่สุด 2 วิชาที่ท่านจำเป็นจะต้องมี
Copy-writing คือ การขายด้วยตัวอักษร ด้วยการเขียน โฆษณา การเขียนหน้า Sell เขียนโพสต์ใน Facebook ทักษะนี้สำคัญมาก ถ้าอยากทำธุรกิจออนไลน์ให้สำเร็จต้องเรียนทักษะนี้ เขียนยังไงให้ถูกกลุ่ม เขียนยังไงให้มันแทงทะลุถึงหัวใจ ได้ใจคน
Closing คือ ทักษะปิดการขาย ในโลกออนไลน์ก็ต้องปิดการขาย จะออนไลน์ ออฟไลน์ ก็ต้องมีการปิดการขาย ถ้าท่านปิดการขายไม่ได้ท่านก็ไม่ได้เงิน นี่คือทักษะที่สำคัญมากๆที่ท่านจำเป็นต้องพัฒนา
การปิดการขายที่ทรงพลังที่สุดคือ การปิดการขายทางโทรศัพท์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทักษะน้อยที่สุดแล้ว ท่านสามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็มีสคริปที่ทรงพลัง แล้วก็โทร วางตัวให้ดี
ทักษะที่ 2 ทักษะในการขยายธุรกิจให้โตขึ้น เรื่อยๆ
ทักษะที่ 2 ท่านจะต้องขยายธุรกิจให้เป็น การขยายธุรกิจนี้คือ หลังจากที่ธุรกิจของท่านทำเงินแล้ว การขยายธุรกิจมันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่เจ้าของธุรกิจนั้นจะต้องโฟกัส และ ทำอยู่เสมอๆ
โดยที่ใครมีทักษะนี้ จะทำให้ธุรกิจโตขึ้นเรื่อยๆ แถมลดค่าใช้จ่ายลงไปอีก ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจสมัยก่อน เช่น เปิดร้านอาหาร นั่งได้ 100 คน ทำไงอยากให้ได้ 200 คนต่อวัน ต้องเปิดร้านใหม่ ลงทุนเยอะ
แต่ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจสมัยนี้ ธุรกิจออนไลน์มีคนเข้าเว็ปไซต์วันละ 1000 อยากให้เข้าวันละ 2000 ใช้การตลาดออนไลน์ช่วย ลงทุนต่ำกว่าการเปิดร้านอาหารใหม่ เห็นด้วยไหมครับ
ท่านจะต้องเอาเงินที่ท่านได้จาก High Income Skill มาทำขยายธุรกิจ
เมื่อธุรกิจของท่านทำเงิน ท่านก็เอาเงินเหล่านั้นมาทำการขยายธุรกิจต่อ อย่าเอาไปใช้ คนทั่วไปพลาด ซื้อบ้าน ซื้อรถ พอได้ค่าขึ้นตำแหน่งโชว์หรูเลย ซื้อบ้าน ซื้อรถ กันให้วุ่น นั่นคือหายนะ
เพราะธุรกิจเหล่านี้มันไม่ยั่งยืน ผมเห็นมาเยอะมากเลยที่นักธุรกิจที่ขึ้นตำแหน่งสูงได้ มีรายได้เยอะ มีชีวิตที่แย่กว่าตอนที่ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งอีก เพราะหนี้จากบ้าน หนี้จากรถ หนี้จากของใช้ส่วนตัวหรูๆ หนี้จากไลฟ์สไตล์ พยายามโชว์หรูเพื่อดึงดูดคน
จริงๆไม่จำเป็นต้องใช้ความหรูดึงดูดคน ใช้คุณค่าด้านอื่นก็ได้ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าการทำให้ดูรวยจะดึงดูดคนได้ จริงๆแล้วมันเปลืองมาก มันไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริง
คุณค่าที่แท้จริงต้องเป็นสิ่งที่เป็นคุณค่าจากตัวเขาที่เขาจะให้กับผู้มุ่งหวัง เช่นการเป็น Mentor ให้กับผู้มุ่งหวัง การสอนให้เขาสร้างระบบแห่งความสำเร็จได้
ทักษะที่ 3 ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง
เอาเงินจากข้อที่ 1 ที่ 2 เอาไปลงทุนในข้อที่ 3 คือท่านจะต้องพัฒนาทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง ผมบอกเลยคนส่วนมากหลงทางกันหมด ผมเห็นโฆษณา ลงทุนคลิปโต ลงทุนฟอเร็ก ลงทุนเล่นหุ้น ลงทุนโน้น ลงทุนนี่ มากกว่า 95-98% คนเหล่านี้ไม่มีทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงเลย
เขาคิดว่าเขาไปเข้าคอร์สมา 1-2 คอร์สแล้วเขาจะมีทักษะในการลงทุนระดับสูง ไม่เลยครับ แล้วเป็นไงละครับเมื่อคลิปโตราคาตก เมื่อหุ้นราคาตก คนเหล่านี้สูญเงินหมดเลย
มีใครบ้างครับที่มีประสบการณ์ในการเข้าไปลงทุนแล้วก็สูญเงิน ไม่ว่าจะธุรกิจ ไม่ว่าจะอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะหุ้น คลิปโต แล้วศูนย์ ผมคนหนึ่งครับเคยเป็น
การที่ท่านอยากจะมี ทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูง ถ้าใครเคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนการลงทุน การจะเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ การจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้น เขาจะต้องผ่านการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก่อน
แล้วถ้าท่านยังไม่เคยมี High Income Skill ท่านไม่เคยมีทักษะขยายธุรกิจ ให้มันโตขึ้นไปจนมีรายได้ มีเงินเหลือเฟือ ท่านไม่มีทักษะในการลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงหรอก เพราะท่านไม่เข้าใจว่าจะวิเคราะห์ยังไงเพื่อที่จะเลือกบริษัทได้ถูกต้องในการลงทุน
และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนกระโดดลงไป ลงทุน ลงทุนๆๆ แล้วไปต่อไม่ได้ 95-97% ตอนนี้ใครถึงบางอ้อแล้วครับว่า อยากรวย แต่ก็ไม่รวยสักที
เมื่อท่านมีเงินลงทุน ท่านจะต้องมีอสังหาริมทรัพย์ มีพันธบัติ มีหุ้น มีอะไรก็แล้วแต่ ลงทุนลงไปในสิ่งที่ท่านรู้และเข้าใจ เพราะมันถึงเวลาที่ทำให้เงินทำงานแทนท่านแล้ว
ขั้นตอนที่ 1 ที่ 2 ท่านใช้ทักษะของท่านแลกกับเงิน ใช้เวลา ใช้ชีวิตของท่านแลกกับเงิน แต่บังเอิญมันเป็น High Income Skill ท่านจึงทำเงินได้มากกว่าคนอื่น
ข้อ 2 ก็เหมือนกัน ธุรกิจทำเงินให้ท่านแล้วท่านก็ใช้ทักษะของท่าน ขยายและสร้างธุรกิจของท่านได้เยอะๆ ข้อ 1 ข้อ 2 ท่านยังไม่ได้ใช้เงินทำงานนะ แต่ข้อ 3 การลงทุนเป็นการที่ท่านนั้นใช้เงินทำงาน ที่คนเขาชอบพุดกัน แต่คนส่วนมากกระโดดข้าม 3 ขั้นตอนนี้เลยไปต่อไม่ได้
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปัน ถ้าท่านต้องการที่จะเรียนสุดยอดทักษะการทำการตลาดดึงดูด ตอนนี้แหล่งที่เรียนได้ คือ
ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ
แด่ความสำเร็จของท่าน
เชษฐวิทย์ สิงขรCo-FounderMLMOnlineSchool.com
by เชษฐวิทย์ สิงขร | Nov 25, 2018 | การพัฒนาตนเอง , สร้างธุรกิจจากที่บ้าน
ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่
นี่คือประสบการณ์ 10 ปีที่ผ่านมา ผมเคยใช้ชีวิตแบบทั้งมีเงินและไม่มีเงินมาแล้ว
ในช่วงที่ไม่มีเงินนั้น แม้แต่เงินที่จะซื้อข้าวทานก็ไม่มี เงินจะซื้อนมให้ลูกทานก็ไม่มี ต้องแบมือขอเงินจากคนอื่น เพื่อที่จะดำรงชีวิตอยู่สักระยะใหญ่ๆ
แต่หลังจากที่ผมนั้นได้เรียนรู้ เคล็ดลับสู่ความสำเร็จหลายๆอย่าง วันนี้จะแบ่งปัน 3 อย่างให้กับทุกท่าน
ท่านสามารถเลือกที่จะ อ่านบทความ หรือ ดูวีดีโอถ่ายทอดสด หรือดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 เพื่อฟังหนังสือเสียง ที่อธิบายอย่างละเอียดได้ที่นี่ทันที
วีดีโอ “ทำอย่างไรให้รวยไวไม่เกิน 3 ปี”
หนังสือเสียง “ทำอย่างไรให้รวยไวไม่เกิน 3 ปี”
สารบัญเนื้อหา วีดีโอ “ทำอย่างไรให้รวยไวไม่เกิน 3 ปี” หนังสือเสียง “ทำอย่างไรให้รวยไวไม่เกิน 3 ปี” ขั้นตอนที่ 1 ท่านต้องนำตัวเองไปอยู่ในที่ ที่ทำให้ท่านสามารถมั่งคั่งและร่ำรวยได้ ขั้นตอนที่ 2 เข้าใจถึงวิธีคิด และ ทัศนคติของคนที่มั่งคั่งร่ำรวยก่อน ขั้นตอนที่ 3 วิธีการ (ทักษะการทำการตลาด) ขั้นตอนที่ 4 มีทักษะการเป็นผู้นำ
วันนี้จะแบ่งปัน 3 อย่างให้กับทุกท่าน ได้เริ่มเตรียมตัวครับว่า หลังจากที่ผมได้เรียนรู้ความลับเหล่านี้แล้ว ทำให้ผมนั้นสามารถพลิกฟื้นชีวิตกลับมา
แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด อย่างต่อเนื่อง ตลอด 7 ปีที่ผ่านมารายได้ของผม ธุรกิจของผม โตขึ้นๆเรื่อยๆ ยังไม่เห็นมีวี่แววที่มันจะตกลงเลย
นั้นหมายความว่าจากคนที่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมากๆ ไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีเงินจะซื้อข้าวเลย กลายเป็นคนที่สามารถที่จะสอนให้คนอื่นทำเงินมากๆ
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่ลองไม่มีเงินดูสิครับท่านจะเป็นอย่างไรในปัจจุบันนี้ เงินไม่สามารถซื้อความสุขได้หรอกครับทุกท่าน แต่ลองไม่มีเงินดูสิ ท่านจะมีความสุขไหมล่ะ
เงินไม่สามารถซื้ออิสรภาพได้หรอกครับทุกท่าน แต่อันนี้ผมเถียง มันสามารถซื้อได้ ถ้าท่านมีเงินท่านไม่จำเป็นต้องทำงานประจำ เห็นด้วยไหมครับ ถ้ามีเงินอยู่ในบัญชีสัก 30 ล้าน ท่านเลือกที่จะไม่ทำก็ได้ถ้ามีอิสระมากขึ้น
ถ้าท่านมีเงิน ท่านไม่จำเป็นต้องทำงานประจำ เห็นด้วยไหมครับ
เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะแบ่งปันเคล็ดลับสำคัญของการเริ่มต้นว่า ทำอย่างไรให้เราทุกๆคนนั้นสามารถที่จะเริ่มต้นปูรากฐาน สร้างรากฐาน เพื่อทำให้เราทุกคนนั้น มั่งคั่ง ร่ำรวย รวยเร็วภายใน 1-3 ปี ซึ่งรายได้นั้นต้อง 7-8 หลัก
สิ่งที่ผมเอามาแบ่งปันนี้เกิดจากประสบการณ์จริง และ เรียนรู้จากคนที่มีรายได้ 100 ล้าน 1000 ล้าน ซึ่งผมเอามาปรับใช้มันเวิร์คมากจริงๆ
ในทัศนคติที่จะรวยไวใน 3 ปีนั้น ไม่ทราบว่าทุกท่านจะเห็นด้วยไหมว่า ไม่มียุคไหนอีกแล้วในประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ ที่คนนั้นจะสามารถมีโอกาสร่ำรวย รวยเร็ว ว่องไว ได้ภายใน 3 ปี ได้เท่ากับวันนี้ แล้วก็วินาทีนี้อีก แล้ว
ทุกท่านทราบไหมครับว่าในทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนโลกนี้ ไม่ว่าจะในระดับเล็กขนาดไหน จนถึงระดับหนัก ใหญ่ขนาดไหนก็ตาม มีคนรวย มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นเสมอครับ เกิดขึ้นตลอด
เศรษฐกิจตก แต่มีคนเห็นวิกฤตเป็นโอกาส และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ เทคโนโลยีครองโลก อินเตอร์ครองโลก การสื่อสารทั่วโลกรวดเร็วไวภายใน 1 วินาทีอย่างนี้
เศรษฐกิจตก แต่ทำไมมีบางคนรวย เพราะเห็นโอกาส
ถ้าทุกๆท่านยังไม่ได้เริ่มคิดถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย รวดเร็วภายในปีแรก หรือ ภายใน 3 ปีแรก ผมแนะนำครับว่าให้ตั้งใจในเรียนรู้ในสิ่งที่ผมจะแบ่งปันต่อไปนี้ แล้วลองดูสิครับว่า
ท่านได้สูญเสียเวลาไปกับการสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวยรึป่าว ท่านได้ลงทุนเวลาในชีวิตของท่านที่จริงๆมันมีเวลาน้อยมาก ค่าเฉลี่ยของคนในปัจจุบันอายุ 70 กว่าปีเองนะครับทุกท่าน แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านอายุเท่าไหร่กันแล้ว
เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าท่านต้องการที่จะตั้งหางเสือชีวิตใหม่ คนอื่นเป็นเศรษฐีกันได้ ทำไมเราจะเป็นไม่ได้
วันนี้ล่ะครับ จะเป็นวันที่ท่านเซตหางเสือใหม่ ตั้งหางเสือใหม่ เริ่มต้นลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องเชื่อผม แต่ขอให้ลงมือทำแล้วพิสูจน์ด้วยว่าสิ่งที่ผมแบ่งปันนั้นมันเวิร์คจริงรึเปล่า
ขั้นตอนที่ 1 ท่านต้องนำตัวเองไปอยู่ในที่ ที่ทำให้ท่านสามารถมั่งคั่งและร่ำรวยได้
ถ้าทุกท่านต้องการมั่งคั่งร่ำรวย แต่ตอนนี้ท่านยังทำงานประจำอยู่ งานประจำไม่มีอะไรผิดนะครับ นั้นหมายความว่าท่านไม่ได้อยู่ในที่ ที่จะทำให้ท่านรวยได้
เพราะถ้าเกิดว่าท่านต้องการมีรายได้เป็นเศรษฐีเงินล้านจากการทำงานประจำแล้วละก็ นั้นหมายความว่าท่านกำลังมองหาทะเลโดยที่ท่านอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงราย
คือยืนอยู่ที่เชียงราย แล้วมองหาฝั่งทะเลว่าอยู่ตรงไหน มันหาไม่เห็น มันคนละเรื่อง ท่านต้องไปยืนที่ชลบุรี ประจวบ ภูเก็ต ท่านจึงจะเห็นทะเล
เพราะฉะนั้นถ้าท่านอยากจะมั่งคั่ง ร่ำรวย ท่านต้องเอาตัวของท่านเองไปอยู่ในจุดที่ท่านสามารถมั่งคั่งร่ำรวยได้ งานประจำไม่สามารถทำให้เรามั่งคั่งร่ำรวยได้ งานประจำสามารถทำให้เรามีเงินกิน เงินใช้ เดือนต่อเดือน พอที่จะไม่ให้ขัดสน
ในยุคนี้คนที่สามารถที่จะร่ำรวยได้ต้องทำธุรกิจ ท่านจะต้องมองหาธุรกิจทำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบไหน อะไรยังไงก็ตามแต่ ขอให้เป็นธุรกิจก่อน ท่านมีโอกาสที่จะมั่งคั่ง และก็ร่ำรวยได้
ขั้นตอนที่ 2 เข้าใจถึงวิธีคิด และ ทัศนคติของคนที่มั่งคั่งร่ำรวยก่อน
เพราะคนโดยส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มี จ็อบเมนทาลิตี้ หรือว่ามีทัศนคติของงานประจำ แซกซึมอยู่ในทุกอณูในร่างกาย พอก้าวเข้ามาในโลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว โดยส่วนมากแล้วมักจะทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ
ในโลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจจะไม่มีใครบังคับ ว่าจะต้องทำงานกี่โมง เลิกงานกี่โมง แต่การเป็นพนักงานประจำโดยส่วนมากเขาใช้ชีวิตด้วยทัศนคติที่จะต้องโดนบังคับ เขาถึงจะมีแรงบันดาลใจลุกขึ้นไปทำงาน
อันนี้ทำความเข้าใจก่อนนะครับว่าไม่มีอะไรผิดจากการทำงานประจำ เพราะผมเองก็ทำงานประจำมาก่อน แต่ถ้าท่านอยากมั่งคั่งร่ำรวย ท่านต้องเข้าใจก่อนครับว่า ตั้งแต่เราเกิดมาเราถูกระบบการศึกษาบังคับให้เรานั้นต้องไปเรียนหนังสือ เรียน แข่ง ไม่ให้ผิดพลาด ห้ามผิดพลาด
ทัศนคติของคนทำงานประจำคือ พิสูจน์ให้เห็นก่อนสิ ว่าทำแล้วได้เงิน แล้วฉันจะออกไปทำ ลงไปทำ ถ้าพิสูจน์แล้วว่าทำแล้วไม่ได้เงิน ฉันจะไม่ทำ คือทัศนคติที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะฉะนั้นท่านจะต้องมีทัศนคติของการเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ท่านจำเป็นที่จะต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาการันตีครับว่ามันจะได้เงินไหม เพราะทุกธุรกิจไม่มีอะไรการันตีว่าทำแล้วจะได้เงิน
ท่านจะต้องมีวิธีคิด และมีทัศนคติของการเป็นเจ้าของธุรกิจ
การเป็นเจ้าของธุรกิจต้องมีทักษะอะไรบ้าง ผมยกตัวอย่างดังนี้ครับ
มีความศรัทธาในสิ่งที่ตัวเองทำ
มีความเชื่อ ในธุรกิจที่เราทำ
มีความมุ่งมาดปรารถนาในตัวเอง อย่างแรงกล้าที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ
ถ้าท่านมี 3 อย่างนี้ จะทำให้ท่านสามารถเอาชนะอุปสรรค์ทุกอย่าง และกระโดดก้าวข้ามอย่างง่ายดาย
นักธุรกิจทุกคนจะมีความไฝ่รู้และทุ่มเทในการเรียนรู้เพื่อที่จะเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้
ขั้นตอนที่ 3 วิธีการ (ทักษะการทำการตลาด)
ท่านเคยได้ยินคำนี้ไหมครับว่า มือสมัครเล่นนั้นจะพยายามขายให้ได้ มือสมัครเล่นจะหาทางขาย ขาย ขาย ขาย พูดออกไปแต่ละอย่าง พยายามทำให้คนซื้อให้ได้
มือสมัครเล่นเมื่อสมัครเข้าร่วม ธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ขายตรง ประกันชีวิต จะหาแต่ทางขายอย่างเดียว ซึ่งคนทั่วไปไม่ชอบ คนไม่ชอบถูกขาย ท่านต้องเข้าใจข้อนี้ แต่มือโปรจะช่วยให้คนซื้อแบบง่ายๆ จะทำยังไงให้คนซื้อได้ง่ายๆ ด้วยตัวเขาเองด้วยความเต็มใจของเขาเอง
วิชาที่สำคัญอันดับหนึ่งที่ถ้าท่านต้องการเป็นนักธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จ ท่านจะต้องรู้ครับว่า
ท่านเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมนักธุรกิจเครือข่ายคนนี้ถึงสปอนเซอร์คนแล้วคนสมัครเต็มไปหมด รายได้หลักแสนหลักล้าน ทำไมทีมงานโต ทำไมสร้างลูกค้าเต็มไปหมด ทำไมขายของออนไลน์ก็ขายได้ ขายได้เยอะ ทำไมขายประกันก็ขายได้เยอะ
เพราะเขามีทักษะในการทำการตลาด คือทำอย่างไรก็ได้ให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าของเราด้วยความเต็มใจของเขาเองโดยที่เราไม่จำเป็นต้องขาย ไม่จำเป็นต้องบอกขายเลย แต่ทำให้เขาอยากซื้อ นี่แหละคือทักษะที่คนทั่วไปไม่มี หรือ มีน้อย และไม่รู้ หาคนสอนไม่ได้
คนขายเก่ง และ คนทำการตลาดเก่ง คนละทักษะกันนะครับ จะประสบความสำเร็จแตกต่างกันมากทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ท่านขายเก่งก็ขายไป หยุดขายก็ไม่ได้เงิน แต่คนทำการตลาดโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน
ยุคปัจจุบันนี้การตลาดที่ทรงพลังที่สุดอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ คือ การตลาดออนไลน์
เพราะฉะนั้นทักษะการตลาดสำคัญมาก ทักษะการตลาดที่ผมจะแบ่งปันคือ จะแบ่งปันอย่างนี้ครับว่า คนที่ทำการตลาดเก่ง คือ คนที่เข้าใจคนอื่น ทักษะนี้สำคัญมาก
เขารู้ครับว่าทำยังไง ให้คนนั้นอยากซื้อสินค้าของเขาเอง ที่เขาไม่ต้องขาย เขารู้ครับว่าทำยังไงให้คนนั้นพร้อมที่จะควักเงินออกมา ต่อให้ไม่มีเงินก็ต้องไปหามา ไปยืมมา แล้วมาซื้อสินค้าซื้อบริการของเขาให้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องบอกขาย
การทำการตลาดคือ การทำให้ผู้คนซื้อสินค้าเองด้วยความเต็มใจ โดยที่ไม่ต้องบอกขายเลย
ถ้าท่านอยากเรียนรู้วิชาที่ทำให้ผู้คนวิ่งแข่งแย่งกัน พร้อมกำเงินหรือบัตรเครดิตในมือ เพื่อมาซื้อสินค้าจากท่าน คลิกที่นี่
ขั้นตอนที่ 4 มีทักษะการเป็นผู้นำ
ท่านเคยได้ยินมั๊ยครับว่า ทุกๆ สิ่งจะรุ่งเรือง หรือล่มสลาย ก็เพราะความเป็นผู้นำของเราเอง
ถ้าท่านต้องการเป็นนักธุรกิจที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่มีความเป็นผู้นำที่มากพอ ลืมความมั่งคั่งร่ำรวยไปได้เลยครับ
การเป็นเจ้าของธุรกิจ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การนำตัวเองให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งจำเป็นให้ได้ก่อน
ผมแนะนำให้ท่านพัฒนาการเป็นผู้นำโดยการอ่านหนังสือของ จอห์น ซี แมกซ์เวล ที่เป็นสุดยอดของโลกที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ
ผมเคยพูดเกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำ 5 ระดับเอาไว้ ท่านสามารถดูได้ที่นี่
ผมเชื่อว่าท่านได้ประโยชน์จากบทความนี้อย่างแน่นอน กดติดตามผมทุกๆช่องทางนะครับ เพื่อไม่พลาดสุดยอดวิชาเหล่านี้อีกต่อไปแล้วถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ
แด่ความสำเร็จของท่าน
กมลเวช เมืองศรีFounder & CEOMLMOnlineSchool.com
by เชษฐวิทย์ สิงขร | Nov 19, 2018 | การตลาดดึงดูด , การพัฒนาตนเอง , สร้างธุรกิจจากที่บ้าน
ถ้าท่านไม่ต้องการเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธและล้มเหลวในการสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจเครือข่ายของท่านอีกต่อไป และต้องการรู้วิธีดึงดูดผู้คนให้เข้ามาขอสมัครทำธุรกิจกับท่านเอง คลิกที่นี่
ถ้าท่านยังไม่สามารถสร้างรายได้ 7 หลักจากโลกออนไลน์ได้แล้วล่ะก็
นี่คือ ความลับ 7 อย่างที่แม้ท่านจะเริ่มต้นจากศูนย์ ก็สามารถสร้างรายได้ 7 หลักได้ภายใน 1-3 ปีนี้ ถ้าท่านเรียนรู้แล้วนำไปลงมือทำอย่างจริงจัง!
ใครก็ตามที่อยากทำเงินล้านจากโลกออนไลน์ แล้วเขาไม่ได้เอา 7 ความลับนี้ไปใช้ เขาจะลองผิดลองถูก แต่ส่วนมากจะลองผิด แล้วเขาจะตัดสินใจเลิกทำมันไป มากกว่า 90-97%
แต่ถ้าใครลงทุนกับตัวเองเรียนรู้ข้อมูลนี้ ชีวิตเขามีโอกาสพลิกอย่างรวดเร็วภายใน 1-3 ปีนี้อย่างแน่นอนท่านสามารถเลือกที่จะ อ่านบทความ หรือ ดูวีดีโอถ่ายทอดสด หรือดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 เพื่อฟังหนังสือเสียง ที่อธิบายอย่างละเอียดได้ที่นี่ทันที
วีดีโอ “7 ความลับทำเงินล้านจากโลกออนไลน์”
หนังสือเสียง”7 ความลับทำเงินล้านจากโลกออนไลน์”
สารบัญเนื้อหา วีดีโอ “7 ความลับทำเงินล้านจากโลกออนไลน์” หนังสือเสียง”7 ความลับทำเงินล้านจากโลกออนไลน์” ความลับที่ 1 โฟกัส ทำไมการโฟกัสจึงสำคัญมาก? ความลับที่ 2 แก้ปัญหา ความลับที่ 3 ใช้ง่าย หรือ ราคาไม่แพง ความลับที่ 4 เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง ความลับที่ 5 ลงมือทำให้เร็วที่สุด ความลับที่ 6 เรียนรู้ ความลับที่ 7 คู่แข่ง
ทุกท่านทราบไหมครับว่าคนรุ่นก่อนเขารวยกันได้ยังไง ลองนึกดูครับว่า คนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ของเรานั้นเขาทำเงินล้านกันได้ยังไง
เราจะได้เห็นภาพครับว่า จริงๆ แล้วโลกมันเปลี่ยนไปแล้วนะ แล้วถ้าเรายังยึดติดกับการสร้างรายได้แบบเดิมๆ เรากำลังจะโดนกำจัดออกจากระบบ
เทคโนโลยีจะกำจัดเรา ปัจจุบันนี้คนตกงานเยอะแยะ เจ้าหน้าที่ธนาคาร พนักงานออฟฟิศ พนักงานบริษัท พนักงานโรงงาน ตกงานมากมาย โดนทดแทนด้วยเทคโนโลยี และเครื่องจักร
ถ้าท่านไม่ตระหนักถึงสิ่งตรงนี้ ไม่ตื่นรู้ ท่านกำลังจะมีปัญหาในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ในยุครุ่นพ่อแม่ของเรานั้น ต้องเป็นเจ้าของโรงงาน ถึงจะทำงานล้านได้ เป็นเจ้าของธนาคาร เป็นเจ้าของที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
คำถามคือ การลงทุนเป็นเจ้าของโรงงาน ลงทุนเป็นเจ้าของธนาคาร ลงทุนเป็นเจ้าของที่ดิน ใช้เงินน้อยหรือใช้เงินมาก ซึ่งแน่นอนว่า คำตอบคือ ใช้เงินลงทุนเยอะมาก!
ถ้าเป็นท่านตอนนี้ท่านมีเงินลงทุนเป็นเจ้าของโรงงานไหม
ท่านมีเงินลงทุนเป็นเจ้าของธนาคารใหม่ไหม
ท่านมีเงินลงทุนที่จะซื้อที่ดินราคา 100 ล้านรึป่าว
ส่วนมากบอกเลยครับ 90-99 % ไม่มี!
แล้วเราจะมีโอกาสมีเงินล้านหรอ?ยัง…ยังไม่หมดโอกาส เพราะในยุคนี้มันมีคำว่า อินเตอร์เน็ต (Internet)
เพราะมันมีอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้น จึงทำให้ไม่มียุคไหนอีกแล้วที่จะเหมือนในยุคปัจจุบันนี้ ที่เรากำลังดูข้อมูลนี้อยู่ แล้วทำให้คนธรรมดาอย่างเรา สามารถที่จะเป็นเศรษฐีได้
และเรายังสามารถที่จะเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ซึ่งสมัยก่อนมีแค่ช่อง 3, 5, 7, 9 ที่คนรวยมากๆเท่านั้นถึงจะได้เป็นเจ้าของสถานี
แต่ในปัจจุบันนี้ เราทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ได้ เหมือนอย่างที่ผมทำอยู่ตอนนี้
อินเตอร์เน็ตช่วยให้เรานั้นสร้างรายได้หลักล้านได้ หรือ ระดับ 8-9 หลักขึ้นไป
ทุกวันนี้มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นทุกวันในโลกออนไลน์!
อินเตอร์เน็ตช่วยให้เราไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่ต้องมีเงินล้านบาทเพื่อที่จะเริ่มต้นธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต หรือไม่ต้องมีคอนเนคชั่นขั้นเทพ
ผมจะเอาประสบการณ์จริงของผม 7 ความลับในการทำเงินล้านในโลกออนไลน์ที่ได้รับการพิสูจน์จากกูรูจำนวนมากมาให้ท่านได้เรียนรู้และทำตามกัน
เพื่อที่ท่านจะได้นำไปสร้างเงินล้านของท่านได้ในที่สุด
ความลับที่ 1 โฟกัส
ในปัจจุบันนี้มีผู้คนมากมาย กำลังหลงไปกับเรื่องของข้อมูลที่เต็มไปหมดใน อินเตอร์เน็ต และมีคนจำนวนมากที่พยายามให้ข้อมูลกับเรา
การเรียนวิชาที่สอนในโลกออนไลน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีนะอย่าเข้าใจผิด แต่ถ้าท่านเรียนมากจนเกินไป สมองจะมึนงง แล้วไม่ลงมือทำอะไร
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญมากๆเลย คือ จะต้องโฟกัส
ทำไมการโฟกัสจึงสำคัญมาก?
มีนักข่าวไปสัมภาษณ์มหาเศรษฐี ระดับโลก 2 คน
คนที่1 ชื่อ บิลเกต
คนที่ 2 วอร์เรน บัฟเฟตต์
ทั้งสองท่านเป็น นักธุรกิจและนักลงทุนระดับโลก โดยถูกสัมภาษณ์ในต่างวาระกัน
นักข่าวถามว่า อะไรคือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จที่ทำให้คุณได้เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก
ซึ่งคำตอบที่ทั้งสองท่านนี้ตอบ คือ โฟกัส
หลายคนในยุคปัจจุบันเกิดนิสัย อยากทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมๆกัน
ถ้าท่านรู้สึกว่าวิชานั้นก็อยากเรียน วิชานี้ก็อยากเรียน อยากศึกษาที่นั่น ไปทุกสัมมนา สมัครๆๆ เรียนๆๆ แต่ไม่สร้างผลลัพธ์อะไรใหม่ๆในชีวิตเลย นั่นหมายความว่า ท่านกำลังมีปัญหากับ การโฟกัส!
ผมเห็นลูกศิษย์ที่มาเรียนกับผมจำนวนมากเลย ที่ตอนนี้กำลังหลงทางมาก เรียนไปเรื่อย เรียนหลากหลายวิชา และสาขา เรียนเยอะนั้นดี แต่เขามีทักษะในการแยกแยะรึเปล่า ส่วนมากไม่มีทักษะในการแยกแยะเลย และจะมีปัญหาคือ สมองบวม จากการที่ข้อมูลมันท่วมท้นโอเวอร์โหลดในสมองของพวกเขาพวกเขาดูไลฟ์ทุกวัน ติดตามทุกอาจารย์ แต่ไม่สร้างผลลัพธ์อะไรเลย อาจารย์ก็รวยเอา รวยเอา
ซึ่งผมแนะนำเลยครับ ถ้าอยากมีผลลัพธ์ในชีวิต ตั้งสติเดี๋ยวนี้ก่อนเลย แล้วไปยกเลิกการติดตามให้หมด
เลือกติดตามคนที่ท่านอยากจะฟังเขาจริงๆ แค่ 1-2 คน เช่น ถ้าท่านอยากจะ
ทำธุรกิจเครือข่าย ให้ประสบความสำเร็จ
สร้างธุรกิจจากที่บ้าน ให้ประสบความสำเร็จ
สร้างธุรกิจออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ
ผมบอกเลยว่าติดตามผมไว้ ไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่ได้กับได้
เพราะผมตั้งใจจะถ่ายทอดสุดยอดวิชานี้ภายใน 3 ปี ให้กับทุกท่าน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ โฟกัส
ความลับที่ 2 แก้ปัญหา
ถ้าเราต้องการที่จะขายให้ได้ เราจะต้องคิดให้ได้ครับว่า สินค้า บริการ หรือ ธุรกิจของเรานั้น มันช่วยแก้ปัญหากับผู้คนได้อย่างไรบ้างแล้วนำเสนอในรูปแบบที่สินค้าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าที่กำลังมีปัญหาอยู่ได้อย่างไร เช่น
สินค้าท่านเกี่ยวกับการช่วยคนถ่ายไม่ค่อยคล่องให้ถ่ายดีขึ้น ผู้มุ่งหวังของท่านก็จะต้องเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาเหล่านี้ แล้วสินค้าของท่านนั้นเป็นเหมือนไฟเบอร์ ที่บริโภคแล้วถ่ายคล่อง
คนที่ถ่ายไม่คล่อง แล้วเขาแบบไม่ได้มีตัวช่วย เขาจะอึดอัด อาจจะเป็นมะเร็งก็ได้
แต่หลายๆคนนะ พอไปสมัครทำธุรกิจมีสินค้านี้มา ก็โพสต์ขาย จะขายอย่างเดียว
เขาข้ามขั้นตอนที่สำคัญไปคือ ลืมสอน
สอนว่า คนที่ถ่ายไม่คล่อง คนที่มีปัญหาเรื่องท้องผูกนั้น ควรปฎิบัติตัวยังไง
ลืมสร้างเนื้อหา ลืมเอาคุณค่ามาสอน ให้กับผู้คน
เพราะฉะนั้นเขาเลยขายไม่ได้ แค่ลืมขั้นตอนในการให้คุณค่าคนนั้น ถึงกับขายไม่ได้ เลยนะครับ
และ นั่นคือ สาเหตุที่ทำให้ทุกคนมีของกองเต็มบ้าน สมัครไปเถอะไม่ว่าจะ ซิงเกิ้ล หรือ MLM ของกองเต็มบ้าน
เพราะลองโพสต์ดูแล้ว ไม่เห็นมีใครซื้อเลย ก็เพราะคุณข้ามขั้นตอนสำคัญไป
คุณไม่ได้ทำการบ้านว่าสินค้าของคุณจะแก้ปัญหาให้กับผู้คนยังไง แล้วคุณก็ไม่ได้ทำการบ้านที่ยิ่งกว่านั้นอีก คือ
คุณไม่ทราบว่าผู้คนนั้น จะซื้อสินค้าหรือสมัครทำธุรกิจกับคนที่เขา รู้จัก รัก ชอบพอ เชื่อถือ เพราะฉะนั้นคนจึงไม่ซื้อสินค้าจากท่าน
เพราะคนส่วนมากในอินเตอร์เน็ตจะซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อ รู้จัก รัก ชอบพอ เชื่อมั่นคนที่ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสทางธุรกิจ!
ในธุรกิจเครือข่าย MLM ทั้งประเทศไม่มีใครพูดเหมือนที่ผมบอก ไม่ว่าท่านจะทำบริษัทไหนก็แล้วแต่ เขาจะผลักดันให้ท่านออกไปขาย หรือ ไปชวนคน ให้เร็วที่สุด
แล้วผมก็บอกเลยแบบนั้นคือ วิธีการทำการตลาดที่ฆ่าตัวเองเร็วที่สุด
ฆ่าความสัมพันธ์ที่มีเพื่อนฝูง ฆ่าความสัมพันธ์ที่มีกับญาติพี่น้อง
อยากให้จำไว้เลยครับว่า จงทำทุกอย่างให้คน รู้จักท่าน ชอบท่าน และศรัทธาท่าน แล้วท่านจะขายอะไรก็ได้ที่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือผมแนะนำให้อ่านบทความ การตลาดดึงดูด | 7 ขั้นตอนทวีคูณผลลัพธ์ของท่านให้พุ่งกระฉูด เพื่อเรียนรู้ความลับในการดึงดูดลูกค้าและผู้มุ่งหวังของผมจนสร้างรายได้ที่ยอดเยี่ยมได้ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา
เพราะผู้คนนั้น จะซื้อสินค้าหรือสมัครทำธุรกิจกับคนที่เขา รู้จัก รัก ชอบพอ เชื่อถือหรือศรัทธา
ความลับที่ 3 ใช้ง่าย หรือ ราคาไม่แพง
สินค้าของท่าน หรือ บริการของท่าน จะต้องมี 2 อย่างนี้หรือ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ถ้ามีทั้ง 2 อย่าง นี้สุดยอดเลย
หมายความว่า สินค้าของท่านจะต้องใช้ง่าย
ยกตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้ถ้าท่านอยากจะทานอาหาร พลังพาวเวอร์ทั้งหมดอยู่ในโทรศัพท์ท่าน
ประเทศไทย แดดก็แรง อากาศก็ร้อน ฝนก็ตกบ่อย แดดก็ออกอีกแล้ว การมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน สามารถทำให้ท่านติดตั้งแอพ
เช่น LINEMAN FOODPANDA หรือว่าสั่งสินค้าดีลิเวอร์รี่ออนไลน์ ได้ง่ายๆ
อินเตอร์เนต คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ทำให้ชีวิตท่านง่ายขึ้น ดีขึ้น มันก็เลยขายได้ เพราะฉะนั้นสินค้าของท่านต้องทำให้ชีวิตของคนง่ายขึ้น
หรืออย่างที่ 2 ต้องราคาไม่แพงเกินไป
ต้องราคาจับต้องได้ ถ้าสินค้าของท่านมาถึงแล้วราคาแบบเวอร์เลย ท่านจะโดนคนที่มีสินค้าใกล้กับท่านตัดราคา แล้วท่านก็จะเงียบไปเลย
เพราะว่าคนส่วนมาก นักช็อปส่วนมาก ถ้าสินค้าเหมือนกันเขาจะซื้อของที่ถูกกว่า ถ้าบริการมันไม่ต่างกัน แต่ถ้าสินค้าของท่าน มีทั้ง 2 อย่างอยู่ในตัว
ทำให้ชีวิตของคนที่ซื้อสินค้าหรือบริการของท่านมันง่ายขึ้น
ราคาไม่แพงมาก
ผมบอกเลยครับว่าขายดิบ ขายดี ถล่มทลายแน่นอน!!!
ความลับที่ 4 เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
ถ้าท่านอยากจะสร้างธุรกิจออนไลน์ และผมการันตีว่าท่านจะต้องสร้างความผิดพลาดเยอะแยะ มากมาย ถ้ายิ่งไม่มีอาจารย์ ไม่มีเมนทอร์ที่เก่งคอยให้คำปรึกษาแล้วด้วย ท่านต้องผิดพลาดอีกเยอะ ซึ่งผมบอกเลยว่าอาจเป็น 10 เป็น 100 ครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าท่านทำพลาดไป 20 ครั้ง ท่านจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของท่าน ว่าฉันรู้แล้วนะ ว่าโพสต์แบบที่อาจารย์กมลเวช บอกว่าไม่เวิร์ค ฉันจะไม่โพสต์แบบนั้นอีกแล้วนะ
นี่ไงพัฒนา 1 อย่าง
ฉันรู้แล้วนะฉันจะไม่โพสต์ขายของ ฉันจะไม่โพสต์ชวนคนทำธุรกิจก่อน แต่ฉันจะสอนคนก่อน ฉันจะให้คุณค่าคนก่อน นี่ไงพัฒนาแล้ว 2 อย่าง
เฟสบุค ไม่ใช่ที่ขายของ แต่เป็นที่สร้างความสัมพันธ์
ความลับที่ 5 ลงมือทำให้เร็วที่สุด
ผมอยากเน้นย้ำว่า
ความเร็วนั้นสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ!
แต่ไม่ทั้งหมด!
เพราะบางครั้งความสมบูรณ์แบบสำคัญกว่า ความเร็ว
เช่น สร้างเครื่องบิน เร็วไม่ได้ ต้องสมบูรณ์แบบ ต่อเรือ เร็วไม่ได้เดี๋ยวตายทั้งลำ
แต่ถ้าในโลกธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจออนไลน์ ความเร็ว สำคัญกว่า ความสมบูรณ์แบบมาก
ยกตัวอย่างเช่น
ตอนที่ผมได้เรียนรู้สุดยอดวิชาจากนักธุรกิจออนไลน์ระดับ 100 ล้าน 1,000 ล้าน เขาสอนให้ผมสร้าง Sale Funnel หรือ ช่องทางขายให้มีรายได้ 7 หลัก
เขาบอกว่าผมจะต้อง มีเว็ปไซต์ มีบล็อก มีระบบอีเมลล์มาเก็ตติ้ง มีการทำบทความนำเสนอออกไป
ตอนนั้นผมติดในเรื่องความสมบูรณ์แบบ
เพราะผมเป็นคนที่ถ้าไม่สมบูรณ์แบบไม่รู้ทุกอย่าง ไม่เข้าใจทุกอย่าง แล้วผมจะไม่ทำอะไรเลย
ผมบอกเลยเป็นนิสัยที่ไม่ดีมากๆ และใครก็ตามที่อ่านอยู่ ที่บอกว่าต้องรู้ให้หมดก่อน ต้องเข้าใจให้หมดก่อน ก่อนจะไปชวน ก่อนจะไปทำ
บอกเลยครับว่า
ท่านเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่จะประสบความสำเร็จอะไรก็แล้วแต่ในชีวิตช้าที่สุด
หลังจากผมพัฒนาทัศนคติ ให้ทำเร็ว ทำเลย ได้ผลลัพธ์เลย ปรับแต่งให้ขึ้นทีหลัง ผลปรากฎซ่า ได้ผลลัพธ์มากกว่าเดิมหลายเท่าเลยอย่างไม่น่าเชื่อแต่ถ้ายังคงทำช้า ได้ผลลัพธ์ช้าหรือไม่ได้เลย เพราะ เอาแต่คิด เอาแต่เรียน ไม่ลงมือทำ ไม่มีทางได้ผลลัพธ์ ผมคงไม่ทำเงินมากเท่ากับทุกวันนี้แน่นอน
ความลับที่ 6 เรียนรู้
ในยุคปัจจุบันนี้ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องไปเข้ามหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด จุฬา ธรรมศาสตร์ เพื่อที่จะมีเงินล้าน
ผมก็จบราม ผมเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ผมทำเงินมากกว่าคนส่วนมากที่จบจากสถาบันเหล่านี้เยอะมาก
เพราะฉะนั้นในยุคปัจจุบันนี้ท่านสามารถเปิดเข้าไปใน Youtube อ่านบทความในบล็อก หรือว่า Facebook Live ดูโพสต์ จาก Facebook Page ต่างๆ ท่านสามารถเรียนรู้ได้ทุกวัน
จงเรียนรู้ให้มาก ท่านจงเป็น The Best แล้วท่านจะมีรายได้มากที่สุด
จงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วที่สำคัญที่สุดคือ
จงลงทุนในการเรียนรู้
ความลับที่ 7 คู่แข่ง
คู่แข่งสำคัญมาก เพราะท่านสามารถเรียนรู้และได้ประโญชน์ จากการพิจารณาได้ว่าใครเป็นคู่แข่งโดยตรงในอุตสาหกรรมที่ท่านทำอยู่
ยังไงล่ะ ท่านคงสงสัย ก็ถ้าท่านทำธุรกิจออนไลน์ ทำธุรกิจเครือข่าย ทำธุรกิจขายตรง
ท่านต้องไปดูซิว่าท่านมีคู่แข่งไหม ถ้าท่านทำธุรกิจที่ไม่ใช่ออนไลน์ ท่านเปิดร้านสะดวกซื้อ คู่แข่งก็เต็มไปหมดอยู่แล้ว
แล้วเราจะได้ประโยชน์ยังไง
สิ่งที่ผมแนะนำเลยในยุคออนไลน์ในโลกปัจจุบันนี้ เราสามารถที่จะไปอ่านบทสัมภาษณ์ของคู่แข่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของเรา
สมมุติเราทำธุรกิจออนไลน์ เราดูสิว่าคู่แข่งของเรานั้น ที่ประสบความสำเร็จมากๆ มีคนไปสัมภาษณ์เขา ต้องรีบไปอ่านเลยนะครับ
เรากำลังรู้เขา แต่เขาไม่รู้เรา ท่านจะต้องรีบไปอ่านว่าเขาให้คำสัมภาษณ์ยังไง
ส่วนมากเวลามีคนไปสัมภาษณ์ เขาจะเผยเคล็ดลับของเขา แล้วถ้าท่านไปศึกษา คนนั้น คนนี้ คนโน้น ที่เป็นคู่แข่งของท่านโดยตรงว่า
เขาเคยทำผิดพลาดอะไรมาบ้าง
เขาเคยทำอะไรที่เวิร์คบ้าง
ตอนเริ่มต้นเขาไม่มีเงิน เขาทำยังไง
หรือตอนที่เขาทำผิดพลาดไปแล้ว เขาแก้ไขยังไง
ท่านจะได้เรียนจากประสบการณ์ของคนอื่น ที่ไม่ทำให้ท่านจะต้องเจ็บตัว ไม่ต้องลงทุนลงลองผิด แล้วเสียเงินเอง แต่ว่าได้เต็มๆจากการอ่านบทสัมภาษณ์เขา
เนื้อหาสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ท่านต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ซึ่งเนื้อหาที่ผมพูดไปทั้งหมด
ผมได้แบ่งปันไว้ในคอร์สที่ชื่อว่า TopSponsorFormula
สอนกระบวนการในการสร้าง Sale Funnel
การแบรนดิ้ง นำเสนอตัวเอง
การเจาะกลุ่มลูกค้าว่าจะเจาะกลุ่มไหน
นำเสนอยังไง
สร้างแคปเจอร์เพจยังไง
อีเมลล์ติดตามผลยังไง
เขียนบทความยังไง
ทำการตลาดยังไง
ทำวีดีโอยังไง
ทำเมสเซอร์เจอบอทยังไง
ปิดสมัครคน
ให้คนเข้ามาหาเราเองยังไง
คอร์สนี้คอร์สเดียวผมบอกเลยว่าโอโห จ่ายแสนหนึ่งก็คุ้ม
ผมเชื่อว่าท่านได้ประโยชน์จากบทความนี้อย่างแน่นอน กดติดตามผมทุกๆช่องทางนะครับ เพื่อไม่พลาดสุดยอดวิชาเหล่านี้อีกต่อไปแล้วถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ
แด่ความสำเร็จของท่าน
กมลเวช เมืองศรีFounder & CEOMLMOnlineSchool.com